เชื่อว่าพ่อแม่ยุคใหม่ น่าจะเปิดใจได้แล้วว่า โลกใบนี้นั้น มีความหลากหลายทางเพศที่ไม่ใช่แค่ชายหรือหญิง ซึ่งต่างคน ล้วนแล้วแต่แสดงความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างเปิดเผย ในสังคมที่เปิดกว้างขึ้น
และถ้าวันหนึ่ง...พ่อแม่ต้องหันมาเปิดใจให้ลูกของตัวเอง ในตอนที่ลูกเดินมาบอกว่า “หนูไม่อยากเป็นผู้หญิง” “ผมอยากใส่กระโปรง” หรือ “หนูจะผิดไหม ถ้าหนูยังชอบผู้หญิง แต่หนูก็รู้สึกกับผู้ชายด้วย” พ่อแม่ควรรู้สึกอย่างไร และรับมือแบบไหนดี ที่จะไม่ทำร้ายจิตใจลูก
ต้องยอมรับว่า พ่อแม่มีความคาดหวังในตัวลูกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บางคนอยากให้ลูกเรียนเก่ง ประสบความสำเร็จ เป็นผู้ชายที่สมชายชาตรี เป็นผู้หญิงที่เป็นกุลสตรี แต่ถ้าลูกไม่เป็นอย่างที่คิด ยังไงพ่อแม่ก็ไม่มีสิทธิตัดสินแทนลูก
ดังนั้น แม้นาทีแรกที่ได้ยินลูกเปิดเผยความในใจ พ่อๆ แม่ๆ อาจจะรู้สึกช็อค เสียใจ หรือผิดหวัง แต่ทางที่ดี ต้องพยายามตั้งสติ สงบจิตสงบใจ ไม่แสดงอาการขัดแย้ง หรือต่อต้านทันที เพราะอาจทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองประหลาด และรู้สึกผิดที่บอกไป ซึ่งจะยิ่งทำให้ลูกไม่กล้าเปิดใจคุย และอาจสร้างช่องว่างระหว่างเด็กกับพ่อแม่ให้เหินห่างได้
ซึ่งการแสดงออกของพ่อแม่ มีผลต่อลูกมากๆ ก่อนจะพูดหรือทำอะไร จิตใจและความรู้สึกลูกสำคัญที่สุด วันนี้ B2S CLUB จะพามาดู 3 สิ่งที่ต้องห้ามทำเด็ดขาด เมื่อลูกออกมา Come out ว่าเป็นเพศอะไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาครอบครัวตามมา
พ่อแม่ไม่ควรตัดสินว่า พฤติกรรมบางอย่างที่อาจไม่ตรงกับเพศสภาพของลูก เป็นเรื่องผิดปกติ หรือเป็นเรื่องประหลาด โดยเฉพาะเด็กเล็กหรือวัยอนุบาล ที่อาจแค่มีความชอบส่วนตัวโดยที่ไม่ได้คิดอะไร ตัวอย่างเช่่น เด็กผู้ชายบางคนอาจชอบสีชมพู หรือเด็กผู้หญิงชอบเล่นเตะต่อย ซึ่งในมุมมองของเด็ก อาจมีเพียงแค่ การเตะต่อยเป็นกิจกรรมสนุกๆ เล่นแล้วได้ปลดปล่อยพลัง ส่วนสีชมพู ก็มีแม่สีเป็นสีแดงที่เด็กๆ หลายคนชอบ ดังนั้น จึงไม่มีข้อจำกัดว่า สีชมพูต้องเป็นสีของเด็กผู้หญิง หรือการเล่นเตะต่อย ต้องเป็นของเด็กผู้ชาย
และเมื่อพวกเขาโตขึ้น ก็อาจมีไลฟ์สไตล์หรือรสนิยมทางเพศที่เปลี่ยนแปลงอีก พ่อแม่จึงไม่ควรตัดสินหรือลงโทษ เพราะจะยิ่งทำให้เด็กรู้สึกว่า จะไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว และกลายเป็นคนเก็บกฏ ปิดกั้นความรู้สึกตัวเอง ไม่กล้าใช้ชีวิตในแบบที่ชอบเพราะกลัว และอาจสร้างระยะห่างจากครอบครัวได้้
