“ลูกเกิดมาได้ยังไง” “ทำไมผู้หญิงกับผู้ชายในทีวีเขาจุ๊บกัน” “น้องไปอยู่ในท้องป่องๆ ของแม่ได้ยังไง” “ทำไมช้างน้อยของผมไม่เหมือนของคุณพ่อ”
สารพัดคำถามเกี่ยวกับเรื่องเพศของเด็กๆ ที่อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกอึดอัดใจ จะตอบอย่างไรให้ลูกเข้าใจง่ายๆ และไม่ล่อแหลม เพราะการพูดถึงเรื่องเพศอย่างเปิดเผยไม่ใช่วัฒนธรรมดั้งเดิมของคนไทย แม้ทุกวันนี้ในโรงเรียนจะมีการสอนเกี่ยวกับเพศศึกษา แต่คนใกล้ชิดที่ลูกอยากคุยเรื่องนี้ด้วยมากที่สุด ก็คือพ่อแม่
เพราะพ่อแม่ เปรียบเหมือนครูคนแรกที่พวกเขาไว้ใจ อยากให้สอนอะไรต่อมิอะไรมากมาย และเมื่อพอเป็นเรื่องเพศ คุณพ่อคุณแม่ควรจะตอบหรือสอนยังไงดีนะ B2S CLUB จะพามาดูกัน
เด็กๆ วัยที่แตกต่างกัน ย่อมมีความสนใจต่อเรื่องเพศไม่เหมือนกัน อย่างเด็กวัยอนุบาลจะยังไม่เข้าใจเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง พวกเขาแค่รู้ว่ารูปลักษณ์ของเด็กผู้ชายไม่เหมือนเด็กผู้หญิง แต่งกายไม่เหมือนกัน ขณะที่เด็กวัยกำลังเข้าสู่วัยรุ่นมักมีความสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ และเริ่มมีความรู้สึกพอใจในเพศตรงข้าม ฉะนั้น วิธีการพูดคุยกับลูกจึงแตกต่างกัน
• คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นฝ่ายเริ่มคุยก่อนด้วยการสอนให้ลูกรู้จักร่างกายของตัวเอง อวัยวะแต่ละส่วนทำงานอย่างไร อวัยวะเพศคืออะไร ร่างกายของเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงต่างกันอย่างไร
• สอนด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย ไม่ตื่นเต้นหรือกระซิบ ลูกจะรู้สึกว่าสามารถคุยเรื่องเพศกับพ่อแม่ได้อย่างเปิดเผยและเป็นปกติ ซึ่งส่งผลดีเมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น
• สอนให้รู้ว่าจุดไหนในร่างกายที่ลูกต้องดูแลปกป้อง ห้ามมิยอมให้ใครล่วงเกินเด็ดขาด พร้อมทดลองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อฝึกให้ลูกรับมือกับการล่วงละเมิดทางเพศด้วย
• สอนให้ลูกรู้จักความหลากหลาย เพราะลูกอาจมีเพื่อนที่ไม่ใช่เพศชายหรือหญิง สอนให้เขาเข้าใจและยอมรับความแตกต่างกันนี้
• เด็กวัยนี้ เริ่มเข้าใจเรื่องเพศและเพศสัมพันธ์ได้มากขึ้น และอาจเปรียบเทียบอวัยวะเพศของตัวเองกับของพ่อแม่ สิ่งแรกที่ควรทำคือ ไม่ต่อว่าลูกด้วยคำพูดรุนแรง อย่าเพิ่งคิดว่าลูกทะลึ่งหรือไม่สุภาพ
• ควรหาจังหวะคุยกับลูกให้เหมาะสม และต้องทำความเข้าใจว่า การพูดคุยเรื่องเพศ ไม่จำเป็นต้องถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สามารถคุยได้ครั้งเดียว แต่ควรทำให้เป็นเรื่องปกติที่พูดคุยกันได้ในบ้าน
• ควรปลูกฝังเรื่องการดูแลและป้องกันอันตรายจากการโดนล่วงละเมิดทางเพศ การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรและวิธีป้องกัน รวมถึงปัญหาของการเป็นคุณแม่วัยใสด้วย
หากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่มั่นใจ ว่าควรคุยกับลูกเรื่องเพศอย่างไรให้ถูกวิธี รวมถึงอยากไขข้อสงสัยอีกหลายๆ ข้อ B2S CLUB ขอแนะนำหนังสือหมวดคู่มือเลี้ยงลูก ที่จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปดูวิธีการพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับเรื่องเพศและเพศศึกษา ที่เหมาะสมกับทั้งเด็กเล็กและเด็กโต จะมีเล่มไหนที่ควรซื้อบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ
