B2S club logo
  • Activity
    • ACTIVITY SCHEDULE
    • BOOK LOVER
  • Interesting story
    • All Interesting story
    • Article
    • Clip
    • Podcast
  • Book Review
  • Share your Story
  • Shop online
    • Special offer
    • E-Catalog
    • New arrival
    • Bestseller
    • B2S Online Shopping
  • About us
    • Contact us
    • FAQ
    • Cookie policy
    • Privacy policy
    • Terms and Conditions
    • Unsubscribe
    • Cancel Subscription
SignIn/Register
TH
    • Homepage
    • Activity
    • Book Review
    • Share your story
      Interesting story
    • All Interesting story
    • Article
    • Clip
    • Podcast
      Shop online
    • Special offer
    • E-Catalog
    • New arrival
    • Bestseller
    • B2S online shopping
      About us
    • Contact us
    • FAQ
    • Cookie policy
    • Privacy policy
    • Terms and Conditions
    • Unsubscribe
    • Cancel Subscription
  • Homepage
  • Activity
  • Interesting story
    • All Interesting story
    • Article
    • Clip
    • Podcast
  • Book Review
  • Share your story
  • Shop online
    • Special offer
    • E-Catalog
    • New arrival
    • Bestseller
    • B2S online shopping
  • About us
    • Contact us
    • FAQ
    • Cookie policy
    • Privacy policy
    • Terms and Conditions
    • Unsubscribe
    • Cancel Subscription
TH
หน้าแรก • เรื่องน่ารู้ • Article •

ชวนอ่านหนังสือวัยเด็กผ่านมุมมองใหม่ ในวัยที่เติบโตขึ้น

ชวนอ่านหนังสือวัยเด็กผ่านมุมมองใหม่ ในวัยที่เติบโตขึ้น

14 ส.ค. 68
5
582
   PhudPB
ชวนอ่านหนังสือวัยเด็กผ่านมุมมองใหม่ ในวัยที่เติบโตขึ้น

รวมหนังสือในวัยเด็กที่หยิบมาปัดฝุ่นอ่านอีกครั้ง ผ่านมุมมองใหม่ของเราในวัยผู้ใหญ่ที่เข้าใจอะไร  ๆ มากขึ้น ________________________________________

ในหนังสือหรือภาพยนตร์ที่มีธีมหลักเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลา เรามักจะได้เห็นสิ่งที่เรียกว่า “ไทม์-แมชชีน” ปรากฎอยู่ในเรื่อง คอยพาตัวละครหลักเดินทางไปทั้งในอดีตและอนาคตกันใช่มั้ยคะ แต่ทว่าในชีวิตจริง สิ่งนั้นเป็นเพียงเครื่องมือที่มนุษย์จินตนาการขึ้นและหวังว่าสักวันคงมีพาหนะที่พาเราเดินทางข้ามกาลเวลาได้ แต่เพื่อน ๆ รู้มั้ยคะ ว่าบางครั้งเครื่องย้อนเวลามันก็ไม่ได้มาในรูปแบบของไทม์แมชชีนเสมอไป ในชีวิตประจำวัน เราสามารถพบเจอเครื่องย้อนเวลาได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ร้านค้า เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่ง “หนังสือ” สิ่งเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นเครื่องย้อนเวลาชั้นดีที่จะชวนให้เราหวนนึกถึงอดีตที่ผ่านมา

เราเองเป็นคนนึงที่เก็บความทรงจำเอาไว้ในหลายรูปแบบมาก ๆ โดยเฉพาะหนังสือ เพราะเป็นสิ่งที่เราคลุกคลีอยู่ด้วยมากที่สุด หลายครั้งที่เรากลับไปอ่านหนังสือที่เคยอ่านสมัยเด็ก เพราะอยากรู้ว่าถ้าเราในวัยผู้ใหญ่ได้อ่านมันอีกครั้ง เราจะมีความรู้สึกกับหนังสือยังไง เราจะมองเนื้อเรื่องด้วยความคิดแบบไหน และเราจะได้มุมมองใหม่จากหนังสือเหล่านั้นยังไงบ้าง

