ว่าไงวัยรุ่นเด็ก 69 เดินทางกันมายาวนาน สู้กันมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายสำหรับการเตรียมตัวสอบแล้ว อย่าลืมลงทะเบียน TCAS69 กันล่ะ ลงได้ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. เป็นต้นไปเลย ลงให้เรียบร้อย และเตรียมตัวให้พร้อม เพราะจะมีสนามรบ เอ้ย สนามสอบอีกมากมายที่รอน้องๆ อยู่ ไม่ว่าจะเป็น TGAT, TPAT และ A-Level
มาถึงจุดนี้ หลายๆ คนคงรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กันแล้วใช่ไหม หากใครรู้สึกว่ายังเตรียมตัวไม่ดีพอ เพราะเนื้อหาที่ออกสอบมีมากมายจะอ่านยังไงให้ทัน B2S CLUB อยากจะมาแชร์เทคนิคการอ่านหนังสือฉบับด่วนจี๋ ที่จะมาช่วยให้น้องๆ เก็บคะแนนปังๆ และวางแผนการอ่านหนังสืออย่างมีสติในช่วงเวลาเร่งด่วนแบบนี้ จะมีวิธีไหนกันบ้างมาดูกันเลย~
ในช่วงที่เหลือเวลาไม่มากในการอ่านหนังสือสอบ การอ่านแบบจับฉ่ายโดยตั้งใจว่าจะเก็บเนื้อหาทุกบทคงจะไม่ทันการ เลยอยากให้น้องๆ เริ่มต้นจากการทำเช็กลิสต์ว่าเนื้อหาที่ต้องสอบนั้นมีกี่วิชา และแต่ละวิชาประกอบด้วยบทเรียนเรื่องใดบ้าง จากนั้นให้ทำการจัดลำดับความสำคัญเลือกเก็บเฉพาะบทที่ออกสอบบ่อย หรือบทที่สามารถทำคะแนนได้ง่าย และให้ลองดูว่าตัวเองมีความถนัดในบทเรียนนั้นๆ มากน้อยแค่ไหน แล้วจึงเทน้ำหนักในการอ่านทบทวนไปตามลำดับความถนัดนั้น ก็จะช่วยประหยัดเวลาไปได้มากเลยแหละ
ต่อมาให้น้องๆ เริ่มทำสรุปทบทวนออกมาด้วยภาษาของตัวเอง โดยเลือกใช้สัญลักษณ์ในการจดย่อ การวาดภาพประกอบ หรือการใช้ Mind mapping แล้วแต่ชอบได้เลย วิธีนี้จะช่วยให้น้องๆ จดจำสิ่งที่อ่านได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติ เพราะเนื้อหาที่ซับซ้อน จะได้ถูกทำให้ย่อยง่ายขึ้นตามแบบฉบับของเรา อีกทั้งการได้ลงมือทำเองกับมือก็มั่นใจได้ว่าเนื้อหานั้นมันต้องผ่านตาเรามาอย่างน้อยครั้งหนึ่งชัวร์ๆ
ลองเริ่มต้นทำสรุปง่ายๆ โดยใช้สมุดโน้ตดีๆ สักเล่ม และเซตปากกาสีน้ำ 36 สีสุดคุ้ม ที่ B2S CLUB จับคู่มาให้ก็ได้นะ หากสนใจก็กดสั่งซื้อกันได้เลย~
หรือน้องๆ คนไหนเป็นสายมินิมอล ต้องการจดสรุปออกมาให้เรียบง่ายที่สุด เพียงแค่ใช้กระดาษโน้ตเล็กๆ กับปากกาไฮไลท์จดและเน้นที่ข้อความสำคัญก็ช่วยให้จดจำเนื้อหาได้แบบจึ้งๆ แล้ว เพราะสีสันจะช่วยกระตุ้นความจำต่อสิ่งนั้นผ่านสัมผัสทางตา การใช้ไฮไลท์จึงเป็นเหมือนการกำหนดสิ่งที่ต้องการจำให้ชัดเจนขึ้นนั่นเอง หากสนใจเลือกซื้อกระดาษโน้ตน่ารักๆ และปากกาไฮไลท์คุณภาพดี ก็ลองจิ้มดูที่นี่กันได้เลยนะ~
