ยิ่งโตขึ้นยิ่ง เข้าใจว่าสิ่งที่น่ากลัวไม่ได้มีแค่ผี แต่ยังมีอะไรอีกหลายอย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคนนี่แหละค่ะ ยิ่งเรื่องราวของคนที่ถูกเขียนขึ้นมาให้อ่านเพื่อความบันเทิงในหนังสือแนวฆาตกรรม สืบสวนสอบสวน ยิ่งชวนให้คนอ่านแบบเราขนหัวลุกกันเป็นแถบ ๆ กับความเลือดเย็นของฆาตกร บางคดีมีที่มาเพราะความแค้น บางคดีไม่มีอะไรมากไปกว่าความโรคจิตของฆาตกร หรือบางคดีอาจมีที่มาจากความรักด้วยซ้ำ ปฏิเสธไม่ได้ว่าอ่านแล้วทำเอาหดหู่ไปหลายวัน แต่ก็ยังติดใจอยากอ่านอยู่ดี
และเนื่องจากเดือนแห่งความสยองของเทศกาลฮาโลวีนกลับมาหลอกหลอนกันอีกครั้ง ในบทความนี้ จะลองเปลี่ยนรสชาติมาป้ายยาหนังสือที่ไม่มีผี แต่ดีกรีความหลอน ความขนหัวลุกรับรองเลยว่า 10 10 10 ไม่หักสักคะแนนเดียว ถูกใจสายสืบสวนสอบสวนกันอย่างแน่นอน
ถ้าพร้อมรับความหลอนแล้ว ไปอ่านรีวิวกันได้เลย
นิยายลำดับที่ 4 ซีรีส์ฆาตกรรมคฤหาสน์จากปลายปากกาอาจารย์ยูกิโตะ สำหรับเล่มนี้จะเรื่องดำเนินผ่านมุมมองของชายหนุ่มนามว่า ฮิริว โซอิจิ ผู้ได้รับรับมรดกเป็นคฤหาสน์หลังหนึ่งในเกียวโต แต่ที่น่าสงสัยคือ ภายในคฤหาสน์ มีหุ่นรูปร่างแปลกประหลาดและไม่สมประกอบซึ่งเป็นของพ่อผู้ล่วงลับอยู่มากมาย บ้านเก่าแห่งนี้มีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียวแต่แบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยกัน ฝั่งแรกออกแบบตามสไตล์ญี่ปุ่นไว้อยู่อาศัย ส่วนอีกฝั่งออกแบบสไตล์ยุโรปสำหรับการปล่อยเช่า
ผู้คนที่อาศัยในบ้านหลังนี้ ประกอบไปด้วย ลูกพี่ลูกน้องฝั่งพ่อของฮิริว, ชายชราพิการแต่เป็นนักนวดยอดฝีมือ, นักศึกษามหาลัย และสามีภรรยาผู้ดูแลอพาร์ตเมนต์ที่มักทำตัวประหลาดอยู่เสมอ
แน่นอนว่าซีรีส์นี้ จะขาด “ชิมาดะ” นักสืบประจำซีรีส์ไปไม่ได้ หลังจากฮิริวได้รับจดหมายประหลาดที่เต็มไปด้วยคำขู่ก็ทำการติดต่อคุณนักสืบคนเก่งมาสืบสาวเรื่องราวที่บ้านหลังนี้ จากนั้นไม่นานก็พบศพแรกในบ้านอยู่ที่ห้องเก็บหุ่น ตามมาด้วยสมาชิกในบ้านที่ค่อย ๆ กลายเป็นศพไปทีละคนอย่างน่าขนหัวลุก ยิ่งชิมาดะขุดค้นสืบเสาะเรื่องราวลึกลงไปมากเท่าไหร่ ก็ชวนหวั่นใจกับความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมในคฤหาสน์แห่งนี้
บอกเลยว่าส่วนตัวเรากลัวเรื่องหลอน ๆ ที่มีธีมเกี่ยวกับหุ่นอยู่แล้ว ยิ่งได้อ่านเล่มนี้ไปยิ่งเข้าใกล้คำว่าจิตหลุด ไม่กล้าหยิบมาอ่านตอนกลางคืนหรือก่อนนอนเลย แถมยังเดาคนร้ายผิดด้วย เกินคาดไปมาก ใครที่อยากอ่านอะไรหลอน ๆ ให้บรรยากาศอึดอัดมาก ๆ พลาดเล่มนี้ไม่ได้เลยค่ะ
สำหรับเล่มนี้มีพล็อตสุดคลาสสิกมาก ว่าด้วย “ฆาตกรคือใครในหมู่พวกเรา” แต่เป็นเล่มที่อ่านแล้วติดหนึบวางไม่ลงเลยค่ะ
