เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเป็นวันนักเขียนสากล เราเลยอยากชวนเพื่อน ๆ ชาว B2S Club มาอ่านสนุกรับธีมใหม่กันในเดือนนี้ด้วยหัวข้อ “ผลงานเขียนจากปลายปากกานักเขียนที่เราควรลองอ่านสักครั้งในชีวิต” ดูเป็นเรื่องใหญ่โตเมื่อพูดถึงนักเขียนที่เราควรได้อ่านผลงานสักครั้ง มันต้องเขียนดีเบอร์ไหนนะ ต้องเป็นงานระดับได้รับรางวัล หรือเป็นงานทรงคุณค่าที่อาจจะอ่านยากเกินไป ไม่เหมาะกับยุคสมัยแล้วหรือเปล่า ความจริงแล้วก็มีส่วนที่ใช่ และส่วนที่ไม่ใช่
ผลงานเขียนจะนับได้ว่าดีหรือไม่ดี ในแง่หนึ่งก็มาจากตัวผู้อ่านเองเป็นคนตัดสิน ทั้งจากทัศนคติและประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคน แต่ในอีกแง่หนึ่ง งานเขียนที่ได้รับรางวัลมานับไม่ถ้วน ยังคงถูกตีพิมพ์ซ้ำ ๆ ถูกแนะนำบอกต่อทุกยุคทุกสมัย และยังคงอยู่ในลิสต์หนังสือที่ควรอ่าน มันบ่งบอกได้เหมือนกันว่านั่นคือผลงานที่ดี และเราควรจะลองอ่านมันสักครั้ง หรืออาจเป็นเล่มใด ๆ ก็ได้จากปลายปากกานักเขียนคนนั้น เพราะถือได้ว่าชื่อนักเขียนที่ประทับอยู่คือเครื่องหมายการันตีความปัง ขณะเดียวกัน ผลงานที่ยังไม่แมส ยังไม่เคยได้รางวัล หรือยังปรากฏสู่สายตาผู้อ่านน้อย ก็ไม่ได้หมายความว่าผลงานนั้น ๆ จะไม่ดีเทียบเท่า
งานเขียนบางชิ้นใช้เวลาบ่มเพาะนานเกือบทศวรรษ ศตวรรษ หรืออาจนานกว่านั้น กว่าจะมีใครสักคนมาพินิจพิศเพ่ง เห็นว่ามันเป็นเพชรและป่าวประกาศให้โลกได้รู้ว่ามันดีขนาดไหน บางผลงานก็ดังเปรี้ยงปร้างภายในไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน ไม่กี่ปี แถมกวาดรางวัลอันสมศักดิ์ศรีมาให้ผู้ประพันธ์ และบางเรื่องราว ยังคงแฝงตัวเงียบเชียบอยู่ในร้านหนังสือหรือมุมชั้นที่ไหนสักที่ รอคอยนักอ่านตาดีมาค้นพบมัน ทั้งหมดนี้คงเป็นเรื่องของจังหวะและเวลา ที่ทำให้โลกของนักเขียนและนักอ่านมาบรรจบกัน วันนี้เราเลยขออาสา พาโลกของนักเขียนจากฝั่งเอเชียและฝั่งยุโรป ที่ได้รับการการันตีจากนักอ่านว่าควรได้ลองอ่านงานเขียนสักครั้ง มาหมุนรอบนักอ่านชาว B2S Club กัน
รูปภาพจาก han-kang.net/Biography
Han Kang นักเขียนหญิงชาวเกาหลีใต้วัย 53 ปีที่พึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมปีนี้มาหมาด ๆ และเป็นชาวเกาหลีใต้คนแรกด้วยที่ได้โนเบลสาขานี้ เราว่านักอ่านฝั่งเอเชียและคนในแวดวงวรรณกรรมคงอดภาคภูมิใจกับเธอไม่ได้ การจะได้รับการยอมรับผลงานในระดับสากลโลกไม่ใช่เรื่องง่ายสักนิด แต่เธอทำสำเร็จ (เอาเข้าจริง แม้การประกวดงานเขียนใด ๆ สักงาน หรือการจะเขียนอะไรสักอย่างให้เสร็จออกมาเป็นชิ้น ๆ เรื่อง ๆ ก็นับว่ายากแล้วใช่มั้ยคะ) รางวัลนี้จึงไม่เพียงเป็นเครื่องการันตีฝีมือที่สั่งสม แต่ยังบ่งบอกว่างานเขียนของเธอสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดความสะท้านสะเทือนในจิตใจของผู้คนได้อย่างแท้จริง
ลายเซ็นหรือความเป็นเอกลักษณ์ของ Han Kang ที่ปรากฏสู่สายตานักอ่าน คือการเล่าเรื่องผ่านความเจ็บปวดและความซับซ้อนในจิตใจคน โดยมีบริบทสังคมที่เน่าเฟะ ความสูญเสียที่ไม่อาจยอมรับได้ และบาดแผลจากประวัติศาสตร์ชาติที่ยังคงฝังลึกอยู่ในจิตใจ เข้ามาผสมอบอวลอยู่ด้วยในเนื้องาน หรือจะพูดให้ตรงกว่านั้นก็คือ เธอนำเสนอชีวิตอันร้าวรานของมนุษย์ออกมาได้ถึงแก่น ผลงานของเธอจึงเป็นรสชาติที่คอวรรณกรรมควรลิ้มลอง เพราะไม่เพียงจะได้สัมผัสกับภาษาที่สละสลวย แต่ความสละสลวยนั้นยังแฝงฝังไปด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ ที่ทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นจนหยดสุดท้าย