หลายคนมักจะคิดว่าการอ่านหนังสือแบบโต้รุ่งยันเช้าจะทำให้การสอบของเราออกมาปังเพราะได้ใช้เวลาในการอ่านทบทวนมาอย่างเต็มที่ยันวินาทีสุดท้าย แต่หารู้ไม่ว่า ผู้ชนะที่แท้จริงคือคนที่นอนพักผ่อนก่อนการสอบได้อย่างเต็มที่ต่างหาก เพราะในระหว่างที่นอนพักผ่อน สมองจะทำการประมวลและจัดลำดับความคิดต่างๆ อย่างเป็นระบบ เมื่อตื่นขึ้นมาสิ่งที่จำไปก่อนหน้าจะถูกจัดเรียงอย่างเข้าที่เข้าทางทำให้เนื้อหาที่ท่องจำมาเข้าหัวโดยอัตโนมัติิ เมื่อสมองปลอดโปร่ง ข้อสอบจะยากแค่ไหนก็ไตร่ตรองได้อย่างรอบคอบและไม่ตื่นตระหนก คะแนนจึงออกมาเริ่ดยังไงล่ะ ดังนั้นถึงแม้เวลาจะกระชั้นชิดเข้ามาทุกที แต่น้องๆ ห้ามละเลยเรื่องการพักผ่อนเป็นอันขาด และให้ถือว่าการนอนหลับอย่างเพียงพอเป็นกฎเหล็กสำคัญในการเตรียมตัวสอบอยู่เสมอ เพราะแค่นอนให้พอทุกอย่างก็จะออกมาดีเอง!
นอกจากเรื่องการพักผ่อนแล้ว สภาพแวดล้อมในการอ่านหนังสือก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ลองถามตัวเองดูว่าบรรยากาศในการอ่านหนังสือแบบไหนที่เหมาะกับตัวเรา หากชอบอ่านอยู่ที่บ้านก็ควรจัดมุมอ่านหนังสือในบรรยากาศที่เงียบสงบเพื่อเพิ่มสมาธิในการจดจ่อ และควรจัดโต๊ะอ่านหนังสือให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ เพราะแม้จะต้องอ่านหนังสือกองโตแบบเดือดๆ แต่ถ้าจัดโต๊ะให้น่าใช้ เราก็จะรู้สึกผ่อนคลายและอ่านหนังสือได้มากขึ้นแบบแทบจะสิงอยู่ที่โต๊ะเลยยังไงล่ะ ลองเริ่มต้นจากการซื้อชั้นวางปากกาลายน่ารักๆ และกล่องจัดระเบียบของ B2S มาใส่เครื่องเขียนบนโต๊ะดูสิ~
หรือถ้าน้องๆ คนไหนเป็นสายชอบอ่านหนังสือนอกบ้าน B2S CLUB ก็อยากจะแนะนำสถานที่ที่ดีต่อใจจนทำให้อยากอ่านหนังสือเยอะๆ อย่าง B2S Think Space ที่มีหลายสาขาทั่วกรุงเทพฯ สะดวกที่ไหนก็เข้าไปใช้บริการกันได้เลยน้า~ แต่ขอแอบป้ายยาสาขาเซ็นทรัลชิดลมเป็นพิเศษ เพราะที่นั่นมีอุโมงค์หนังสือเก๋ๆ และพื้นที่ก็กว้างขวางเหมาะเป็นที่ผ่อนคลายของเด็กเตรียมสอบแบบสุดๆ
ขอบคุณรูปภาพจาก https://runmefit.com
Pomodoro เป็นเทคนิคในการบริหารเวลาที่จะช่วยให้เราสามารถโฟกัสกับงานที่ทำอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการแบ่งเวลาการทำงานออกเป็นช่วงๆ สลับกับการพักเป็นช่วงๆ เช่นกัน คิดค้นโดย Francesco Cirillo และถูกตั้งชื่อตามเครื่องตั้งเวลาในครัวที่มีรูปทรงเป็นมะเขือเทศ (Pomodoro แปลว่ามะเขือเทศในภาษาอิตาเลียน)
วิธีการของเทคนิคนี้จะเริ่มต้นจากการกำหนดสิ่งที่จะอ่าน และทำการจับเวลาโดยให้จดจ่อกับสิ่งนั้นอย่างเต็มที่เป็นเวลา 25 นาที จากนั้นให้ทำการพักสั้นๆ โดยจับเวลาไว้ที่ประมาณ 5 นาที และทำแบบเดิมนี้วนไป 4 รอบ หลังจากนั้นจะเข้าสู่การพักใหญ่โดยให้จับเวลาประมาณ 30 นาที ก่อนจะวนลูปทำแบบเดิมอีกครั้ง
