การเลี้ยงลูกเชิงบวก เทคนิคดีๆ ในมุมมองของ หมอโอ๋ เจ้าของเพจดัง “เลี้ยงลูกนอกบ้าน” พญ. จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
“เราตระหนักดีว่าในโลกยุคใหม่ การเรียนจากตำราอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต่อไป เด็กๆต้องการการดูแลเอาใจใส่ ด้วยความรักความเข้าใจอย่างใกล้ชิดจากคุณพ่อคุณแม่ โดยเฉพาะการส่งเสริมพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ เพื่อเป็นคนเก่ง และคนดี รับผิดชอบต่อสังคม
“เหตุผลที่หมอหันมาทำหน้าที่ของ “หมอวัยรุ่น” เพราะค้นพบว่า วัยรุ่น “ซ่อมยาก” กว่าการสร้างเด็กคนหนึ่ง หมอจึงไม่อยากให้พ่อ-แม่เริ่มต้นเลี้ยงดูพวกเขาผิดๆ แล้วมาคิดแก้ปัญหาตอนวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่ไม่ง่ายต่อการช่วยเหลือ มีคำกล่าวว่า “การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งต้องใช้คนทั้งหมู่บ้าน” หมอจึงอยากทำหน้าที่เล็กๆ ของคนในหมู่บ้าน เพื่อช่วยแบ่งปันความรู้ในการดูแลเด็ก และเขียนหนังสือขึ้นมาในฐานะของแม่ที่เลี้ยงลูกแบบมีความสุข บ้านของเราอบอุ่นไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ หมอเชื่อว่า นี่เป็นผลพวงจากการเลี้ยงดูที่เข้าใจธรรมชาติของสมองมนุษย์ ซึ่งนำไปสู่การเลี้ยงลูกเชิงบวกนั่นเอง
“การเลี้ยงลูกเชิงบวก คือวิธีการเลี้ยงลูกที่เข้าใจหลักการทำงานของสมองในทางวิทยาศาสตร์ โดยเน้นการเลี้ยงลูกด้วยความรัก ความเข้าใจในความแตกต่าง และความหลากหลายในตัวเด็กแต่ละคน โดยเราจะใช้ระเบียบวินัยเป็นเครื่องมือในการเลี้ยงดู ไม่ใช้ความรุนแรงทั้งคำพูดและการกระทำ แต่เราใช้วิธีการสอนหรือการโค้ชชิ่ง เพื่อให้เด็กได้เห็นผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาสังคมไทยเติบโตมากับวัฒนธรรมเชิงอำนาจและวัฒนธรรมเชิงลบ โดยคุณพ่อคุณแม่จะมีอำนาจเหนือลูก ครูมีอำนาจเหนือศิษย์ จึงใช้วิธีการบังคับ ขู่ ทำให้กลัว และตีให้หลาบจำ ซึ่งแตกต่างจากการเลี้ยงลูกเชิงบวก ที่เราจะไม่ทำร้ายตัวตนของเด็ก ไม่สร้างบาดแผลในระหว่างการเติบโต แต่เราจะให้คำชื่นชม ให้กำลังใจ สอนให้ลูกเรียนรู้ผลลัพธ์ตามธรรมชาติ และฝึกให้เขามีวินัยอย่างสม่ำเสมอ
“หลักการเลี้ยงลูกเชิงบวกนั้น เกิดจากการกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนคิดวิเคราะห์แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ สมองส่วนบวกหรือ “สมองส่วนคิด” สมองส่วนกลางหรือ “สมองส่วนอารมณ์” และสมองส่วนล่างหรือ “สมองส่วนสัญชาตญาณ” ที่มีการพัฒนาที่ดีตั้งแต่แรกเกิด และทำงานร่วมกับสมองส่วนอารมณ์ เพื่อกระตุ้นให้มนุษย์รู้จักการเอาตัวรอดจากความรู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อมนุษย์ตกอยู่ในสภาวะไม่ปลอดภัยหรือมีความกดดัน ความเครียด สมองส่วนสัญชาตญาณจะตอบสนองทันที ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ หนี หรือการยอม ซึ่งในครอบครัวที่พ่อ-แม่ใช้ความรุนแรงในการเลี้ยงดู การตอบสนองทั้ง 3 แบบมักจะส่งผลลบต่อการพัฒนาตัวตนของเด็ก หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้พ่อ-แม่เข้าใจเด็กอย่างลึกซึ้ง และแนะนำหลักการเลี้ยงลูกเชิงบวกเพื่ออนาคตที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา”