ลูกติดอยู่ในรถ ฝันร้ายที่ป้องกันได้ ด้วย 4 วิธีเอาตัวรอดให้ลูกรัก

ลูกติดในรถจนเสียชีวิต อุบัติเหตุบาดใจพ่อแม่ที่ไม่ใครอยากให้เกิดขึ้น  แต่กลับมีข่าวร้ายของเด็ก ๆ ให้รับรู้กันเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ติดรถตู้รับ-ส่งของโรงเรียน หรือรถยนต์ของครอบครัวก็อันตรายไม่ต่างกัน อยากให้ลูกปลอดภัยจากอันตรายนี้ ผู้ใหญ่ต้องใส่ใจ ตรวจตราให้รอบคอบ ในขณะเดียวกันก็ป้องกันทั้งสองทาง สอนให้เด็ก ๆ รู้วิธีเอาตัวรอดในยามคับขันเป็น

เพราะรถยนต์เป็นพื้นที่ปิดสนิท ทำให้อากาศหายใจลดลงไปเรื่อย ๆ ยิ่งเด็กติดอยู่ในรถนานเท่าไรก็เสี่ยงอันตรายมากขึ้นเท่านั้น หากรถจอดในพื้นที่โล่งแจ้ง อากาศร้อน อุณหภูมิภายในรถยนต์สูงมากจนทำให้เด็กเสียชีวิตในเวลาเพียง 30 นาที !  โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุ 0-3 ขวบ ที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือแม้แต่เด็กโตที่พอจะเข้าใจเรื่องรอบตัว แต่หากไม่ได้รู้จักวิธีเอาตัวรอดก็เสี่ยงภัยไม่ต่างกัน

4 วิธีป้องกันเหตุเด็กติดในรถยนต์

วิธีช่วยป้องกันปัญหาลืมเด็กในรถหรือลูกติดในรถได้ดีที่สุดต้องเริ่มต้นจากผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครอง คุณครู หรือผู้ดูแลเด็กต้องใส่ใจและตรวจสอบเด็ก ๆ ทุกครั้งที่ขึ้นลงรถ ว่าเด็ก ๆ ลงจากรถหมดหรือยัง ก่อนจะดับเครื่องยนต์ เนื่องจากเด็กตัวเล็กมาก บางครั้งอาจนั่งอยู่ในมุมอับสายตา โดยเฉพาะเบาะด้านหลังสุด นั่งเล่นบนพื้นรถ หรือเผลอหลับไป ทำให้การเรียกชื่อหรือแค่ชะโงกจากบริเวณคนขับหรือด้านหน้ารถไม่อาจตรวจสอบได้ละเอียดถี่ถ้วน จึงควรปฏิบัติดังนี้

1. หลีกเลี่ยงการให้เด็กอยู่บนรถยนต์ตามลำพัง แม้ว่ารถยนต์จะยังติดเครื่องอยู่ หรือคิดว่าลงไปทำธุรกิจไม่นาน เพราะมีโอกาสที่เด็กล็อกประตูหรือเครื่องยนต์ดับ ทำให้ขาดอากาศหายใจได้ 
2. ควรระลึกไว้เสมอว่ามีเด็กอยู่ในรถยนต์ด้วย จึงควรตรวจสอบให้ดีก่อนลงจากรถ ไม่ว่าจะรีบร้อน หรือมีสัมภาระต้องถือมากมายแค่ไหน ก็ควรต้องหันมองภายในรถให้ทั่วเสมอ
3. กรณีรถตู้รับ-ส่งเด็กนักเรียน คนขับรถและผู้ดูแลเด็กควรมีแนวทางปฏิบัติในการรับ-ส่งอย่างเป็นขั้นตอน ตรวจสอบได้ และฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำ เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตการความปลอดภัยจนเป็นนิสัย ไม่ว่าจะเป็นการเช็กชื่อเด็กนักเรียนขึ้น-ลงรถให้ครบถ้วนทุกครั้ง ตรวจสอบภายในรถให้ทั่วถึงก่อนดับรถ ด้วยการเดินดูทุกที่นั่งอย่างละเอียด อาจมีการบันทึกภาพเพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ
4. ครูประจำชั้นควรตรวจสอบรายชื่อนักเรียนประจำวันอย่างสม่ำเสมอ  หากพบว่ามีเด็กนักเรียนคนใดที่โดยสารรถรับ-ส่งขาดไป ควรเร่งตรวจสอบกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องและผู้ปกครองของเด็กทันที 