นอกจากการท่องเวลาในรูปแบบของหนังสือแล้ว ร้านหนังสือเองก็เป็นสถานที่เก็บความทรงจำของเราเช่นกันค่ะ หนึ่งในร้านที่สมัยเรียนต้องแวะไปเลือกดูหนังสือประจำเลยก็คือ B2S นี่เอง เดินเลือก เดินอ่านได้นานไม่มีใครกวน แถมพี่พนักงานยังน่ารักและบริการดีมาก ๆ ด้วย เวลาผ่านไปไวจนตอนนี้ร้านครบรอบ 25 ปีแล้ว เรากลับมาคิดเล่น ๆ ว่าทุกวันนี้ ถึงคนที่เคยไปเดิน B2S ด้วยกันเมื่อก่อนจะจากไปแล้วแต่ B2S ยังอยู่รอเราไปเดินช้อปปิ้งอยู่เสมอ เดินเข้าร้านไปทีไรเหมือนได้ย้อนเวลากลับไป แต่ต่างกันที่ตอนนี้หนังสือใหม่เยอะขึ้น เครื่องเขียนใหม่และของใช้น่าสนใจก็เพียบ ร้านเดียวครบจบทุกอย่างเลย

ในบทความนี้ เราเลยจะขอมาแชร์หนังสือที่เคยอ่านในวัยเด็กและได้ย้อนกลับไปอ่านอีกครั้งตอนโตเป็นผู้ใหญ่ ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน เราเชื่อว่าทุกเล่มที่หยิบมา หลายคนน่าจะเคยอ่านกันมาเมื่อครั้งเริ่มเข้าวงการการอ่านใหม่ ๆ หรือถ้าจะบอกว่าเป็นหนังสือเล่มแรกของใครหลายคนก็คงจะไม่ผิด ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีเล่มไหนบ้าง ไปอ่านกันเลยค่ะ


1.โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง 

วรรณกรรมเยาวชนแปลจากภาษาญี่ปุ่นที่เล่าเรื่องราววัยเยาว์อันแสนบริสุทธิ์ผ่านมุมมองของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งยังแฝงประเด็นเกี่ยวกับการศึกษา ชนชั้นทางสังคม รวมถึงการต่อต้านสงครามออกมาได้อย่างเรียบง่าย แต่สั่นสะเทือนหัวใจจนอ่านกี่รอบน้ำตาก็ไหลทุกที และล่าสุดเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมานี้ ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์แอนิเมชัันมาแล้วด้วยค่ะ

หนังสือเล่าเรื่องราวของโต๊ะโตะจัง เด็กหญิงวัยกำลังโตที่โดนไล่ออกจากโรงเรียนเก่าเพราะเหตุผลว่าเธอนั้นเป็นเด็กผิดปกติ เมื่อแม่ของโต๊ะโตะจังตระหนักแล้วว่าเธอต้องหาโรงเรียนที่สามารถเข้าใจและมีพื้นที่ให้โต๊ะโตะจังแสดงออกถึงตัวตนของเธอได้มากกว่าที่เก่า ทำให้หนูน้อยได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนของครูใหญ่โคบายาชิแห่งนี้ ที่มีห้องเรียนดัดแปลงมาจากตู้รถไฟเก่า มีระบบการศึกษาที่ไม่แบ่งแยกเด็กเก่งหรือไม่เก่ง 

เด็กปกติหรือพิการ เด็กร่ำรวยหรือยากจน  โรงเรียนแห่งนี้จึงเป็นเหมือน “บ้าน” ของเด็ก ๆ ที่ไม่ได้ผลิตนักเรียนที่เก่งที่สุด แต่กลับผลิตนักเรียนที่เข้าใจการใช้ชีวิตซึ่งสำคัญที่สุดกับการโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตนั่นเอง

