นี่คือเรื่องราวของ Mamabell’s Home ธุรกิจเบเกอรี่ที่ไม่ได้เกิดจากสูตรลับพิเศษ หรือเงินทุนมหาศาล แต่เติบโตจาก “ความรัก” “ความหลงใหล” และ “ความไม่ยอมแพ้” กว่า 12 ปีแห่งการสร้างสรรค์ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่ธุรกิจที่มีทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ ทุกก้าวที่เดินเต็มไปด้วยบทเรียน การลองผิดลองถูก และการลุกขึ้นสู้อย่างไม่ย่อท้อ
จุดเริ่มต้นจากบ้านตรงข้ามที่ขายขนมไข่กรอบเค็ม จากเด็กคนหนึ่งที่ยืนดมกลิ่นหอมด้วยความสงสัย… มาถึงวันที่ขนมของตัวเองกลายเป็นธุรกิจที่มีทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ ทุกก้าวมีบทเรียน ทุกอุปสรรคคือการเติบโต และทุกครั้งที่ลงมือทำ นั่นคือการเข้าใกล้ความสำเร็จไปอีกขั้น
กลิ่นขนมที่เปลี่ยนเป็นความฝัน
ย้อนกลับไปในวัยเด็ก บ้านตรงข้ามขายขนม กลิ่นหอมๆ ลอยมาเตะจมูกทุกวัน บางครั้งไม่ได้แค่ซื้อมากิน แต่ไปยืนดูด้วยความสงสัย… “ทำไมขนมนุ่มฟู?”
ความสงสัยเล็กๆ นั้นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความหลงใหล ความตื่นเต้นที่ได้เห็นแป้ง ไข่ และน้ำตาล ถูกผสมกันจนกลายเป็นขนมอบที่หอมกรุ่น การทำขนมไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติ แต่มันคือวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และความคิดสร้างสรรค์ที่รวมกันเป็นหนึ่ง ทุกกระบวนการคือการทดลอง และทั้งหมดนี้ที่คุณเบลล์หลงใหล
การอ่านหนังสือทำให้เรามี Passion ในการทำสิ่งที่รัก
“การอ่านหนังสือ” เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจคุณเบลล์ตั้งแต่วัยเด็ก ทุกสัปดาห์คุณแม่จะพาคุณเบลล์ไปที่ร้านหนังสือ และจะต้องมีหนังสือเล่มใหม่ติดมือกลับบ้านเสมอ จนวันหนึ่งคุรเบลล์ได้เลือกหนังสือเกี่ยวกับเค้กและคุกกี้ แต่นี่ไม่ใช่แค่หนังสือ แต่มันคือประตูที่เปิดเข้าสู่โลกของเบเกอรี่ สูตรแรกที่คุณเบลล์ได้ลงมือลองทำคือสูตรเนย สูตรที่ใช้วัตถุดิบน้อยที่สุด ส่วนผสมจากมาการีนร้านขายของชำ และเตาติ๊งอบไก่ที่บ้าน ออกมาเป็นเค้กที่หน้าตาไม่ได้สมบูรณ์นักแต่กลับสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจที่สุด แม้ที่บ้านจะไม่มีใครอยู่ในสายอาชีพนี้ แม้ไม่มีใครคิดว่าความชอบนี้จะกลายเป็นอาชีพ แต่ความรักที่มีต่อการทำขนมไม่เคยลดลง
แต่เส้นทางของผู้ที่เลือกเดินตามฝัน ไม่เคยง่าย…
เริ่มต้นธุรกิจด้วยใจที่เต็มเปี่ยม แต่ระหว่างทางมีวันที่ล้ม วันที่ป่วย วันที่แทบหมดแรง วันที่ต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ ทุกอย่างเหมือนจะพังลง แต่สิ่งเดียวที่ไม่เคยพัง คือ “ความเชื่อมั่นในตัวเอง”
หนังสือ ที่พลิกชีวิต ให้กับเรา มีแรงสู้อีกครั้ง.....
Forbes Billionaires (ไอดอลนักล่าฝัน เศรษฐีพันล้าน) ที่เขาบอกว่า "แค่เพียงประโยคเดียว เปลี่ยนชีวิตได้ ก็คุ้มค่าแล้ว" ไม่เกินจริง ช่วงตอนเริ่มธุรกิจใหม่ๆ ประโยคนี้ของเจฟ ประโยคเดียว เบลล์ท่องทุกวันเลยค่ะเล่มนี้เราอ่านจริงจังช่วงเริ่มต้นเปิดร้านขนม Belly Cake เเบบที่ยังไม่มีใครเห็นด้วยนัก แล้วเราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจนี้เลย ความกลัวทั้งหมดเลยแก้ได้ด้วยประโยคนี้ค่ะ เล่มนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ต้องการเติมไฟในการเริ่มอะไร
The 4 hour work week (ทำน้อย แต่รวยมาก) จุดเปลี่ยนที่เกิดจากหนังสือเล่มนี้ ครั้งที่ 1 หลังเปิดโรงงานทำขนม Belly Cake ที่จ.ขอนแก่น ช่วงปี 2013 มีพนักงานเยอะมาก เพราะว่าประสบการณ์การบริหารคนไม่มี บริหารเวลาไม่ได้ ทำให้เรื่องของธุรกิจปะปนไปกับชีวิตส่วนตัวมากเกินไป จนทำให้ไม่มีเวลาให้ครอบครัวลูก เกือบต้องแยกทางกับสามี พอถึงทางเลือก เรายังอยากมีทั้งธุรกิจและครอบครัว จึงพยายามหาวิธีการที่ตอบโจทย์ นี่คือ ครั้งแรกที่ได้เริ่มอ่านและนำแนวคิดในหนังสือมาใช้ เราเลยบอกตัวเองว่า ไม่เอาแล้วโรงงาน...มันต้องมีวิธีรวยได้ แบบตัวคนเดียว หรือ ใช้คนน้อยที่สุด ก็เป็นจุดกำเนิดที่ต่อยอดมาขายกลุ่มพรีเมี่ยม เป็นแบรนด์ MAMABELL'S HOME ค่ะ เป็นการปรับครั้งใหญ่ จากทำมากได้น้อย เป็นทำน้อยได้มาก
เพราะเหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่ ของคุณนิ้วกลม เวลาที่ต้องการกำลังใจแบบเร่งด่วน หนังสือคือเพื่อน คือนักจิตบำบัดอย่างดีเลย เวลาที่คนเราท้อแท้ รู้สึกแพ้ รู้สึกโลกไม่เข้าข้าง มันจะมีแต่ความน้อยใจ มองแง่ลบ รู้สึกไร้ค่า..ทุกครั้งที่หยิบเล่มนี้มาอ่าน เราเหมือนได้รับยาพลังชีวิต จากนอยด์ๆ รู้สึกคุณค่าตัวเองเป็นศูนย์ มันจะพุ่งเป็นร้อยเลยค่ะ ..เพราะศิลปะของการมีชีวิต คือได้ใช้ชีวิตในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป
และ THE GREATEST SALESMAN IN THE WORLD (10 คัมภีร์ นักขายผู้ยิ่งใหญ่) เล่มนี้ใช้เป็นคัมภีร์ เอาจริงๆในโลกธุรกิจจะรู้ว่ามันไม่ง่าย บางครั้งต่อให้เราที่ว่าแกร่ง Passion สุดๆ สู้กัดไม่ปล่อย เรียนรู้วิธีการมากมาย แต่การล้มแล้วลุก ล้มแล้วลุก มันก็ไม่ง่ายนัก เจ้าของกิจการวันนึงเจอ 108 ปัญหา อยากแยกสักสิบร่าง ก็สติหลุดค่ะ จึงจำเป็นต้อง Self-Talk จะใช้เล่มนี้ในการพูดคุยกับตัวเองทุกเช้าและก่อนนอน เป็นการยืนยันกับจิตใต้สำนึกตัวเอง ถ้าแพ้ซ้ำๆ เราเกิดใหม่ได้ทุกวันค่ะ วันนี้เเพ้ พรุ่งนี้ก็ชนะได้
กฎแห่งความสำเร็จที่ไม่ใช่แค่ Passion แต่คือการลงมือทำ
“ทำในสิ่งที่รัก” ไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จเสมอไป แต่ข้อดีของมันคือ เมื่อเจออุปสรรค จะไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ Mamabell’s Home เติบโตจาก Passion แต่สิ่งที่ทำให้ธุรกิจนี้อยู่รอด คือ การไม่หยุดพัฒนา ด้วยกฎแห่งความสำเร็จ
1. ฟังเสียงลูกค้าและปรับปรุงเสมอ
ขนมที่อร่อย ไม่ใช่แค่ขนมที่ใช้วัตถุดิบดี แต่คือขนมที่ลูกค้าอยากกลับมาซื้อซ้ำ ถ้าฟังและปรับปรุงได้ ธุรกิจจะไม่มีวันหยุดเติบโต
2. ความสม่ำเสมอคือหัวใจสำคัญ
ทำให้ดีที่สุดทุกครั้ง ไม่ใช่แค่วันที่รู้สึกมีไฟ สูตรขนมที่ดีอาจใช้เวลาไม่กี่วันในการพัฒนา แต่แบรนด์ที่แข็งแกร่งต้องใช้เวลาสร้างเป็นปี
3. ทำให้สิ่งที่รัก สร้างรายได้
ถ้าสิ่งที่รักกลายเป็นรายได้ นั่นแปลว่าไม่ต้องใช้ชีวิตไปกับสิ่งที่ไม่ชอบ เงินจึงไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ แต่มันคือพลังที่ช่วยให้สามารถพัฒนาธุรกิจให้ดีขึ้น
4. ใช้สิ่งที่รัก ส่งต่อสิ่งดีๆ ให้คนอื่น
เบเกอรี่ที่ดี ไม่ใช่แค่ขนมอร่อย แต่ต้องมีความตั้งใจใส่อยู่ในทุกชิ้น ส่งต่อความสุขให้ลูกค้าผ่านรสชาติ ผ่านรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
สุดท้าย… อย่าหยุดเชื่อมั่นในตัวเอง
เรื่องราวของ Mamabell’s Home เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า “ความสำเร็จไม่ได้มีทางลัด” ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ น้ำตา และการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค คนที่สำเร็จไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด แต่คือคนที่ “ไม่หยุดเดิน”
ใครที่กำลังเริ่มต้น ใครที่กำลังลังเล หรือใครที่กำลังท้อ จงเชื่อมั่นว่าทุกความพยายามไม่มีวันสูญเปล่า
หากมีสิ่งที่รัก… ลงมือทำ
หากเจออุปสรรค… เรียนรู้และก้าวข้ามไป
หากไม่มีใครเชื่อมั่น… เป็นคนแรกที่เชื่อในตัวเอง
ร่วมหาคำตอบเรื่องราวของ “ความฝัน” “ความพยายาม” และ “ความสำเร็จที่สร้างขึ้นด้วยตัวเอง”
กับกิจกรรม B2S X Mamabell’s Home By คุณเบลล์
ล้ม ลุก Cook Balance เปิดตำราจากความชอบสู่ความสำเร็จ
วันเสาร์ ที่ 8 มีนาคม 258 @ บีทูเอส เมกาบางนา เวลา 14.00-16.00น.