สอนลูกอย่างไรให้เอาตัวรอดจากเหตุเด็กติดในรถยนต์

การเสริมเกราะป้องกันและเตรียมความพร้อมให้ลูกรู้จักวิธีเอาตัวรอดและสามารถทำได้จริงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดโอกาสการสูญเสียหากเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ ด้วยการขอความช่วยเหลืออย่างถูกต้อง ซึ่งมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

1. สอนให้ลูกกดแตรรถยนต์เพื่อขอความช่วยเหลือ เพื่อทำให้คนที่อยู่ใกล้เคียงได้ยินและเข้ามาช่วยโดยเร็วที่สุด โดยสอนให้ลูกรู้จักตำแหน่งของแตรรถ เส้นทางจากที่นั่งมายังคนขับรถ และวิธีการกดแตร
2. สอนให้ลูกรู้จักตำแหน่งไฟฉุกเฉิน  ซึ่งอยู่บริเวณส่วนหน้าของรถ โดยกดให้เกิดไฟกระพริบพร้อมกับกดแตร เพื่อช่วยให้สังเกตได้ง่ายขึ้น
3. สอนวิธีเปิดล็อก และเปิดประตู-กระจกรถยนต์ แม้เด็กอาจไม่มีแรงผลักประตูให้เปิดกว้างได้ แต่อย่างน้อยก็พอจะแง้มหน้าต่าง หรือประตูให้พอมีอากาศหายใจ แล้วจึงกดแตรส่งเสียงขอความช่วยเหลือ
4. สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ จำลองเหตุการณ์ให้เด็กได้ลองทำตามวิธีเอาตัวรอดจริง ๆ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคย และไม่ตื่นตระหนกเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง 
5. บอกเล่าถึงอุบัติเหตุรอบตัวที่สามารถเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ  และวิธีเอาตัวรอดผ่านนิทาน เพื่อให้เด็กค่อย ๆ ซึมซับความรู้ผ่านเรื่องราวสนุกของนิทานไปโดยไม่รู้ตัว  เช่น นิทานและหนังสือเกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็ก ๆ ดังต่อไปนี้

ป๋องแป๋งถูกลืมในรถ 

นิทานคำกลอน จำลองเหตุการณ์ของน้องป๋องแป๋งที่ต้องเผชิญกับอุบัติเหตุ “ติดอยู่ในรถ” เพื่อเป็นตัวอย่างสอนให้เด็ก ๆ รู้วิธีเอาตัวรอดจากเรื่องเลวร้าย ทั้งการตั้งสติเพื่อคิดหาวิธีเอาตัวรอด การทำตามขั้นตอนที่เคยฝึกฝนมาจนหาทางออกได้สำเร็จ นอกจากนี้ ท้ายเล่มยังมีเกร็ดความรู้สำหรับพ่อแม่เพื่อให้ลูกรู้จักวิธีเอาตัวรอด หากต้องติดอยู่ในรถคนเดียวอีกด้วย

ป๋องแป๋งติดลิฟต์ 

อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ได้ อย่าง “ติดลิฟต์”  เช่นเดียวกับป๋องแป๋งที่ไปเที่ยวกับพ่อในห้างแล้วปรากฏว่าลิฟต์ค้าง พ่อจึงสอนวิธีการขอความช่วยเหลือเมื่อติดลิฟต์จนสุดท้ายก็มีคนมาช่วย นอกจากนี้ ในท้ายเล่มยังมีเกร็ดความรู้สำหรับพ่อแม่ในการสอนลูกให้ใช้ลิฟต์อย่างปลอดภัยอีกด้วย 