แกนหลักสำคัญของเรื่องที่เห็นได้ชัดและน่าประทับใจมากคือ ระบบการศึกษาแบบทางเลือกของโรงเรียนโทโมเอ โดยครูใหญ่โคบายาชิ ซึ่งมีความละเอียดอ่อนมากกว่าเด็กน้อยทั่วไป เพราะเด็ก ๆ เหล่านี้ไม่สามารถอยู่ในระบบการศึกษาปกติได้ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะโตะจังที่ต้องย้ายออกจากโรงเรียนเก่าเพราะความประพฤติที่ผู้ใหญ่มองว่าไม่มีวินัยและไม่น่ารักสำหรับเด็กวัยนี้แล้ว ยังรวมถึงเด็กที่ด้อยโอกาสเพราะความพิการ เช่น ร่างกายแคระแกร็น เป็นโรคโปลิโอ เป็นต้น

ที่โรงเรียนแห่งนี้ พวกเขาทุกคนถูกโอบกอดด้วยความรักและความเข้าใจอย่างอดทนอดกลั้นและเท่าเทียมกันโดยไม่มีการแบ่งแยกด้วยชนชั้นทางสังคมหรือเงินทอง จากครูใหญ่ที่มีวิสัยทัศน์ต่างไปจากระบบโรงเรียนอื่น ๆ  ทำให้โรงเรียนแห่งนี้ กลายเป็นสถานที่ในอุดมคติที่ไม่เพียงเอื้อต่อการเติบโตของเด็กๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สมบูรณ์พร้อม แต่ยังเป็นสถานที่ปลอดภัยให้กับหัวใจดวงน้อยเหล่านั้นอีกด้วย

ความรู้สึกหลังจากอ่านเล่มนี้ครั้งแรก : ตอนอ่านหนังสือเล่มนี้ครั้งแรก เป็นช่วงที่เราเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น แล้วก็ไม่ได้เป็นวัยรุ่นที่ตีความวรรณกรรมเก่งอะไรเลยค่ะ ฮ่า ๆ แต่เรากลับรู้สึกประทับใจและซาบซึ้งจนน้ำตาไหลในการกระทำของผู้ใหญ่ในเรื่องนี้ และมิตรภาพที่เกิดขึ้นในโรงเรียนระหว่างโต๊ะโตะจังกับเพื่อนร่วมชั้นว่าช่างเป็นอะไรที่อบอุ่นใจมาก ๆ อีกทั้งการมีอยู่ของโรงเรียนแห่งนี้ยังเป็นการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็ก ๆ ด้อยโอกาสโดยไม่มองว่าพวกเขาแตกต่างจากเด็กปกติเลยค่ะ

ความรู้สึกหลังจากอ่านเล่มนี้อีกครั้ง : ในวัยผู้ใหญ่ที่กลับไปอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วก็ยังน้ำตาไหลอยู่ แต่คราวนี้ไม่ได้ร้องไห้เพราะความประทับใจเพียงอย่างเดียวแล้วค่ะ แต่มันยังเต็มไปด้วยความรู้สึกสงสารและเห็นใจ เพราะถ้ามองกันในความเป็นจริงแล้ว สถานที่ในอุดมคติแบบนี้จะมีอยู่สักกี่ที่กันบนโลก มันอาจจะจริงอยู่ที่ในปัจจุบันนั้นมีการอำนวยความสะดวกและเพิ่มโอกาสให้กับผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษามากมาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับโอกาสนั้น เลยทำให้เรารู้สึกเศร้าเมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบ อีกอย่างอาจจะเพราะเราโตเป็นผู้ใหญ่และมองโลกด้วยความเป็นจริงมากขึ้น เลยอดสงสารเด็ก ๆ ที่ต้องเผชิญหน้ากับการโดนตัดสินจากสังคม ความโหดร้ายจากสงคราม รวมถึงสภาวะทางร่างกายและใจที่ถูกตัดสินไว้ว่าไม่ปกติไม่ได้เลย