หนังสือเกี่ยวกับเพศศึกษาสไตล์ญี่ปุ่น ที่อธิบายเกี่ยวกับเพศแบบเข้าใจง่าย และชี้ให้เห็นถึงความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเพศศึกษาที่พ่อแม่ก็อาจไม่รู้มาก่อน
เนื้อหาในเล่มเล่าถึงตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ระบบสืบพันธุ์ การคุมกำเนิด สุขอนามัยทางเพศ รวมถึงส่งเสริมให้เด็กชายและหญิงตระหนักถึงสิทธิในร่างกายของตนเอง และเคารพความแตกต่างของผู้อื่นด้วย
หนังสือเล่มนี้ เหมาะที่พ่อแม่จะใช้อ่านกับลูกวัยประถม เน้นการดูแลและรับมือกับภัยคุกคามทางเพศที่เกิดมากในยุคนี้ โดยเฉพาะกับเด็ก ซึ่งเป็นกลุ่มอ่อนแอไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ เนื้อหาจะมุ่งเน้นการรับมือและวิเคราะห์ปัญหาด้านความปลอดภัยของ "เด็กผู้ชาย" ทั้งจากคนแปลกหน้าในสังคม โลกออนไลน์ คนรู้จัก และคนใกล้ตัว แนะนำวิธีหลีกเลี่ยงและรับมือกับการใช้ความรุนแรง รวมทั้งสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หนังสือมาในรูปแบบการ์ตูนอ่านเข้าใจง่าย เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของเด็ก
เด็กผู้หญิงมักตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศได้ง่าย หนังสือเล่มนี้ มีเนื้อหาที่จะช่วยให้เด็กๆ รู้วิธีป้องกันและแก้ไขภัยคุกคามทางเพศจากคนแปลกหน้า ทั้งในสังคมออนไลน์และคนใกล้ตัว ผ่าน 38 สถานการณ์ตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นจริง เป็นเล่มที่ควรอ่านให้เด็กเล็กและเด็กโตฟังเลย
พ่อแม่ต้องเริ่มเข้าใจว่า ทำไมลูกช่วงก่อนวัยรุ่นถึงไม่อยากคุยกับพ่อแม่ ไม่อยากเล่าความจริงให้พ่อแม่ฟัง โดยเฉพาะเรื่องความรักและเพศ หนังสือเล่มนี้ จะแนะนำวิธีแก้ปัญหาในใจเด็ก ด้วยเทคนิคการ "ดู" และ "ฟัง" โดยครูห้องพยาบาลญี่ปุ่น ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนลูกให้ทำตามพ่อแม่ แต่เปลี่ยนพ่อแม่ให้เข้าถึงจิตใจลูก เพราะความเข้าใจ เป็นส่วนสำคัญอย่างแรกๆ ในการคุยเรื่องเพศกับลูกเลย
ความรักของเด็กหัดเป็นวัยรุ่น มักเป็นเรื่องใหญ่และอาจนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับเพศศึกษาที่คาดไม่ถึง ในวัยที่พ่อแม่อาจไม่ใช่คนแรกที่ลูกนึกถึง พวกเขาเปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับเพื่อน และคนรักมากกว่า แต่ความผิดพลาดหรือการผิดหวังจากความรัก อาจทำให้ลูกใจพังได้ พ่อแม่สามารถช่วยเยียวยาสิ่งนี้ได้ด้วยการรู้เท่าทันอารมณ์ลูก
หนังสือเล่มนี้ จะให้คำตอบสำหรับประเด็นที่ถูกเพิกเฉยมานาน ให้ทุกฝ่ายเกิดความตระหนักรู้ว่า นอกเหนือจากการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่แล้ว ควรขับเคลื่อนให้สังคมการศึกษา และระบบการแพทย์ได้รับการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกันด้วย
สำหรับเด็กๆ คำชมเปรียบเหมือนรางวัล เมื่อผู้ใหญ่นำคำชมหรือคำตำหนิมาใช้ควบคุมพฤติกรรมของเขา โดยขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องพัฒนาการเด็ก ผลลัพธ์ที่ได้อาจกลายเป็นผลเสียที่กระทบต่อการเลี้ยงดู ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก หรือการเติบโตของเด็กๆ ในระยะยาว
หนังสือเล่มนี้ สอนให้พ่อแม่รู้จักวิธีเปลี่ยนพฤติกรรมขัดแย้งของลูก ให้กลายเป็นพฤติกรรมเชิงบวก โดยการแนะนำวิธีชมและวิธีติอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ลูกๆ ได้เติบโตอย่างมีความสุขสมวัย
เพราะเพศศึกษาไม่ใช่เรื่องน่าอาย และสามารถคุยที่บ้านได้ อย่ารอให้ครูที่โรงเรียนสอนและอย่ารอให้ลูกไปเรียนรู้จากสื่อที่ไม่เหมาะสมกันนะคะ