ทุกคนยังจำได้กันมั้ยคะว่าตอนเด็็ก ๆ เวลาที่ถูกผู้ใหญ่ถามว่า “โตขึ้นฝันอยากเป็นอะไร” คำตอบที่ทุกคนมักจะตอบไปอย่างมั่นใจที่สุดคืออะไรกัน อยากเป็นนักร้อง อยากเป็นนักเขียน อยากเป็นนักวาด อยากเป็นพยาบาล อยากเป็นครู หรืออาจจะมีฝันที่ต่างไปอย่างการได้เดินทางไปเที่ยวรอบโลก ไม่ว่าคำตอบจะคืออะไร ฝันของทุกคนจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหน เราเชื่อว่ามันคือสิ่งที่ทุกคนอยากทำให้เป็นจริงเมื่อโตขึ้นแน่นอน
แต่เมื่อขวบปีผ่านไป การเติบโตเป็นผู้ใหญ่อาจจะทำให้ไฟฝันของใครหลายคนเริ่มมอด เพราะกิจวัตรประจำวันที่ไม่เอื้อให้ได้เริ่มถักทอฝันนั้นให้เป็นจริง หรือบางคนที่กำลังอยู่ระหว่างทางแต่ต้องพบกับอุปสรรคและปัญหาที่เข้ามาขวาง แพสชันที่เคยลุกโชนในใจเริ่มริบหรี่ลงไปทำให้รู้สึกท้อและมีอาการหมดไฟจนแทบจะล้มเลิกไปในที่สุด
เราจะไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นกันแน่นอนค่ะ บทความนี้เราเลยจะมาป้ายยาหนังสือที่จะช่วยปลุกแพสชัน แรงใจและไฟฝันให้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง พร้อมฝ่าฟันอุปสรรคและพาตัวเองไปถึงจุดหมายได้อย่างภาคภูมิใจกัน ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีเล่มไหนบ้าง ไปอ่านรีวิวกันได้เล้ยย
หนังสือสร้างแรงบันดาลใจที่จะบอกกับเราเป็นนัย ๆ ว่า ไม่มีใครจะเติมเต็มฝันของเราได้เท่าเจ้าตัว และไม่ว่าฝันจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหน ขอเพียงเราไม่หันหลังให้กับมัน แล้วฝันนั้นจะให้ความหมายบางอย่างที่มีคุณค่ากับราอย่างแน่นอน เนื้อหาในเล่ม (หนังสือเล่มนี้มีสองฉบับ เราขอหยิบฉบับปรับปรุงปี 2024 ของสำนักพิมพ์ DOT มารีวิวให้อ่านกันนะคะ) เล่าถึง 25 เรื่องของคนญี่ปุ่นที่ไม่ย่อท้อต่อการลงมือทำความฝันให้สำเร็จ แต่ละบทของหนังสือจะพาเราไปรู้จักกับบุคคลที่มีฝันแตกต่างกันไปแต่เป้าหมายเดียวกันคือการทำฝันให้เป็นจริง
ตัวอย่างบุคคลในเรื่องที่หลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีคือ คุณมิยาซากิ ฮายาโอะผู้ก่อตั้งสตูดิโอจิบลิ เจ้าของ character ชื่อดังไม่ว่าจะเป็น โตโตโร่เพื่อนรักตัวอ้วนกลม กิกิแม่มดน้อยในชุดดำ หรือฮาวล์พ่อมดหนุ่มทรงเสน่ห์ ที่มีลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ใครเห็นเป็นต้องร้องอ๋อ แต่กว่าจะมีวันที่สตูดิโอมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเขาต้องผ่านอุปสรรคอะไรมาบ้าง ได้อ่านเรื่องของอาจารย์จากหนังสือเล่มนี้แล้ว เรากลับมาตกตะกอนว่าถ้าอาจารย์ยอมแพ้ไปก่อนจะประสบความสำเร็จ มันคงน่าเสียดายมากเพราะพวกเราคงจะไม่มีโอกาสได้ชื่นชมผลงานดี ๆ แบบนี้จริงมั้ยคะ นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จที่น่าสนใจอีกมากมายเช่น คุณทาดาชิ ยาไนแห่ง UNIQLO หรือ เจ้าหมีคุมะมงและผู้อยู่เบื้องหลัง เป็นต้นค่ะ
เรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของคนต่างวัยเพื่อหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ ซ่งอีหลี่ ผู้ต้องการจะจบชีวิตตัวเองเพราะคิดว่าการมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องเหนื่อยยากด้วยการขับรถตู้เก่า ๆ ชนกับเสาไฟฟ้าจนบาดเจ็บและต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ทำให้เขาได้เจอกับ อวี๋เสี่ยวจวี้ เด็กหญิงวัย 7 ขวบที่ใกล้จากโลกนี้ไปเพราะโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ซ่งอีหลี่ตอบรับคำขอของเด็กหญิงที่ว่าอยากไปดูคอนเสิร์ตสักครั้งในชีวิต ระหว่างการเดินทาง ซ่งอีหลี่ได้พบกับผู้คนที่ทำให้เข้าได้ทำความเข้าใจชีวิตใหม่ว่ามันคือสิ่งมีค่า ผ่านการเรียนรู้เรื่องราวของพวกเขาเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นรักที่ไม่สมหวัง หรือความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต
เป็นหนังสือแนวอบอุ่นหัวใจที่มีความดราม่าน้ำตาตกแต่ผู้เขียนกลับถ่ายทอดออกมาได้อย่างนุ่มนวล นอกจากจะให้ข้อคิดแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ยังสอนให้เรามองเห็นคุณค่าของตัวเรามากขึ้นอีกด้วยค่ะ ขอแอบกระซิบทิ้งท้ายไว้ว่าในเล่มมีเรื่องจริงของผู้เขียนนำมาถ่ายทอดเลยทำให้ยิ่งรู้สึกอินไปกับตัวละครและเหตุการณ์ในเรื่องมากขึ้นอีกด้วย
หนังสืออีกเล่มที่อ่านแล้วจะทำให้คุณใจดีกับตัวเองมากขึ้น เนื้อหาในเล่มแบ่งออกเป็น 3 บท นำเสนอในรูปแบบความเรียงเล่าถึงเรื่องราวการเดินทางและรับมือกับความเจ็บปวด เพื่อหาความหมายชีวิตของผู้เขียนที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกซึ้งกินใจ ชวนให้ผู้อ่านได้สำรวจความคิด ความรู้สึกของตัวเอง
พร้อมกับภาพประกอบในเล่มที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะสำหรับคนที่กำลังตั้งคำถามกับตัวเองหรือกำลังรู้สึกโดดเดี่ยว รู้สึกว่าไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ อ่านแล้วจะเข้าใจว่าแท้จริงนั้นเรามีดวงดาวดวงหนึ่งที่คอยเปล่างประกายอยู่ข้างเราเสมอ นั่นก็คือตัวเราเองค่ะ และดวงดาวดวงนั้นจะเปล่างประกายขึ้นได้ก็เพราะความใจดีที่เรามีให้ตัวเอง ได้เริ่มลงมือทำความความฝัน ได้ทานของอร่อย ๆ ได้ทำสิ่งที่ชอบ หรือได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่โดยไม่มีอะไรให้ต้องรู้สึกผิด เป็นหนังสือฮีลใจเชิงปรัชญาที่จะพาเราไปค้นหาตัวตน ความสุข และความสงบภายในตัวเราได้อย่างน่าประทับใจเล่มนึงเลยค่ะ
มาอ่านเรื่องราวการใช้ชีวิตในแบบ YOLO (You Only Live Once) หรือว่าเกิดมาแค่ครั้งเดียวใช้ชีวิตของเราให้คุ้ม ไปกับคุณย่า พัคมักเร วัย 71 ขวบ ที่ใช้คำว่าอาภัพตั้งแต่เด็ก คุณย่าถูกครอบครัวกีดกันไม่ให้เรียนหนังสือ พอแต่งงานออกไปเรือนไปก็โดนสามีกดขี่ข่มเหง ให้ทำงานหนักและเลี้ยงลูกตามลำพัง ซ้ำร้ายกว่านั้นในช่วงบั้นปลายชีวิตคุณย่าก็เสี่ยงที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์ แต่วันหนึ่งเมื่อโชคชะตาพลิกผัน หลานสาวของคุณย่า เธอชื่อว่า คิมยูรา ได้อัปโหลดคลิปวิดีโอของคุณย่าลงยูทูบจนมีผู้เข้าชมมากมายทะลุล้านคน ถือกำเนิดยูทูบเบอร์วัยเกษียณที่จะพาผู้ชมไปผจญในสถานที่ต่าง ๆ อย่างสนุกสุดเหวี่ยงแบบฉบับคนสูงวัยแต่ใจเต็มร้อย
อ่านเรื่องย่อพอสังเขปแล้วแน่อนว่าสิ่งที่เราจะได้จากการอ่านเล่มนี้คือแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตแบบเต็มร้อย เพราะชนาดคุณยายวัยไม้ใกล้ฝั่งยังมีใจออกไปผจญภัยในโลกกว้าง แล้ววัยรุ่นแบบเราจะมัวนั่งเหงาเศร้าใจไปได้ยังไง ส่วนตัวเราประทับใจรูปแบบการนำเสนอที่เป็นกันเอง การเล่าเรื่องของตัวละครที่สลับกันระหว่างย่ากับหลานทำให้ได้เห็นมุมมองและความคิดของคนทั้งสองช่วงวัยอย่างชัดเจน ทั้งสนุก อบอุ่นใจ และได้ข้อคิดในเล่มเดียวเลยค่ะ