2.ต้นส้มแสนรัก 

หนังสือวรรณกรรมเยาวชนคลาสิกที่ได้รับการตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องและถูกนำไปแปลแล้วกว่า 30 ภาษาด้วยกัน แค่นั้นยังไม่พอนะคะ หนังสือเล่มนี้ยังเป็นเล่มที่ไอดอลคนดังอย่าง พัคจินยอง ศิลปินเกาหลีหนึ่งในสมาชิกวง Got7 หรือ คิมนัมจุน หัวหน้าวง BTS หยิบมาอ่าน จนทำให้เกิดเป็นกระแสอ่านตามไอดอลนั่นเองค่ะ

เนื้อเรื่องเล่าถึงชีวิตของ เซเซ่ เด็กชายวัย 5 ขวบที่เกิดมาในครอบครัวยากจน มิหนำซ้ำพ่อของเขายังตกงานและสิ้นหวังกับชีวิต ทำให้แม่และพี่ ๆ ต้องช่วยกันทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว เขาถูกเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นท่ามกลางความรุนแรง มันส่งผลให้เซเซ่เป็นคนก้าวร้าว เนื่องจากความเจ็บปวด ความคับแค้นใจและความโกรธที่โดนลงโทษหนักเกินไป สะสมและก่อตัวขึ้นในหัวใจของเด็กชาย ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาไม่รู้จักการแสดงความรักด้วยซ้ำเพราะทุกคนในครอบครัวต่างก็ยุ่งอยู่กับการทำงานหาเงินและจมจ่อมอยู่กับปัญหาของตัวเองจนไม่เหลือเวลามาทำความเข้าใจพฤติกรรม รับฟังปัญหาและไม่เห็นคุณค่าของคนในครอบครัว

เวลาผ่านไป ร่องรอยของการถูกทำร้ายทางกายอาจเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่บาดแผลในใจนั้นลึกยิ่งกว่าและดูเหมือนว่ามันจะกลายเป็นปมในหัวใจของเซเซ่ เขากลายเป็นเด็กที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง รู้สึกว่าไม่มีใครต้องการและโดดเดี่ยวอยู่เสมอ จนวันหนึ่งเมื่อต้องย้ายไปอยู่บ้านใหม่ ทำให้เซเซ่ได้พบกับต้นส้มพูดได้ ที่สามารถปลอบใจและเป็นเพื่อนเล่นของเขาในเวลาที่โดนลงโทษด้วยการกักบริเวณ หรือแม้ในยามที่มีเรื่องไม่สบายใจ ต้นส้มก็เป็นเหมือนเพื่อนคนโปรดที่คอยรับฟังอย่างเข้าใจและไม่ตัดสินเขาเหมือนกับคนอื่น ๆ  ทำให้เซเซ่รู้สึกอบอุ่นใจ สนุกและมีความสุขไปกับเพื่อนในจินตนาการคนนี้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ก็เพียงไม่นานเมื่อต้นส้มแสนรักของเขากำลังจะถูกตัด ทำให้เซเซ่พยายามทำทุกทางเพื่อที่จะรักษาเพื่อนที่ดีเพียงคนเดียวในชีวิตของเขาไว้ให้ได้