เรื่องเริ่มที่นักศึกษา 7 คนจากชมรมนิยายสืบสวน ตกลงกันเดินทางไปค้างแรมที่เกาะสึโนชิมะ เกาะร้างซึ่งเคยเกิดเหตุคดีฆาตกรรมไปหยก ๆ เมื่อ 6 เดือนก่อน เจ้าของบ้านฆ่าทุกคนในครอบครัวและจุดไฟเผาบ้าน รวมถึงตัวเองจมกองไฟตายไปพร้อมกัน แต่พวกเขาก็ไม่หวั่นด้วยเจตนาที่ต้องการหาแรงบันดาลใจในการเขียนต้นฉบับวารสารเล่มใหม่ เมื่อเดินทางมาถึงเกาะพวกเขาก็ได้พบกับบ้านที่มีลักษณะสิบเหลี่ยมตามชื่อหนังสือตั้งตระหง่านอยู่บนเกาะ แน่นอนว่าพวกเขาต้องอาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านหลังนั้น แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อนักศึกษาทยอยถูกฆาตกรรมไปทีละคน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ยังรอดชีวิต ซึ่งต้องพยายามหาตัวและคอยระวังฆาตกรเพราะเป็นไปได้ทั้งสองทางว่าอาจเป็นฝีมือของทั้งคนในหรือนอกเกาะ สำหรับเล่มนี้ จะดำเนินเรื่องช้าตามสไตล์นิยายสืบสวนยุคเก่า และถึงพล็อตจะไม่มีอะไรแปลกใหม่แต่ก็ชวนให้ติดตามว่าใครคือคนร้าย อ่านไปจินตนาการไปว่าถ้าเราต้องไปติดเกาะและเพื่อนที่ร่วมเดินทางทยอยถูกฆ่าไปทีละคน โดยที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ฮู้วววว สุดจะน่ากลัวขนหัวลุกเลยใช่มั้ยคะ
แนะนำสำหรับใครที่อยากอ่านหนังสืบสวนสอบสวนแต่ยังใจไม่แข็งพอจะอ่านการบรรยายสภาพศพที่ละเอียดมาก ๆ หรือมือใหม่เพิ่งเข้าวงการ เราก็แนะนำเล่มนี้เช่นกันค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง
ชื่อเรื่องอาจจะชวนหิวแต่เนื้อเรื่องชวนลุ้นมาก แถมเล่มนี้เราขอบอกเลยว่าปกสวยจึ้งควรค่าแก่การสะสม
ซูชิสายพาน เป็นอาหารโปรดของวาคุอิ นักสืบหนุ่มผู้จำใจจำต้องละทิ้งความรู้สึกส่วนตัวเพื่อไขคดีฆาตกรรมสุดซับซ้อนซ่อนเงื่อน เมื่อเรนไดจิ มิโดริ หญิงสาวผู้เป็นรักแรกซึ่งมีพลังเหนือธรรมชาติอ่านใจคนได้ ตกเป็นจำเลยในคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันถึงสองคดี และตอนนี้เธอยังเป็นชู้รักของหนุ่มนักธุรกิจเจ้าของร้านซูชิจานหมุนอีกด้วย วาคุอิจะหาตัวคนร้ายที่แท้จริงและล้างมลทินให้กับรักแรกของเขาได้หรือไม่ และซูชิจะเกี่ยวข้องกับการไขคดีอย่างไร ติดตามอ่านได้ในเล่มค่ะ
สำหรับเล่มนี้ ไม่เน้นหลอนเท่าไหร่แต่เน้นไปที่หิวมากกว่า อ่านไปหิวซูชิไปไม่เกินจริง นอกจากจะสืบหาตัวคนร้าย เนื้อหายังเต็มไปด้วยความรู้ประวัติศาสตร์ซูชิจานหมุนของญี่ปุ่น เนื้อเรื่องไม่ยืดเยื้อมาก มีปมและการหักมุมมาให้พอหอมปากหอมคอ เหตุผลที่เราชอบเพราะพล็อตเรื่องแปลกใหม่ ใครจะคิดว่านักเขียนจะสามารถเชื่อมโยงการไขคดีฆาตกรรมกับกลไกของสายพานจานหมุนซูชิได้ สุดยอดเลยค่ะ เรียกได้ว่าสอดแทรกวัฒนธรรมไปพร้อมกับการสืบคดีแบบจึ้ง ๆ ใครอยากลองอ่านหนังสืบสวนสอบสวนพล็อตแบบใหม่แบบสับไว้ใจเล่มนี้ได้เลย
นิยายเล่มนี้เขียนขึ้นในปี 1960 แต่พล็อตการเล่ามีความร่วมสมัยจนน่าแปลกใจ เรื่องเล่าถึงการประกวดนางงามเวทีใหญ่ระดับประเทศชื่อว่า ‘มิสออฟฟิศ’ ทำให้หญิงสาวล้วนอยากลงประกวดเพื่อคว้าทั้งเงินและโอกาสมากมายที่จะได้รับเป็นรางวัล ชิซุโกะ สาวออฟฟิศหน้าตาสวยงาม กำลังแอบคบหากันอย่างลับ ๆ กับโคมาคิ ผู้เป็นลูกเขยของประธานบริษัท ชิซุโกะคิดว่าทางเดียวที่จะสามารถดึงตัวโคมาคิมาอยู่กินกับเธอได้อย่างเปิดเผย คือการได้รับรางวัลจากการประกวดนางงามบนเวทีแห่งนี้ และฝันก็อยู่ไม่ไกลเมื่อเธอเข้าไปยืนในรอบสุดท้ายของการประกวด
แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดคิดเมื่อสาวงามตัวเต็งทั้งหมด 5 คนที่ร่วมเข้าประกวด ถูกฆาตกรรมไปทีละคน ด้านตำรวจอย่างรองสารวัตรคุราตะไม่ปักใจเชื่อว่าทั้งหมดเป็นเพียงอุบัติเหตุและเบนเข็มมุ่งเป้ามาที่ผู้เข้าประกวดที่ยังมีชีวิตซึ่งอาจเป็นคนร้าย แน่นอนว่าชิซุโกะก็ตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย คำตอบของคดีนี้จะลงเอยอย่างไร ติดตามได้ในเล่มค่า
สำหรับเรื่องนี้ ถึงจะเป็นนิยายสืบสวนสอบสวนแต่ก็สะท้อนสังคมญี่ปุ่นในสมัยก่อนถึงการดิ้นรนพาชีวิตตัวเองให้ขึ้นไปอยู่ยังจุดที่ดีกว่าของชนชั้นกลางได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะเพศหญิงที่ถูกถ่ายทอดผ่านตัวละครชิซุโกะที่แม้ว่าจะได้เข้าทำงานในออฟฟิศ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดี แต่ไม่จบเพียงแค่นั้น เธอยังต้องการทั้งตำแหน่ง ชื่อเสียง และเงินทองเพื่อให้ตัวเองได้รับการยอมรับทางสังคม เป็นหนังสือที่อ่านไปชวนให้หดหู่ไป แต่ในมุมของการสืบหาคนร้ายก็สนุกเกินคาดค่ะ
นิยายเล่มที่ 6 จากชุด ‘มรดกโลกของญี่ปุ่น’ อาถรรพ์ของดอกซากุระจะพาเราร่วมผจญภัยไปกับคดีสืบสวนที่น่าตื่นตาตื่นใจแถมลุ้นจนเหงื่อตกกันเลยทีเดียว เรื่องราวในเล่มนี้เริ่มที่ อาซาฮินะ ได้รับคำเชิญให้ไปร่วมชมซากุระบานใต้แสงจันทร์ จึงทำให้ต้องเดินทางมายังภูเขาโยชิโนะจังหวัดนาระ สถานที่ชมดอกไม้บานอันเลื่องชื่อ แต่เมื่อไปถึง กลับต้องพบกับเรื่องราวอันซับซ้อนที่ถูกปิดบังไว้ของตระกูลอิซึทสึยะ และเหตุผลที่ซ่อนอยู่ของการชักชวนอาซาฮินะมาชมดอกไม้บานคือใครบางคนข่มขู่ว่า หากเมื่อไหร่ที่ หิมะจันทรา บุปผารวมตัวกันครบถ้วน จะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น ซึ่งบังเอิญว่าเหล่าบรรดาลูกสาวของนายแพทย์ดันมีชื่อที่ใช้ตัวอักษรตรงกันกับของสามสิ่งที่ว่ามา งานนี้อาซาฮินะจึงกุมขมับเพราะนอกจากจะต้องเข้ามาหยุดยั้งแผนการของคนร้าย ยังต้องเปิดโปงความลับดำมืดของตระกูลนายแพทย์คนดัง คดีนี้จะคลี่คลายไปในรูปแบบไหน ติดตามอ่านได้ในเล่มค่า
สำหรับเล่มนี้ การบรรยายเดินเรื่องคือละเอียดยิบมากกกก เป็นเหตุผลให้หนังสือมีความหนาถึง 600 หน้าเพราะว่าคดีในเล่มไม่ได้มีเพียงแค่คดีหลักแต่ยังมีการพูดถึงคดีอื่น ๆ ที่จะมาเสริมอรรถรสให้กับเรื่อง และถึงแม้ว่าหนังสือจะหนาแต่ตัวละครหลักไม่เยอะทำให้อ่านได้เรื่อย ๆ ไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด เนื้อเรื่องสอดแทรกประเด็นความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย ส่วนตัวเราว่าอ่านสนุกเพลิน ๆ บางช่วงปมเรื่องซับซ้อน บางช่วงเข้าใจง่ายสลับกันไป เป็นหนังสือสืบสวนสอบสวนอีกเล่มที่ไม่อยากให้พลาดค่ะ
นิยายสืบสวนจากฝั่งตะวันตกที่การันตีความสนุกถูกใจแฟน ๆ ด้วยการนำไปสร้างเป็นซีรีส์ชื่อเดียวกันฉายทาง Netflix