เป็นเรื่องปกติที่พ่อแม่จะเผลอเปรียบเทียบลูกกับคนอื่น หรือลูกตอนยังเล็กบ้าง แต่หากลูกกล้ามาเปิดเผยเรื่องเพศให้รู้ นั่นหมายความว่า เขาไว้ใจพ่อแม่และอยากได้รับการยอมรับกลับมา แต่คำพูดเปรียบเทียบเช่น “ตอนเด็กๆ ยังเล่นปืน โตมาจะไปแต่งหน้า แต่งตัวเป็นผู้หญิงได้ยังไง” หรือ “ไม่ดูน้องบ้างหรอ เขาเรียบร้อยมาก ทำไมเป็นผู้หญิงห้าวแบบนี้” กลายเป็นอาวุธที่ทำลายความรู้สึกของลูกทันที ส่งผลให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยอีกต่อไป ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ก็คงไม่สามารถกลายเป็นคนที่พ่อแม่อยากให้เป็นได้ ซึ่งการโดนเปรียบเทียบบ่อยๆ อาจทำให้เขารู้สึกกดัน แบกรับความคาดหวังเอาไว้ จนกลายเป็นคนที่ไม่มีความสุข และฝังใจกับทัศนคติแย่ๆ ที่จะทำลายเขาไปตลอดชีวิต
สิ่งที่ลูกกลัวที่สุดคือพ่อแม่ไม่รัก ไม่ยอมรับ ถ้าพ่อแม่ไม่ยอมรับความเป็นตัวตนของลูก แต่ผลักลูกให้ต้องไปพิสูจน์การยอมรับจากสังคม เช่น ลูกพยายามสอบได้ที่ 1 เพื่อพิสูจน์ว่า แม้จิตใจอยากเป็นผู้หญิง ก็เรียนเก่ง หรือประสบความสำเร็จได้ นั่นเป็นการสร้างความกดดันและผลักปัญหาไปให้ลูกแบกคนเดียวอย่างเห็นได้ชัด
ทางที่ดีที่สุด พ่อแม่ควรแสดงถึงการยอมรับในตัวลูกโดยไม่มีเงื่อนไขตั้งแต่ยังเล็ก เช่น ลูกเรียนไม่เก่งแต่แม่ยังรัก และหาวิธีสอนให้ลูกค่อยๆ รักการเรียนรู้ หรือลูกอยากเป็นเพศอื่น ก็คอยให้กำลังใจและมอบความเข้าใจให้เยอะๆ คอยบอกเขาว่า ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไร ชอบใคร เพศไหน แม่ก็ยังรัก เป็นต้น เพื่อให้ลูกมีความมั่นคงทางอารมณ์ ไม่ต้องกดดันว่าจะต้องทำอะไรให้สำเร็จเพื่อที่จะเปิดเผยตัวตน แค่เขาเป็นเขา มีความสุขในแบบเขา ก็เพียงพอแล้ว
หากถึงเวลาที่ได้ยินลูกเปิดเผยเพศที่แท้จริงของตนเองแล้วเกิดอาการช็อค ก็ไม่ควรแสดงท่าทีเมินเฉย หรือปล่อยเงียบๆ ไป ถ้ายังไม่รู้ว่าควรให้คำตอบกับลูกว่ายังไง อาจพูดด้วยคำง่ายๆ แค่ว่า “แม่รักลูกมากนะ” หรือโอบกอดด้วยความรัก เพียงเท่านี้ เขาก็จะรับรู้ได้ถึงความเข้าใจ ห่วงใย และปรารถนาดี อีกทั้งควรหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศและความหลากหลาย เพื่อจะได้เข้าใจ สอนลูกได้ และสื่อสารกับลูกได้ตรงจุด ซึ่งคุณพ่อ คุณแม่ สามารถหาข้อมูลดีๆ ได้จากหนังสือคู่มือพ่อแม่หลายเล่ม ถ้านึกไม่ออก B2S CLUB ขอแนะนำให้
หนังสือคู่มือสำหรับพ่อแม่เพื่อสอนลูกเรื่องเพศศึกษาอย่างถูกต้อง เพราะบางครั้ง การอธิบายเกี่ยวกับเพศเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก จะพูดยังไงไม่ให้เคอะเขิน หรือลามกอนาจาร เล่มนี้มีวิธีบอก ครอบคลุมเนื้อหาทุกเรื่องที่ลูกวัยพรีทีนต้องรู้ เช่น ระบบสืบพันธุ์ การคุมกำเนิด สุขอนามัยทางเพศ รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับการรักษาสิทธิในร่างกายของตัวเองและเคารพสิทธิของร่างกายผู้อื่น ซึ่งจะช่วยให้ลูกเติบโตอย่างเข้าใจ และไม่ก่อให้เกิดปัญหาการบุลลี่ ที่มักเกิดขึ้นบ่อยกับเพศทางเลือก