แกนหลักสำคัญของเรื่องที่เห็นได้ชัดเลยคือ ปัญหาของเด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่ไม่มีความพร้อมทางการเลี้ยงดูที่ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนทางการเงิน หรือการสนับสนุนทางด้านจิตใจ ส่งผลให้เด็กแสดงพฤติกรรมทางลบมาเพื่อต่อต้านหรือรับมือกับความเจ็บปวด ในขณะเดียวกัน ก็สร้างโลกและเพื่อนที่ดีในจินตนาการของตนเองขึ้นมาเพื่อหาทางหลบหลีกจากความโหดร้ายของสถานการณ์จริง ทำให้หนังสือเล่มนี้นอกจากจะเป็นเล่มที่เด็ก ๆ ควรอ่านเป็นหนังสือนอกเวลาแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองก็ยังควรอ่านดูสักครั้งเพื่อเรียนรู้ ทำความเข้าใจและสะท้อนมุมมองของการเลี้ยงเด็ก เพื่อนำมาปรับใช้กับการดูแลเด็ก ๆ ที่บ้านให้เติบโตมาอย่างเจ็บปวดน้อยที่สุดและมีบาดแผลทางใจน้อยที่สุดกันค่ะ

ความรู้สึกหลังจากอ่านเล่มนี้ครั้งแรก  : ส่วนตัวตอนเด็ก ๆ เรารู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้เศร้าและง่วงมาก ต้องใช้ความอดทนในการอ่านครึ่งแรกอย่างหนัก แต่พอผ่านไปสักพักจะเริ่มสนุกขึ้น แอบขำไปกับความซนของเซเซ่และไม่ได้คิดถึงประเด็นที่แฝงอยู่ในหนังสือมากนัก ตีความสิ่งที่หนังสือสื่อออกมาเพียงด้านเดียว คือ พ่อแม่เซเซ่ใจร้ายจัง พี่ ๆ ของเขาไม่น่าเล่นด้วยเลย รวมถึงผู้ใหญ่ในหนังสือเล่มนี้เป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย แอบคิดแทนเซเซ่ว่าถ้าเป็นเราคงหนีออกจากบ้านไปแล้วแน่ ๆ ฮ่า ๆ

ความรู้สึกหลังจากอ่านเล่มนี้อีกครั้ง : บอกได้คำเดียวเลยว่า “หน่วง” มาก ๆ ความเจ็บปวดของทุกคน บีบคั้นหัวใจเราไปหมดเลยค่ะ เพราะพอเห็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญแล้วก็เข้าใจว่าทั้งตัวพ่อที่ต้องรับมือกับความเครียด ความผิดหวังจากการตกงาน แม่ของเซเซ่ต้องแบกรับหน้าที่ดูแลทั้งครอบครัว จนทำให้ทั้งสองละเลยลูก ๆ และทำหน้าที่ของพ่อแม่ได้อย่างไม่ดีนัก ส่วนตัวเซเซ่เองที่ต้องมารับกรรมความเจ็บปวดมือสองของคนในครอบครัวนี่แทบไม่ต้องพูดซ้ำแล้วว่าน้องน่าเห็นใจเป็นที่สุด จนเมื่อปิดหนังสือ เราแอบอธิษฐานว่าขอให้เด็ก ๆ ที่ต้องเผชิญกับชะตากรรมแบบเดียวกับเซเซ่ได้พบกับคนที่จะมาช่วยเยียวยาจิตใจให้น้องได้โตไปอย่างเข้าใจชีวิตและรักษาบาดแผลทางใจให้ดีขึ้นได้ในที่สุด เรียกได้ว่าการกลับมาอ่านหนังสือเล่มนี้อีกครั้งในวัยผู้ใหญ่ ทำให้เราเห็นว่าเราได้เปลี่ยนมุมมองที่เคยมีกับตัวละครใหม่และสะท้อนความคิดต่อหนังสือเล่มนี้เปลี่ยนไปมากแค่ไหนเลยค่ะ


3.เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) 

