เคยไหม…เปิดหนังสือมาแค่สองหน้าแล้ววางเพราะมัน “ไม่มีอะไรเลย”
แต่บางเล่ม...แค่ประโยคแรกก็ทำให้เราหยุดหายใจไป 3 วินาที
นั่นแหละ - หนังสือที่ควรอ่านก่อนตาย มันไม่ใช่แค่ "ดี" แต่มัน เปลี่ยนเรา ได้จริง ๆ
ในยุคที่อะไร ๆ ก็รวดเร็วไปหมด ทั้งเนื้อหาบนหน้าฟีด บทความสั้น ๆ ที่สรุปทุกอย่างใน 3 นาที หรือคลิปรีวิวที่ดูจบได้ในไม่กี่วินาที เราเลยอยากชวนหยุดนิ่งลงสักหน่อย แล้วเปิดพื้นที่ให้ “หนังสือ” ได้กลับมาทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง ไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องรีบแค่เลือกเล่มที่ใช่ แล้วค่อย ๆ เปิดอ่านทีละหน้า เหมือนค่อย ๆ กลับมาฟังเสียงตัวเองอีกครั้ง
ลิสต์นี้รวมไว้ให้แล้ว 10 หนังสือที่ควรอ่านก่อนตาย ไม่ใช่เพราะเป็น Must-read ตามกระแส ไม่ใช่เพราะมีชื่อเสียงระดับโลก แต่เพราะมันคือเล่มที่อ่านแล้ว “เปลี่ยนบางอย่างในตัวเรา” ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บางเล่มอาจพาให้ตั้งคำถามกับชีวิต บางเล่มอาจพาให้น้ำตาซึมเงียบ ๆ ในคืนที่เหนื่อย และบางเล่ม...อาจทำให้เรากลับมารักการใช้ชีวิตอีกครั้ง
ถ้าเล่มไหนสะกิดใจ ก็อย่าปล่อยให้ผ่านไปเฉย ๆ เพราะชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะอ่านอะไรที่ธรรมดาเกินไปจริง ๆ
“เราไม่ได้ทำให้ข้าวสาลีเชื่อง ข้าวสาลีต่างหากที่ทำให้เราเชื่อง”
— Yuval Noah Harari
เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ (Sapiens: A Brief History of Humankind) โดย Yuval Noah Harari คือหนึ่งในเล่มที่ควรอยู่ในลิสต์ “อ่านก่อนตาย” อย่างมาก ไม่ใช่แค่เพราะขายดีทั่วโลก หรือว่าเขียนโดยนักวิชาการดัง แต่เพราะมันเปลี่ยนวิธีที่เรามอง ตัวเอง และ โลกทั้งใบ ไปเลย หนังสือเล่มนี้ไม่ได้แค่เล่า “อดีต” ของมนุษย์ แต่มันเปิดมุมมองใหม่ให้ว่า ที่ผ่านมา มนุษย์เราคิดว่า "เราเจ๋ง" ได้ยังไง และจริง ๆ แล้ว…เราเจ๋งจริงมั้ย?