หนังสือเล่มนี้ประกอบไปด้วย 12 บทเรียนชีวิตที่เขียนโดย อีกวังฮยอง นักอนาคตศาสตร์แห่งสถาบัน KAIST (Korea Advanced Institute of Science & Technology) ประเทศเกาหลี โดยเนื้อเรื่องในเล่มไม่ได้เกี่ยวกับการดูดวงทำนายอนาคตแต่อย่างใด แต่จะพาผู้อ่านไปทำความเข้าใจว่า เราในวันนี้คือคนที่จะช่วยให้ฝันของเราทั้งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้าเป็นจริง ผ่านการชี้ให้เห็นถึงคุณค่าและศักยภาพของตัวเราเอง เพราะหลายครั้งที่เรามักจะเผลอเปรียบเทียบความสำเร็จของตัวเรากับคนอื่นจนทำให้มองข้ามความเก่งของตัวเองไป
ในเล่มจะเล่าถึงความฝันที่จะสร้างการศึกษาที่มีคุณภาพ ไม่เพียงแค่เรียนเก่งแต่ในตำราของผู้เขียน เล่าเรื่องราวชีวิตตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนจนถึงได้รับตำแหน่งอธิการบดี แน่นอนว่าระหว่างทางมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป มันประกอบไปด้วยความรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลว ซึ่งผู้เขียนกลับพูดถึงความรู้สึกนั้นด้วยมุมมองที่เต็มไปด้วยพลังและให้กำลังใจอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งทำให้ผู้อ่านได้รับทั้งพลังละแรงบันดาลใจ หันกลับมาทบทวนและลงมือทำความฝันของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นต่อไป
แค่อ่านชื่อหนังสือก็ทำให้ไฟในการใช้ชีวิตเริ่มมาแล้ว เป็นข้อความที่น่าจะสะกิดใจใครหลายคนที่กำลังสับสนว่าจะใช้ชีวิตยังไงไม่ให้ตัวเองต้องมานั่งเสียดายและเสียใจทีหลัง หรืออาจจะกำลังลังเลว่าสิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้มันคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วใช่มั้ย แค่จำเอาไว้ว่า “จงใช้ชีวิตแบบที่เราในอนาคตจะขอบคุณตัวเองในวันนี้” เพียงเท่านี้เราก็จะมั่นใจในตัวเองและการกระทำของเราโดยไม่ต้องรอให้ใครมาตัดสินว่าถูกหรือผิดอีกต่อไปค่ะ
หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มต่อของ “ยิ้มรับคนไม่ดีที่ผ่านเข้ามาในชีวิต” ซึ่งนักเขียนยังคงถ่ายทอดมุมมองอย่างตรงไปตรงมาและตรงกับความจริงที่เกิดขึ้นในสังคมเช่นเคย เนื้อหาในเล่มจะพาให้ผู้อ่านไปเรียนรู้การเข้าสังคม วิธีจัดการอารมณ์และทัศนคติ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการใช้ชีวิต ในอีกแง่หนึ่งเรามองว่าหนังสือเล่มนี้เป็นคู่มือที่จะช่วยให้เราตั้งใจใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะทุกคนรู้ดีใช่มั้ยว่า เราเกิดมาแค่ครั้งเดียวการทำทุกวันให้เต็มที่และดีที่สุดจะช่วยให้เรามีความสุขกับชีวิตได้เลยทันที่โดยที่ไม่ต้องรออนาคตข้างหน้า
หวังว่าหนังสือปลุกไฟฝันทั้ง 6 เล่มที่เลือกมาป้ายยาในวันนี้ จะเป็นหนึ่งในเชื้อเพลิงที่เติมไฟ ปลุกแรงใจให้ทุกคนลุกไปสานฝันของตัวเองให้สำเร็จ ไม่ว่าในวัยเด็กทุกคนจะเคยคิดอยากทำหรือฝันอยากเป็นอะไร เราขออวยพรและเป็นกำลังใจให้สมหวังตามที่ตั้งใจในเร็ววันนะคะ ระหว่างทางที่กำลังเดินไปสู่จุดหมายเชื่อว่าเด็กน้อยที่อยู่ในใจของทุกคนต้องกำลังมองอยู่ด้วยความภูมิใจอย่างแน่นอนเลย
ฝ่ายบริการสมาชิก The 1 หรือ The1 Call Center
ที่หมายเลข 02-660-1000 ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 22.00 น. เพื่อแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสาร
จะมีผลให้ส่วนลด พลังสะสมหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับจะถูกยกเลิกในทันที และหากท่านกลับมาสมัครใหม่ในภายหลังจะถือเป็นสมาชิกใหม่
ของท่านจะถูกยกเลิกทันที หลังจากท่านกดยืนยัน