หากทำตามเทคนิคนี้อย่างเคร่งครัด น้องๆ จะสามารถอ่านหนังสือสอบได้ทันตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความมีวินัยขั้นสุด เพราะหากอยู่ในช่วงอ่านหนังสือแล้วก็ต้องตั้งใจและห้ามว่อกแว่ก ส่วนช่วงเวลาพักก็ต้องพักแบบจริงๆ โดยอาจเป็นการพักสายตา พักทานข้าว หรือออกไปเดินเล่น ส่วนการเล่นมือถือจะไม่ถือเป็นการพักนะ! หากน้องๆ ทำตามเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวันอย่างการอ่านหนังสือได้สำเร็จแล้ว เป้าหมายอันยิ่งใหญ่อย่างการสอบติดก็อยู่เพียงแค่เอื้อมเท่านั้น
B2S CLUB ขอแชร์อีกหนึ่งตัวช่วยสุดเก๋ในการช่วยท่องจำหรือทำโจทย์ตามแบบฉบับนักเรียนญี่ปุ่น นั่นก็คืออุปกรณ์คู่กายอย่างเจ้าแผ่นฟิล์มสีแดงใส ที่เราจะพบเห็นนักเรียนญี่ปุ่นพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยแทบจะตลอดเวลาแม้กระทั่งบนรถไฟ สิ่งนั้นคืออุปกรณ์ที่จะเอาไว้ใช้ปิดคำแปลหรือคำตอบของศัพท์หรือโจทย์ข้อนั้นๆ ที่เฉลยถูกเขียนไว้ด้วยอักษรสีแดง ถือเป็นอุปกรณ์ง่ายๆ แต่ให้สารพัดประโยชน์ แถมยังพกพาสะดวก น้องๆ เด็ก 69 สามารถเอาไปปรับใช้และพกไปท่องหนังสือได้ทุกที่เลยนะ~
ขอบคุณรูปภาพจาก X : ติ่งญี่ปุ่น lll @tingjapanese_
ทบทวนให้ตายแต่ถ้าไม่ฝึกทำโจทย์ก็สูญเปล่า! การฝึกทำโจทย์เป็นการเพิ่มความเข้มข้นในการเตรียมตัวสอบของน้องๆ ให้สมจริงมากยิ่งขึ้น จนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันของเวลาที่เรียกได้ว่าเป็นตัวตัดสินชี้ขาดอนาคตของน้องๆ ได้เลย หลังจากอ่านหนังสือหรือสรุปที่ทำขึ้นเองจนจำได้ขึ้นใจแล้ว น้องๆ ควรจำลองบรรยากาศให้เหมือนกับการสอบจริงมากที่สุด โดยเพิ่มการฝึกทำโจทย์ลงในตารางอ่านหนังสือของตัวเองและทำการจับเวลาให้เหมือนกับตอนอยู่ในสนามสอบนั้นๆ เพื่อดูว่าเราสามารถทำข้อสอบได้ทันไหม มีโจทย์แนวไหนที่เราต้องใช้เวลากับมันมากจนกระทบกับเวลาทำข้อสอบโดยภาพรวม และหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เช่น คำนวณข้อนั้นเท่าไหร่ก็ไม่ได้คำตอบตรงกับตัวเลือกที่มีอยู่เลย เราจะแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้ายังไง จะเห็นว่าแค่การจับเวลาฝึกทำโจทย์อย่างเดียวก็สะท้อนอะไรหลายๆ อย่างทีี่อาจเกิดขึ้นได้ในเวลาสอบจริงมาให้เห็นแล้ว นี่จึงเป็นเหมือนการหาแผนรับมือให้กับตัวน้องๆ ล่วงหน้า เช่น หากรู้ว่ายังทำข้อสอบไม่ทันเวลา ก็ต้องปรับหรือคิดหาวิธีจนกว่าจะทำทัน หากรู้ว่าเรายังไม่แม่นในเนื้อหาเรื่องไหนก็กลับไปเน้นย้ำทบทวนให้มากกว่าเดิม การทำซ้ำๆ จนกว่าจะอุดรอยรั่วพวกนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ จะทำให้น้องๆ มีชัยไปกว่าครึ่งในการลงสนามจริง!