งานชิ้นเอกที่ทำให้ Han Kang เป็นที่รู้จักในระดับสากลคือ The Vegetarian นิยายที่ได้รับรางวัล Man Booker International Prize 2016 เล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ตัดสินใจจะเป็นมังสวิรัติเพียงเพราะเธอฝันเห็นสัตว์โดนฆ่า จากภาพฝันคืนนั้น กลายมาเป็นการเอาจริงเอาจังกับการปฏิวัติการกิน ซึ่งการไม่กินเนื้อสัตว์อาจเป็นเรื่องง่ายสำหรับหลายคน แต่ไม่ใช่สำหรับเธอซึ่งเป็นชาวเกาหลี และเป็นผู้หญิงที่เติบโตมาในสังคมชายเป็นใหญ่ เธอถูกมองเป็นตัวประหลาด ใช้ชีวิตยากขึ้นเรื่อย ๆ โดนทำร้ายร่างกาย โดนคุกคามทางเพศ และในท้ายที่สุดลงเอยด้วยการเป็นผู้ป่วยจิตเวช ขนลุกมากเหมือนกันนะ ที่เหตุของเรื่องมาจากแค่เพราะว่าผู้หญิงคนหนึ่งเลือกจะไม่กินเนื้อสัตว์ แค่นั้น แต่มันดันกลายเป็นชนวนที่นำพาความขมขื่นเกินจินตนาการมาสู่ชีวิตคนคนหนึ่งได้ คือนอกจากนิยายเรื่องนี้จะมีประเด็นให้ชวนติดตามจนจบเล่ม มีเค้าโครงที่แปลกใหม่ มันยังทำหน้าที่กระตุกต่อมบางอย่างในใจคนอ่านด้วย ไม่แปลกใจที่เล่มนี้จะได้รางวัลระดับนานาชาติ และไม่แปลกใจที่ผลงานอีกหลายชิ้น เป็นเส้นทางไปสู่รางวัลโนเบลที่ Han Kang ได้รับในวันนี้
มีอีกหลายเรื่องทีเดียวที่น่าติดตามอ่าน เราเชื่อว่าในไทยจะมีผลงานของ Han Kang ฉบับแปลเร็ว ๆ นี้ ซึ่งนอกจากเรื่องเด็ด ๆ อย่าง The Vegetarian ก็ยังมี The White Book, Greek Lessons, Human Acts และอีกมากมาย รอลุ้นกันได้เลยค่ะว่าฉบับแปลไทยเราจะได้อ่านเล่มไหนก่อน ซึ่งไม่ว่าเล่มไหน ๆ ก็ควรค่าแก่การลองอ่านมาก ๆ
รูปภาพ Tony Evans/Getty Images
Roald Dahl นักเขียนชาวเวลส์เชื้อสายนอร์เวย์ที่คอวรรณกรรมไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเขาเป็นเสมือนคุณตาใจดีที่เขียนเรื่องเล่าเหนือจินตนาการไว้มากมาย เรื่องเล่าเหล่านั้นไม่เพียงพานักอ่านไปโลดแล่นในโลกที่ชุบชูใจคนทุกช่วงวัยได้อย่างสนุกสนาน แต่ยังแฝงข้อคิดหลาย ๆ อย่างไว้ด้วย และที่สำคัญคือผลงานทุกชิ้นของดาห์ลคลาสสิกเหนือกาลเวลา ถูกตีพิมพ์ซ้ำ ๆ ชนิดที่นักอ่านวัยไหนก็รู้จักชื่อของเขา หลายเรื่องยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ที่ทั้งสนุกและดีต่อใจ จนตกแฟนหนังให้กลายมาเป็นแฟนหนังสือได้อีกด้วย
เหตุผลที่ทำให้ผลงานของดาห์ลเป็น all-time favorite นั้นมีอยู่ไม่กี่ข้อ แต่เป็นไม่กี่ข้อที่หนักแน่นเพียงพอที่จะบอกใครต่อใครได้ว่าควรลองอ่านงานของเขาสักครั้งในชีวิต
ผลงานที่แนะนำว่าทุกคนควรลองอ่านก็คงหนีไม่พ้น โรงงานช็อคโกแล็ตมหัศจรรย์, มาทิลดา, แม่มด และถ้าอ่าน 3 เล่มนี้จบ ควรตามเก็บที่เหลือให้ครบค่ะ ไม่ควรพลาดจริง ๆ เพราะงานของดาห์ลทั้งสนุก ทั้งน่าตื่นเต้นชวนลุ้น และอบอุ่นหัวใจไปพร้อม ๆ กันเลย
หนังสือแม่มด มีขายที่ B2S ด้วยนะ สั่งซื้อออนไลน์ คลิก:
หนังสือเคาตุ่ณ มีขายที่ B2S ด้วยนะ สั่งซื้อออนไลน์ คลิก:
วันหยุดนี้ใครมีเวลา ลองปล่อยใจปล่อยจอยอ่านหนังสือของฮันคัง และโรอัลด์ ดาห์ล ดููสักครั้ง (งานของดาห์ลมีแปลไทยแล้วเกือบทุกเล่มนะ ต้องขอบคุณสำนักพิมพ์และนักแปลที่ทำให้เราได้มีโอกาสอ่านงานเขียนระดับโลก สนุกมากจริง ๆ) เผื่อว่าเมื่ออ่านจบ เราอาจมีลิสต์หนังสือเล่มโปรดเพิ่มขึ้นมาอีกสักเล่มในเดือนนี้ก็ได้นะ