นิยายที่ซุกซ่อนความหมายของความรักจากดาว B612 เขียนโดย อองตวน เดอ แซงเตก-ซูเปรี เล่มนี้มีอายุ 82 ปีแล้ว ด้วยความที่อยู่คู่นักอ่านมานานขนาดนี้ และไม่มีท่าทีเลยว่าหนังสือเล่มนี้จะเลือนหายไปตามกาลเวลา เพราะนอกจากที่หนังสือจะถูกดัดแปลงไปในหลายเวอร์ชันทั้งการ์ตูน มังงะ หรือหนังสือภาพแล้ว ยังมีสื่อประเภทอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายมาเตือนความทรงจำให้แฟนคลับนึกถึงอยู่ตลอด ๆ เช่น ภาพยนตร์ การแสดงบัลเลต์และโอเปร่า เลยอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เหล่านักอ่านหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านซ้ำอีกครั้งในช่วงเวลาที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นเราเอง ได้อ่านเจ้าชายน้อยครั้งแรกตอนเป็นวัยรุ่นอายุ 15 และได้อ่านซ้ำอีกครั้งในวัย 25 ปี ทิ้งระยะเวลาห่างมาครบ 10 ปีพอดีค่ะ

เรื่องราวของเล่มนี้ เริ่มต้นเล่าผ่านมุมมองของเด็กชายวัยหกขวบที่อยากรู้ว่าผู้ใหญ่จะมีจินตนาการเท่ากับเด็กหรือไม่ จึงวาดภาพงูเหลือมที่กินช้างให้พวกเขาดู ผู้ใหญ่ตอบว่าภาพนั้นมันคือหมวก เด็กชายให้โอกาสอีกครั้งด้วยการวาดภาพช้างในงูเหลือมให้ดู แต่กลับถูกผู้ใหญ่บอกให้เขาศึกษาสิ่งที่ "สำคัญ” และ "สมเหตุสมผล" กับพวกเขา แทนที่จะพูดถึงเรื่องเพ้อฝัน

เด็กชายคนนั้นโตขึ้นและกลายเป็นนักบิน วันหนึ่งเครื่องบินของเขาตกในทะเลทรายซาฮารา ห่างไกลจากผู้คนและสิ่งอำนวยความสะดวก เขาต้องรีบซ่อมเครื่องบินก่อนที่น้ำจะหมด แต่ ณ ที่นั้น เขาได้พบกับเจ้าชายน้อย ตลอดหลายวันที่พยายามซ่อมเครื่องบิน นักบินได้ฟังเรื่องราวของเจ้าชายน้อยที่ตัดสินใจบอกลากุหลาบแสนสวยของเขาบนดาว B612 และการเดินทางไปยังดวงดาวอื่น ๆ ระหว่างที่จากมา จนในที่สุดก็มาถึงดาวโลกและได้พบกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกที่ได้สอนให้เจ้าชายน้อยเข้าใจถึงความเปราะบางของความสัมพันธ์ แต่ในท้ายที่สุดเจ้าชายน้อยก็ได้จากนักบินไป แม้ว่าตอนจบของเรื่องจะไม่สวยงามนัก แต่เรื่องราวของเจ้าชายน้อยก็ได้สร้างความประทับใจให้นักอ่านจนหนังสือถูกแปลไปกว่า 300 ภาษาทั่วโลก

ความรู้สึกหลังจากอ่านเล่มนี้ครั้งแรก : หลังจากอ่านจบครั้งแรก เราตีความหนังสือเล่มนี้ในแง่เดียวเท่านั้น คือเข้าใจว่าเป็นนิทานสำหรับเด็ก  เพราะเรายึดเรื่องภาพวาดของเด็กชายตอนเริ่มเรื่องเป็นหลัก การที่ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจถึงภาพวาดของเด็กชายมันสื่อให้เห็นตรง ๆ ว่าพอถึงวัยนึงเราจะหลงลืมจินตนาการและการมองโลกอย่างสวยงามในวัยเด็กไป และการพบกันของเจ้าชายน้อย ดอกกุหลาย ผู้คนบนดาวต่าง ๆ นักบิน รวมถึงเจ้าสุนัขจิ้งจอกก็เป็นเพียงการผจญภัยที่เขียนมาให้เด็ก ๆ อ่านเท่านั้น