Harari พาเราไล่ตั้งแต่ยุคหิน จนถึงโลกยุคเทคโนโลยีสุดโต่ง จากเผ่าล่าสัตว์ในป่า สู่พนักงานออฟฟิศหน้าจอสี่เหลี่ยม จากการเล่าเรื่องรอบกองไฟ สู่การเชื่อใน "แบรนด์" และ "เงิน" ถ้ายังไม่เคยอ่าน แนะนำให้หาเล่มนี้มาไว้ใกล้มือ เพราะมันอาจเปลี่ยนวิธีที่เพื่อนๆ มองโลกไปตลอดชีวิต
“สิ่งสำคัญนั้นมองไม่เห็นด้วยตา ต้องมองด้วยหัวใจเท่านั้น”
— Antoine de Saint-Exupéry, The Little Prince
เจ้าชายน้อย (The Little Prince) โดย Antoine de Saint-Exupéry ถ้าจะมีหนังสือสักเล่มที่ “ดูเหมือนจะเขียนให้เด็ก” แต่กลับ ปลุกบางอย่างในใจผู้ใหญ่ได้ลึกจนเงียบไปทั้งคืน ต้องเล่มนี้เลย — เจ้าชายน้อย (The Little Prince) เล่มบาง ๆ แต่ความรู้สึกไม่บางเลย เพราะในโลกที่โตขึ้นทุกวัน เราอาจลืมไปว่า “ความสำคัญบางอย่าง...ตาเปล่ามองไม่เห็น” เจ้าชายน้อย เป็นนิทานปรัชญาที่เขียนเรียบง่าย แต่บาดลึก มันพูดถึงความรัก การเติบโต ความโดดเดี่ยว มิตรภาพ และการจากลา ผ่านการเดินทางของเด็กชายตัวเล็กจากดาว B-612 ที่ออกสำรวจโลกและพบเจอผู้ใหญ่หลากหลายประเภทที่ “ดูจริงจัง” แต่ “ไร้สาระในสายตาเด็ก”
เจ้าชายน้อย ไม่ใช่แค่หนังสือที่ควรอ่านก่อนตาย แต่มันคือหนังสือที่ควรอ่าน เวลาที่รู้สึกว่าเราใช้หัวเยอะไป และใช้ใจน้อยเกิน ถ้ายังไม่เคยอ่าน ลองเปิดใจให้เล่มนี้ดูสักครั้ง บางทีเจ้าชายตัวเล็ก ๆ คนนั้น…อาจทำให้เรากลับมาเป็น “ตัวเรา” ที่ลืมไปนานแล้วก็ได้
"วิธีชนะการถกเถียงที่ดีที่สุดคือ...อย่าถกเถียงตั้งแต่แรก"
— Dale Carnegie
วิธีชนะมิตรและจูงใจคน (How to Win Friends and Influence People) โดย Dale Carnegie เพราะเราเกิดมาไม่ได้อยู่คนเดียว และความสามารถในการ “เข้ากับคนให้เป็น โดยไม่เสียตัวตน” คือหนึ่งใน Soft Skill ที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ อย่างคุยกับเพื่อน ไปจนถึงสร้างความน่าเชื่อถือในการงาน
เล่มนี้ไม่ได้สอนให้ประจบ สอพลอ หรือเฟคใส่กัน แต่มันสอนให้ “เข้าใจคน” อย่างลึกซึ้ง พูดให้ง่ายก็คือ ถ้าอ่านเล่มนี้จบ แล้วเอาไปใช้จริง คนรอบตัวจะอยากอยู่ใกล้โดยที่เราไม่ต้องพยายามฝืนอะไรเลย
หนังสือวิธีชนะมิตรและจูงใจคน ไม่ใช่แค่ “หนังสือพัฒนาตัวเอง” แต่มันคือคู่มือที่ช่วยให้เรา “ใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น” ได้ดีขึ้นอย่างมหาศาล และถ้ายังไม่เคยอ่าน ขอบอกเลยว่า ชีวิตนี้ยังขาดของดีอยู่หนึ่งอย่าง หนังสือเล่มนี้อาจไม่ได้เปลี่ยนโลกทั้งใบ แต่ถ้าอ่านจบแล้วเอาไปใช้ มันอาจเปลี่ยนโลกของคนรอบตัวได้แบบที่เราคาดไม่ถึงเลยก็ได้
“ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่มาจากนิสัยเล็ก ๆ ที่ทำทุกวัน”
— James Clear
เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น (ATOMIC HABITS) โดย James Clear เป็นหนังสือที่พูดถึงพลังของนิสัยเล็ก ๆ ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตทั้งระบบได้อย่างยั่งยืน ไม่ได้บอกให้เราตื่นตี 5 หรือวิ่งมาราธอนทันที แต่บอกให้เราเริ่มจากแค่วันละ 1% แล้วดูชีวิตค่อย ๆ เปลี่ยน
หนังสือเล่มนี้คือหนังสือที่ช่วยให้เราเลิกฝันว่า “ต้องเปลี่ยนชีวิตให้ยิ่งใหญ่” แล้วหันมาเปลี่ยนวันธรรมดา ๆ ให้ดีขึ้นทีละนิด และจะไม่ตะโกนใส่เรา แต่จะกระซิบเบา ๆ ว่า "เริ่มเถอะ แค่นิดเดียว…แล้วชีวิตจะไม่เหมือนเดิมอีกเลย"
ถ้ายังไม่เคยอ่าน ขอบอกเลยว่า เล่มนี้เป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่จะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น — และมันเริ่มจากแค่นิสัยเล็ก ๆ ของวันนี้เอง
“สิ่งใดที่ใจสามารถจินตนาการและเชื่อมั่นได้...ก็สามารถทำให้เป็นจริงได้เช่นกัน”
— Napoleon Hill
คิดแล้วรวย (Think and Grow Rich) โดย Napoleon Hill หนังสือเล่มนี้คือ ต้นตำรับของแนวคิดเรื่อง “พลังความคิด + การลงมือทำ” ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และไม่ใช่แค่หนังสือ "รวยเร็ว" ตามท้องตลาด แต่มันคือ "ระบบความคิด" ที่ใช้ได้กับทุกเรื่องของชีวิต ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน
Napoleon Hill สัมภาษณ์นักธุรกิจระดับตำนานกว่า 25 ปี เพื่อหาคำตอบว่า “อะไรคือความลับของคนที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก?” คำตอบไม่ใช่โชค ไม่ใช่ทุน แต่คือ ทัศนคติ ความตั้งใจ และวินัยในความคิด
“เราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่เราเลือกได้ว่าจะทำให้อนาคตเบาขึ้นแค่ไหน — และการเยียวยาตัวเองคือหน้าที่ของเรา”
— Vex King
พลังแห่งการเยียวยาที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต (Healing Is the New High) โดย Vex King เป็นอีกหนึ่งเล่มต้องมีอยู่ในลิสต์หนังสือที่ควรอ่านก่อนตายแบบไม่ต้องคิดเยอะเพราะมันไม่ได้แค่สอนให้ “ฮีลใจ” ตอนเศร้า แต่คือคู่มือพาเรากลับมาเชื่อมต่อกับตัวเองแบบลึกมาก
ทุกคนล้วนมีบาดแผล ทั้งที่มองเห็นและที่ซ่อนอยู่ในใจ หลายครั้งเราใช้เวลาทั้งชีวิตหนีจากความเจ็บปวด มากกว่าจะเรียนรู้วิธีอยู่กับมัน หนังสือเล่มนี้บอกเราว่า การเยียวยาไม่ใช่เรื่อง “ฟีลดี” ชั่วคราว แต่คือทักษะที่ช่วยให้เรามีชีวิตอย่างอิสระจากอดีต Vex King ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริงที่ผ่านทั้งความสูญเสีย ความรุนแรง และความยากลำบาก โดยไม่ขายฝันว่า “คิดบวกแล้วจะหาย” แต่ชวนให้เรายอมรับสิ่งที่เกิด ฝึกอยู่กับมันอย่างอ่อนโยน และค่อย ๆ ปลดปล่อยมันไป
นี่ไม่ใช่แค่หนังสือให้กำลังใจ แต่คือเครื่องมือเยียวยาที่พกติดตัวได้ตลอดชีวิต อ่านจบแล้วอาจจะไม่ทำให้ทุกปัญหาหายไป แต่จะทำให้เราใช้ชีวิตได้โดยไม่ให้บาดแผลเก่าเป็นคนขับรถแทนเราอีกต่อไป