สั่งซื้อหนังสือ Sex-education คุยกับลูกเรื่องเพศ
หนังสือจากนักจิตวิทยาชื่อดังเจ้าของเพจ “เข็นเด็กขึ้นภูเขา” ที่เน้นเล่าถึงวิธีการดูแลลูกและทักษะการใช้ชีวิตเพื่อให้ลูกเข้มแข็งพอจะรอดพ้นจากการโดนบุลลี่ ล้อเลียน หรือถูกทำร้ายจากคนที่ไม่เข้าใจ เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้ลูก ถ้าอยู่ในเหตุการณ์ที่พบเห็นการกลั่นแกล้งรังแก เด็กๆ ควรจัดการแบบไหน รวมถึงวิธีการสร้างคุณสมบัติอื่นๆ ที่จำเป็น ทั้งความพยายาม ความอดทน ความกล้าหาญ และการจัดการอารมณ์ที่เกิดขึ้น
สั่งซื้อหนังสือเข็นเด็กขึ้นภูเขา ตอน เมื่อลูกถูกแกล้ง
หนังสือที่จะช่วยให้พ่อแม่ฝึกฝนตัวเอง ไม่ให้เป็นพ่อแม่ Toxic สู่การเป็นพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกอย่างเข้าใจ และไม่สร้างบาดแผลให้พวกเขา หนังสือเล่มนี้ จะมอบความกล้าหาญและเข้มแข็ง ให้คุณดึงตัวเองออกมาจากบาดแผลที่เกิดขึ้นระหว่างการเลี้ยงลูก เรียนรู้จากปัญหาต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ลูกเติบโตได้อย่างเข้มแข็งด้วย
สั่งซื้อหนังสือมูฟออนชีวิต ถอนพิษพ่อแม่เผด็จการ
นิทานเด็กที่พ่อแม่อ่านแล้วได้ข้อคิด เป็นเรื่องราวของเดวิด เด็กชายที่มีผมเป็นดอกไม้ ซึ่งเด็กๆ ทุกคนต่างชอบเขา แต่แล้ววันหนึ่ง กลีบดอกไม้บนหัวของเดวิดก็ร่วงโรย เหลือแต่กิ่งไม้แหลมคม เพื่อนคนอื่นๆ ต่างพากันออกห่างจากเดวิด เพราะกลัวว่าจะโดนกิ่งไม้ข่วน สุดท้ายแล้ว จะมีใครเข้าใจและรักในแบบที่เขาเป็นไหม คุณพ่อคุณแม่และเด็กๆ มาเรียนรู้วิธีการยอมรับและให้เกียรติคนอื่นกันในเล่มนี้เลย
สั่งซื้อหนังสือนิทานเด็กชายผมดอกไม้
หนังสือที่จะพาคุณพ่อคุณแม่ ไปสำรวจ “อคติทางเพศ” ที่ซ่อนอยู่ในทุกที่ ตั้งแต่ห้องเรียน ใต้โต๊ะทำงาน ในครอบครัว จนฝังรากลึกลงไปในสมอง พร้อมพาไปดูวิธีลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ ผ่านงานวิจัย ตัวอย่างสนุกๆ ที่เข้าใจง่าย นำไปปรับใช้กับการเข้าใจลูกและสิ่งที่ลูกต้องเจอได้
ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่เด็กคนหนึ่งจะออกมาเปิดใจ แสดงตัวตนข้างในกับครอบครัว เพราะพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว ความกดดัน และแบกรับความคาดหวังอย่างที่เราคาดไม่ถึง ในฐานะที่เป็นคุณพ่อ คุณแม่ และคนในครอบครัว เราควรช่วยกันสร้างเซฟโซนให้เด็กๆ ให้เขารู้สึกอุ่นใจ อยากเป็นอะไรก็เป็น มีความสุขได้เต็มที่ เพราะเรามีหน้าที่คอยซัพพอร์ตให้เขาได้ใช้ชีวิต ไม่ใช่กำหนดว่าเขาต้องเป็นแบบไหน มาสร้างเส้นทางแห่งการเติบโตที่ดีและมีคุณภาพให้กับเขากันดีกว่า