ความรู้สึกหลังจากอ่านเล่มนี้อีกครั้ง :  เราได้ค้นพบความหมายและวิธีการดูแลความรักความสัมพันธ์ที่ซุกซ่อนอยู่ในหนังสือมากมายผ่านความสัมพันธ์ของตัวละครหลักในเรื่อง ทั้งยังได้มุมมองใหม่เกี่ยวกับผู้คนที่เจ้าชายน้อยได้พบเจอบนดาวต่าง ๆ ว่าเมื่อเราออกเดินทางไปสู่สถานที่กว้างใหญ่มากยิ่งขึ้น ผู้คนที่เราจะได้พบเจอก็จะมีหลากหลายประเภทมากขึ้นไปด้วย สุดท้ายคือจากที่เราอ่านเจ้าชายน้อยในครั้งแรกแล้วไม่ร้องไห้ แต่ว่ารอบนี้กลับต้องหาทิชชู่มาซับน้ำตาเพราะบทเรียนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ชวนให้ปวดใจอยู่มากเหมือนกัน

สั่งซื้อ เจ้าชายน้อย คลิก

คลิก icon shop

ครบแล้วค่ะกับหนังสือวัยเด็กที่เราอยากชวนทุกคนกลับไปอ่านอีกครั้งเพื่อเป็นการเปิดมุมมองใหม่ให้กับตัวเอง อีกทั้งยังอาจจะทำให้เพื่อน ๆ ได้รับบทเรียนใหม่ที่หนังสือตั้งใจจะสื่อออกมาแต่ว่าเราเคยมองข้ามไปก็ได้นะคะ 

อย่างไรก็ตาม การกลับไปอ่านหนังสือเล่มเดิมที่เคยอ่าน การดูหนังเรื่องเก่าที่เคยชอบ รวมถึงการทบทวนเรื่องราวในอดีตทั้งดีและไม่ดีใหม่อีกครั้ง มันไม่ได้ทำให้เราเป็นคนยึดติดกับอดีตเสมอไป ถ้าเราย้อนกลับไปหามันแบบผู้สังเกตการณ์ มองหาบทเรียนและข้อดีของมัน หาจุดที่ทำพลาดไปแล้วในอนาคตพยายามจะไม่ทำพลาดอีก เราว่ามันเป็นวิธีนึงที่ทำให้เราพาตัวเองก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและเข้มแข็งขึ้น 

ไว้เจอกันอีกครั้งในบทความหน้า อย่าลืมกลับไปอ่านหนังสือที่เราป้ายยานะคะ 


มาเป็นชาว B2S CLUB ด้วยกันนะ สมัครสมาชิก
คลิกเลย!
Share
สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ คลิกเลย! icon shop
  • Children-Book,
  • ครอบครัวและเด็ก,
  • Novel

ความคิดเห็น

5.0
กำหนดไฟล์รูป jpg, png, gif ขนาดไม่เกิน 5 MB เท่านั้น
เรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ
ดีไซน์ที่ห่อไว้ด้วยความสุข เปิดกล่องความคิดสร้างสรรค์ ของผู้ชนะ B2S Gift Design Contest 2025
ดีไซน์ที่ห่อไว้ด้วยความสุข เปิดกล่องความคิดสร้างสรรค์ ของผู้ชนะ B2S Gift Design Contest 2025
Product of the week: LAMY safari x Harry Potter 2025
Product of the week: LAMY safari x Harry Potter 2025
ทริคห่อของขวัญใน 5 นาที โดยไม่ต้องตัดกระดาษ
ทริคห่อของขวัญใน 5 นาที โดยไม่ต้องตัดกระดาษ
ฝึกวาดวัดอรุณด้วยสีน้ำ พร้อมวิวพระอาทิตย์งดงาม ไม่ยากอย่างที่คิด!
ฝึกวาดวัดอรุณด้วยสีน้ำ พร้อมวิวพระอาทิตย์งดงาม ไม่ยากอย่างที่คิด!
หยิบ 5 เล่มนี้ ทวบทวนชีวิตก่อนเริ่มปีใหม่ เตรียมรีสตาร์ทหัวใจไปด้วยกัน
หยิบ 5 เล่มนี้ ทวบทวนชีวิตก่อนเริ่มปีใหม่ เตรียมรีสตาร์ทหัวใจไปด้วยกัน
ทายนิสัยจากแนวหนังสือที่ชอบ บอกเลยแม่นนะ!
ทายนิสัยจากแนวหนังสือที่ชอบ บอกเลยแม่นนะ!
ดูทั้งหมดview all promotion b2s