“สัตว์ทุกตัวเท่าเทียมกัน แต่บางตัวเท่าเทียมกว่าตัวอื่น”
— George Orwell
แอนิมอล ฟาร์ม & หนึ่ง-เก้า-แปด-สี่ (Animal Farm 1984) โดย George Orwell นิทานเสียดสีการเมืองในรูปแบบสัตว์บนฟาร์ม ที่เริ่มจากการปฏิวัติเพื่อเสรีภาพ แต่กลับบิดเบือนกลายเป็นการกดขี่รูปแบบใหม่ ความเท่าเทียมถูกเขียนแก้ไปจนหมด เปลี่ยนฟาร์มให้เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
1984 พาเราเข้าสู่โลกดิสโทเปียที่ “บิ๊ก บราเธอร์” ควบคุมความคิด จับตามองทุกอิริยาบถ และบิดเบือนความจริงเป็นอีกอย่างที่มันไม่ใช่ ความทรงจำถูกรีไวซ์ และไม่มีใครหนีจากระบบนี้ได้โดยไม่เสียตัวเอง
ทั้งสองเรื่องนี้คือ กระจกที่ทำให้เราตาสว่าง ไม่ใช่แค่กับการเมืองระดับประเทศ แต่ยังสะท้อนอะไรบางอย่างในชีวิตประจำวันที่เราอาจมองข้ามไปเกินกว่าจะเมินเฉยได้ อยากให้เพื่อน ถือเล่มนี้ไว้ในมือให้ไว เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องที่อ่านจบแล้วเก็บ แต่คือเล่มที่อ่านแล้ว “ทิ้งไม่ลง” แน่นอน ไปจัดเล่มนี้มาอ่านด่วน แล้วเตรียมตัวว่า เมื่ออ่านจบ โลกใบนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
“เลิกตามแพสชั่นที่ไม่ใช่เรา... แล้วปล่อยให้ชีวิตพบเส้นทางของตัวเอง”
— Terri Trespicio
แพสชั่นที่ไม่ใช่ ทิ้งไปก็ไม่ผิด หนังสือเล่มนี้เป็นมากกว่าหนังสือพัฒนาตนเองธรรมดา มันคือกระจกที่กระตุกให้เราหยุดถามตัวเองว่า “เรากำลังวิ่งตามชีวิตของคนอื่นอยู่หรือเปล่า?” ด้วยแนวคิด 3 ขั้นตอน คือ เลิกตาม, เปิดเปลือยความสนใจจริง, และ ปลดปล่อยชีวิตสู่อิสรภาพ ผ่านเรื่องเล่าและคำถามกระตุกใจที่ท้ายแต่ละบท
ในยุคที่การไปให้ถึง “เป้าหมาย” นั้นถูกตีค่าเป็นความสำเร็จสูงสุด แต่หนังสือเล่มนี้ชวนให้เราหยุดมองว่า สิ่งที่ควรทำจริง ๆ อาจไม่ใช่การวิ่งให้เร็วกว่าคนอื่น แต่คือการ หยุดสิ่งที่ไม่ใช่เรา แล้วเริ่มใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเรา อ่านจบแล้วอาจไม่ได้ทำให้ชีวิตพลิกหัน 180° แต่จะทำให้เราค่อย ๆ มองเห็นว่าการอยู่กับตัวเองอย่างสงบและใส่ใจในสิ่งเล็ก ๆ ที่ใช่นั้น... มันก็มีความหมายไม่น้อยไปกว่าการไล่ตามเป้าหมายใหญ่เลย
“เราควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ทั้งหมด แต่เราควบคุมวิธีตอบสนองได้เสมอ”
— Stephen R. Covey
7 อุปนิสัยสำหรับผู้มีประสิทธิผลสูง (The 7 Habits of Highly Effective People) โดย Stephen R. Covey หนังสือที่ไม่ใช่แค่สอน “ทำงานเก่งขึ้น” แต่สอน “ใช้ชีวิตอย่างมีหลัก” ไปพร้อมกัน 7 อุปนิสัยสำหรับผู้มีประสิทธิผลสูง คือคำตอบ Stephen R. Covey รวบรวม 7 หลักคิดที่คนประสบความสำเร็จและมีความสุขใช้จริงในชีวิต ตั้งแต่การ “เริ่มต้นด้วยเป้าหมายในใจ” ไปจนถึงการ “ลับเลื่อย” หรือพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