ไอติม ข้ามถนนปลอดภัย 

นิทานสร้างเสริมทักษะเอาตัวรอดในชีวิตประจำวัน ที่จะชวนเด็ก ๆ มารู้จักการดูแลตนเอง ผ่านเรื่องราวของไอติม เมื่อคุณพ่อคุณแม่พาไอติมไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ จึงสอนเรื่องการข้ามถนนทางม้าลาย การเดินข้ามสะพานลอย การสังเกตสัญญาณไฟจราจร เพื่อให้ไอติมสามารถที่จะดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ในการใช้ชีวิตบนท้อง ถ่ายทอดด้วยสำนวนชวนอ่าน พร้อมภาพประกอบสี่สี น่ารัก ชวนติดตาม มีเนื้อเรื่องที่แฝงไปด้วยคติสอนใจ ให้ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน และเสริมสร้างทักษะการอ่านไปพร้อมกับส่งเสริมความผูกพันในครอบครัว

พี่ปอกับน้องป่าน ตอน ปลอดภัยนอกบ้าน 

พบกับหนังสือนิทานชุด นิทานเด็กดี สี่สีสดใส ที่จะทำให้เด็ก ๆ สนุกสนานเพลิดเพลิน พร้อมทั้งสอดเเทรกคติสอนใจ เเละสิ่งที่เด็กควรรู้เกี่ยวกับ การเล่นนอกบ้านให้ปลอดภัยและถูกวิธี สอนให้ระมัดระวังเรื่องการรับขนมจากคนแปลกหน้า การข้ามถนน การอยู่ใกล้แหล่งน้ำ การเล่นในที่เปลี่ยว และการเล่นไฟ เหมาะสำหรับคุณพ่อ คุณเเม่ ผู้ปกครองนำมาเล่าให้เด็ก ๆ ฟัง เพื่อพวกเขาเรียนรู้จดจำ และป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายขึ้นในภายหลัง

หนังสือนิทาน ชุดหนูน้อยหัดอ่าน ปลอดภัยไว้ก่อน 

นิทานภาพแสนสนุกเหมาะสำหรับเด็กปฐมวัย ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านคำคล้องจอง ง่ายต่อการจดจำ ภาพประกอบสวยงาม และมีกิจกรรมต่อยอดการอ่านให้ผู้ใหญ่และเด็กได้ทำกิจกรรมร่วมกัน

Child Safety ทักษะการเอาตัวรอดที่ลูกควรเรียนรู้ 

คู่มือพร้อมใช้ที่สรุปรวมทุกเรื่องความปลอดภัยที่พ่อแม่ควรรู้ไว้อย่างสั้น กระชับ ครบจบในเล่มเดียว เขียนขึ้นโดยอาจารย์ประจำศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมแนะนำวิธีการสอนให้ลูกระวังตัวเองจากภัยรอบตัว การรู้สิ่งเหล่านี้จะช่วยรักษาสมดุลระหว่างความวิตกกังวลของพ่อแม่กับการเล่น การเรียนรู้ของลูกได้เป็นอย่างดี หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาหนังสือคู่มือที่จะเป็นเข็มทิศในการเลี้ยงลูกให้ปลอดภัย ไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้ด้วยประการทั้งปวง

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่สนใจอุปกรณ์หรือของเล่นเสริมพัฒนาการต่าง ๆ สามารถแวะชมสินค้าน่าสนใจและโปรโมชั่นดี ๆ ได้ที่ร้านบีทูเอสทุกสาขา หรือจะช็อปออนไลน์ผ่านทาง www.b2s.co.th แล้วรอรับสินค้าส่งถึงบ้านได้เลย