ต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิก B2S Club

กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนดำเนินการต่อ

เข้าสู่ระบบสมาชิก

ต้องการยกเลิกโปรดติดต่อ

ฝ่ายบริการสมาชิก The 1 หรือ The1 Call Center
ที่หมายเลข 02-660-1000 ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 22.00 น. เพื่อแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสาร

รับทราบข้อมูล

ยกเลิกการเป็นสมาชิก B2S Club

กรุณากรอกหมายเลขสมาชิก B2S Club ที่ท่านต้องการยกเลิก

ยืนยันหมายเลข

การยกเลิกสมาชิก B2S Club

จะมีผลให้ส่วนลด พลังสะสมหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับจะถูกยกเลิกในทันที และหากท่านกลับมาสมัครใหม่ในภายหลังจะถือเป็นสมาชิกใหม่

  • หากท่านเพียงต้องการยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสารเท่านั้น กรุณาติดต่อ The1 โทร 02-660-1000 ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 22.00 น.
  • หากท่านต้องการยกเลิกสมาชิก B2S Club และสิทธิประโยชน์ของสมาชิก กดยืนยัน
ยืนยัน
เปลี่ยนใจ

บัญชี B2S Club และสิทธิประโยชน์ทั้งหมด

ของท่านจะถูกยกเลิกทันที หลังจากท่านกดยืนยัน

เปลี่ยนใจ
  • Keyword
  • Parenting Book
  • Exam Book
  • Fiction
  • Selfhelp Book
  • Children Book
  • Mnaga/Comic
  • Art & Craft fo Kids
  • Art & Craft
  • Education Toy
  • Tutor
  • Self Development
  • หนังสือจิตวิทยา
  • ครอบครัวและเด็ก
  • นิยายวาย
  • หนังสือและการ์ตูนความรู้
  • BackToSchool

  • Homepage
  • Activity
  • Article
  • Book Review
  • Share your story
  • Member Benefits

  • Special offer
  • E-Catalog
  • New arrival
  • Bestseller
  • B2S online shopping

  • Contact us
  • FAQ
  • Cookie policy
  • Privacy policy
  • Terms and Conditions
  • Unsubscribe
  • Cancel Subscription
    B2S CLUB
  • Homepage
  • Activity
  • Article
  • Book review
  • Share your story
  • Member Benefits
    Shop online
  • Special offer
  • E-Catalog
  • New arrival
  • Bestseller
  • B2S online shopping
    About us
  • Contact us
  • FAQ
  • Cookie policy
  • Privacy policy
  • Terms and Conditions
  • Unsubscribe
  • Cancel Subscription

Subscribe for latest deals

b2sclub-facebook b2sclub-twitter b2sclub-instagram b2sclub-youtube b2sclub-line
  • Central Department Store
  • Robinson Department Store
  • Supersports
  • Central Marketing Group
  • Tops
  • Matsukiyo
  • GO Wholesale
  • Thaiwatsadu
  • BnB home
  • Auto1
  • Powerbuy
  • OfficeMate
  • B2S
  • MEB
  • Robinson Lifestyle
  • the1
  • gowow
  • petme
TOP

© 2021 B2S CLUB, All rights reserved. Web Design by 1001click.