สิ่งที่ทำให้เล่มนี้พิเศษคือ มันไม่ใช่แค่ทริคสั้น ๆ แต่เป็น “กรอบความคิด” ที่เราสามารถใช้ได้ทั้งในงาน ครอบครัว และการเติบโตส่วนตัว เรียกว่าเป็นสูตรผสมระหว่างความสำเร็จและความสงบทางใจ ที่อ่านแล้วใช้ได้ทั้งชีวิต
ถ้าได้อ่านก่อนตาย เพื่อนๆ จะได้เครื่องมือที่ทำให้ชีวิตชัดขึ้น เหนื่อยน้อยลง และสำเร็จมากขึ้น โดยไม่ต้องเผาผลาญตัวเองจนหมดแรง
“บางเมือง…ไม่ได้อยู่ในแผนที่ แต่อยู่ในความฝันของเรา”
— ธนชาติ ศิริภัทราชัย
New York 1st Time นิวยอร์กตอนแรก ๆ คือหนังสือบันทึกการเดินทางที่ไม่ใช่แค่รีวิวสถานที่ แต่เป็นการเล่า “ความรู้สึกครั้งแรก” ที่ได้เจอกับมหานครนิวยอร์ก เมืองที่เต็มไปด้วยความฝัน แสงไฟ และเรื่องราวนับล้านที่เกิดขึ้นพร้อมกันในทุกมุมถนน
หนังสือเล่มนี้เหมือนพาเพื่อนๆ ไปเดินด้วยกันใน Central Park แวะจิบกาแฟที่ร้านเล็ก ๆ ใน Brooklyn นั่งรถไฟใต้ดินไปดูบรอดเวย์ และเผลอหลงอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ดูเร่งรีบแต่ก็มีความฝันเป็นของตัวเอง
เหตุผลที่ควรอ่านก่อนตาย? เพราะมันไม่ใช่แค่พาเราเที่ยว แต่ทำให้เรา “อยากใช้ชีวิต” ให้เต็มที่เหมือนที่ผู้คนในเมืองนั้นทำอยู่ทุกวัน แม้จะไม่เคยไปนิวยอร์กจริง ๆ ก็ยังรู้สึกเหมือนได้เดินอยู่กลางเมืองที่ไม่เคยหลับใหล
ถ้าหัวใจกำลังโหยหาการเดินทาง อย่าปล่อยให้เล่มนี้หลุดมือ กดสั่ง New York 1st Time นิวยอร์กตอนแรก ๆ วันนี้ แล้วเตรียมเก็บกระเป๋าเดินทางด้วยหัวใจ ถึงแม้ร่างกายยังนั่งอยู่บนโซฟา
หนังสือบางเล่มเหมือนเพื่อนเก่า บางเล่มเหมือนครู บางเล่มก็เหมือนตั๋วเครื่องบินพาเราไปไกลกว่าที่คิด ลิสต์ 10 หนังสือที่ควรอ่านก่อนตาย นี้ ไม่ได้เลือกมาเพราะกระแส แต่เพราะมันมีพลัง “เปลี่ยน” อะไรบางอย่างในตัวเราได้จริง ๆ
ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะอยากได้แรงบันดาลใจ ฮีลใจให้หายเหนื่อย เติมไฟให้ชีวิต หรือเปิดมุมมองใหม่ต่อโลก เล่มพวกนี้พร้อมทำหน้าที่นั้นให้เต็มร้อย และที่สำคัญ มันหาอ่านได้ง่าย แค่กดสั่งออนไลน์ อีกไม่กี่วันก็ได้กอดมันไว้ในมือแล้ว
ถ้ามีเล่มไหนที่เพื่อน ๆ ยังไม่เคยอ่าน อย่าปล่อยให้ผ่านไปเฉย ๆ หามาอ่านเถอะ แล้วมาให้หนังสือพาเราไปเจอ “ตัวเองในเวอร์ชันที่ดีกว่า” กัน
ฝ่ายบริการสมาชิก The 1 หรือ The1 Call Center
ที่หมายเลข 02-660-1000 ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 22.00 น. เพื่อแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสาร
จะมีผลให้ส่วนลด พลังสะสมหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับจะถูกยกเลิกในทันที และหากท่านกลับมาสมัครใหม่ในภายหลังจะถือเป็นสมาชิกใหม่
ของท่านจะถูกยกเลิกทันที หลังจากท่านกดยืนยัน