เทคนิคสุดท้ายที่ B2S CLUB อยากจะมาแนะนำก็คือ การติวหนังสือกับเพื่อนๆ อาจฟังดูธรรมดา แต่หลังจากที่เราอ่านทบทวนและฝึกทำโจทย์ด้วยตัวเองแล้ว การติวหนังสือนี่แหละที่จะสะท้อนผลจากการเตรียมตัวของเราออกมา หากเราเป็นฝ่ายติวให้เพื่อนก็จะถือว่าเราได้ทบทวนบทเรียนไปในตัวอีกครั้ง ทำให้เราจำข้อมูลนั้นได้มากขึ้น และการที่เราสามารถอธิบายให้คนอื่นฟังได้ก็จะถือว่าเข้าใจในเรื่องนั้นเป็นอย่างดีนั่นเอง แต่กลับกัน ถ้าเราเป็นฝ่ายที่ฟังเพื่อนติวให้ในวิชาหรือบทที่เราไม่ถนัด แม้จะหลงลืมไปบ้างแต่เสียงเพื่อนที่ดังก้องอยู่ในหัวก็จะช่วยเราไม่มากก็น้อยในห้องสอบ ส่วนตัวเพื่อนที่มาติวให้ก็ได้ทบทวนและแลกเปลี่ยนความรู้กับเราด้วยเช่นกัน น้องๆ จะเห็นว่าการติวหนังสือกับเพื่อนนั้นมีแต่ได้กับได้ ไม่มีฝ่ายไหนเลยที่เสียประโยชน์ แถมยังเป็นการกระชับมิตรในกลุ่มเพื่อน เพื่อก้าวเข้าสู่รั้วแห่งอนาคตอย่างการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไปด้วยกันอีกด้วย
หากรู้สึกขอบคุณเพื่อนคนไหนที่อุตส่าห์สละเวลามาติวให้และอยากซื้อของขวัญไปฝากละก็ ที่ B2S ก็มีเซตเครื่องเขียนน้องหมีเนยสุดน่ารักวางจำหน่ายอยู่นะ เหมาะกับการให้เป็นของขวัญสุดๆ สามารถกดสั่งซื้อกันที่นี่ได้เลยน้า~
และนี่ก็คือ 5 เทคนิคดีๆ สำหรับอ่านหนังสือฉบับเร่งด่วน ที่ B2S CLUB อยากจะมาแนะนำให้กับน้องๆ เด็ก TCAS69 หวังว่าจะนำไปปรับใช้สำหรับการเตรียมตัวสอบครั้งสำคัญที่กำลังจะมาถึงกันได้อย่างดีนะ ขอให้น้องๆ ทุกคนฮึดสู้ให้สุดแรงเพื่อมหาวิทยาลัยและคณะที่หวัง เพราะ “ความพยายามไม่เคยทรยศใคร” ขอให้โชคดีน้า~
ฝ่ายบริการสมาชิก The 1 หรือ The1 Call Center
ที่หมายเลข 02-660-1000 ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 22.00 น. เพื่อแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสาร
จะมีผลให้ส่วนลด พลังสะสมหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับจะถูกยกเลิกในทันที และหากท่านกลับมาสมัครใหม่ในภายหลังจะถือเป็นสมาชิกใหม่
ของท่านจะถูกยกเลิกทันที หลังจากท่านกดยืนยัน