เรื่องเริ่มที่พิปปาเริ่มทำโครงการจบการศึกษาที่โรงเรียนเกี่ยวกับคดีของแอนดี เบลล์ เด็กสาวม.ปลายที่ถูกแฟนหนุ่มของตัวเองอย่าง “สัล” ฆาตกรรมไปเมื่อห้าปีก่อน เวลาผ่านมาจนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครพบร่างของแอนดี ในขณะที่คดีเงียบไปและทุกคนฝังใจว่าเป็นฝีมือของสัล มีเพียงพิปปาและครอบครัวของสัลที่ไม่เชื่อว่าเขาจะลงมือทำสิ่งที่เลือดเย็นขนาดนี้
จากที่แค่ตั้งใจจะหาข้อมูล กลายเป็นว่า ได้ลากน้องชายของสัล “รวี” เข้ามาร่วมสืบคดีด้วย เรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่การบ้านส่งครูอีกต่อไป ทั้งคู่กำลังรื้อคดีการตายของทั้งสัลและแอนดีขึ้นมาใหม่ แต่เรื่องไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะยิ่งพิปปาสืบหาเบาะแสและเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นเท่าไหร่ เธอและครอบครัวยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นเท่านั้น ทั้งจดหมายข่มขู่สารพัด ทั้งสัตว์เลี้ยงแสนรักของพิปปาที่ถูกฆ่าอย่างเลือดเย็นทำเอาเธอต้องถอยกลับมาตั้งหลักและคิดว่าจะถอดใจ แต่เพราะรวีไม่ยอมวางมือจากเรื่องนี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพี่ชาย ในที่สุุดทั้งคู่ก็ได้คำตอบว่าแท้จริงแล้วใครกันที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด
สำหรับการเดินเรื่องเล่มนี้จะเล่าสลับกันไปมาระหว่างมุมมองของตัวละครหลักอย่างพิปปา กับเรื่องที่เธอเขียนบันทึกลงในไดอารีส่วนตัว ปมของเรื่องไม่ได้ซับซ้อนแต่กลับเดาคนร้ายไม่ถูก พออ่านจนจบมันให้ความรู้สึกคาดไม่ถึงว่าคนคนนี้จะอยู่เบื้องหลัง แถมอารมณ์เหวี่ยงขึ้นลงเหมือนนั่งรถไฟเหาะสุด ๆ เลย เพราะจะมีฉากกุ๊กกิ๊กของพิปปากับรวีมาให้คนอ่านแบบเราเขินบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ แล้วตัดกลับไปที่การสืบคดี อ่านไปเรื่อย ๆ อีกทีก็เศร้าเพราะสงสารหมาของพิปปาที่ต้องมาสังเวยชีวิต บอกเลยว่าครบรสมาก สาวกนิยายสืบสวนแนว YA (Young-adult fiction) พลาดไม่ได้เป็นอันขาด
น่าจะขนหัวลุกสมใจกันไปพอสมควรกับทั้ง 6 เล่มที่หยิบมาป้ายยากันในบทความนี้ อ่านเล่มไหนแล้วติดใจอย่าลืมแวะมาคอมเมนต์เล่าให้เราฟังด้วยนะ หรือถ้าเพื่อน ๆ อยากเลือกดูเพิ่มเติมแบบจุก ๆ มาอ่านให้ทันรับวันปล่อยผีนี้ ก็สามารถแวะไปเติมหนังสือสืบสวนสอบสวนได้ที่ร้าน B2S ทั้งสาขาใกล้บ้านและสั่งซื้อออนไลน์ส่งถึงหน้าบ้านกันได้เลย มีครบจบทุกสำนักพิมพ์แน่นอน
ขอให้อ่านหนังสืออย่างสนุกและมีความสุขในทุกการพลิกหน้ากระดาษนะค้า
ฝ่ายบริการสมาชิก The 1 หรือ The1 Call Center
ที่หมายเลข 02-660-1000 ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 22.00 น. เพื่อแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสาร
จะมีผลให้ส่วนลด พลังสะสมหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับจะถูกยกเลิกในทันที และหากท่านกลับมาสมัครใหม่ในภายหลังจะถือเป็นสมาชิกใหม่
ของท่านจะถูกยกเลิกทันที หลังจากท่านกดยืนยัน