เมื่อรู้ตัวว่าท้อง..ต้องฟัง ร้อง ท่อง อ่าน ตุ๊บปอง เรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป
เชื่อว่า ผู้หญิงทุกคนนั้นจำความรู้สึกในวันแรกเมื่อรู้ว่ามีลูกได้เป็นอย่างดี ยิ่งเป็นลูกคนแรกด้วยแล้ว ประทับใจไม่รู้ลืมแน่ แต่ไม่ว่าจะมีลูกสักกี่คน หรือจะเป็นลูกคนที่เท่าไหร่ ความรู้สึกของคนที่รู้ว่าตนนั้นกำลังจะเป็นแม่ คือ สุข แกมกังวล
สุข เมื่อรู้ว่ามีชีวิตน้อย ๆ ก่อเกิดในชีวิตตนที่ต้องหล่อเลี้ยงด้วยสายเลือด สายใจ และสายสัมพันธ์อันลึกซึ้ง ทำให้รู้ว่าตนนั้นมีค่า และมีความหมายในการมีชีวิตอยู่มากยิ่งขึ้น
กังวล เมื่อรู้สึกว่าชีวิตน้อย ๆ ในกายตนนั้นเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่ต้องดูแลอย่างทนุถนอม สิ่งแรกที่จะคลายความกังวล คือการเริ่มต้นกินดี อยู่ดี คิดดี และทำดี เหล่านี้เพื่อลูกทั้งนั้น
กินดี แม่เริ่มระมัดระวังในการสรรหาอาหารมากินมากขึ้น จะกินตามปากที่อยากเหมือนก่อนไม่ได้แล้ว เผ็ดจัด ร้อนจัดก็งดไว้ก่อนเพราะกลัวว่าลูกจะเผ็ดจะร้อนไปด้วย แต่อะไรที่กินแล้วดีต่อลูกน้อย แม่นั้นจะสรรหามาให้จงได้ เรื่องหายาก หาง่าย ไม่ใช่ปัญหา
อยู่ดี บ้านช่องห้องหอที่เคยอยู่ ก็เริ่มดู เริ่มสำรวจอย่างรอบคอบ แม่จะจัดแจงแต่งบ้านให้ปลอดภัยไร้ความเสี่ยงทั้งปวง เพียงหมายว่าจะดีต่อลูก
คิดดี อะไรที่คิดแล้วจิตตก ใจขุ่นก็เลี่ยง เรื่องนี้ต้องเชื่อคนโบราณที่ ห้ามคนท้องหน้าบึ้ง เพราะจะทำให้ลูกเกิดมาแล้วไม่สวย
โดยธรรมชาติของผู้หญิงเมื่อมีท้อง สรีระและระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้บางคนหงุดหงิดได้ง่าย นี่คือความชาญฉลาดของคนโบราณที่สอนให้เชื่อว่าการมีภาวะจิตใจที่ไม่ดีนั้นส่งผลถึงลูก เมื่อรู้ตัวว่าตั้งท้องแม่จึงต้องทำจิตใจให้สงบ แจ่มใส เบิกบาน ไม่บูดบึ้งตึงเครียดลูกในท้องจะได้มีสุขภาพกายและใจที่ดี
ทำดี แม่แต่ละคนต่างก็หาหนทางในการทำดีตามจริตของตน แต่เรื่องนี้ก็ต้องเชื่อคนโบราณอีกแหละ ที่สอนให้แม่ถือศีล ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เขาว่าบุญจะส่งให้เราสุขใจ ลูกก็จะสงบเย็นและเป็นสุขตามไปด้วย
ซึ่งก็สอดคล้องกับความคิดสมัยใหม่ ที่ว่าเมื่อแม่และลูกใช้ลมหายใจเดียวกันนับแต่วันแรกที่ปฏิสนธิ นั่นคือวันแรกที่หัวใจน้อย ๆ ในท้องแม่เริ่มทำงาน เจ้าตัวน้อยจะค่อย ๆ ก่อร่างสร้างตัวไปพร้อม ๆ กับการสร้างสมองและมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง จนอยู่ในท้องแม่ได้ 7 เดือนสมองของลูกน้อยจะเริ่มสร้างเส้นใยเชื่อมโยงของเซลประสาท และสร้างสมองส่วนการรับภาษาและการพูด พอ 8 เดือนจะเกิดการสร้างสมองส่วนของการมองเห็นและการฟัง พอได้ 9 เดือนสมองส่วนความคิดและเชาว์ปัญญาก็จะถูกสร้างขึ้นมา
ด้วยเหตุนี้ จึงอยากจะบอกว่า ใครรู้ตัวว่าท้องต้องฟัง ต้องร้อง ต้องท่อง ต้องอ่านเพราะสำคัญต่อสมองของลูกน้อยทั้งนั้น
ต้องฟัง..ลูกน้อยฟังเสียงเต้นของหัวใจของแม่เป็นจังหวะที่แสนอบอุ่นตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่เสียงเพลงเบา ๆ ที่แม่ฟังก็สำคัญเหมือนกันนะ เพลงเพราะ ๆ ท่วงทำนองสบาย ๆ ทำให้แม่ผ่อนคลาย ลูกก็ได้ผ่อนคลายไปกับแม่ด้วย
ต้องร้อง..การที่แม่ร้องเพลงที่มีท่วงทำนองช้า ๆ เย็น ๆ ใจ นี่ก็ส่งผลให้ลูกในท้องเย็นใจตามไปด้วยนะ เพราะแม่รู้สึกอย่างไร ลูกก็รู้สึกอย่างนั้น
ต้องท่อง..คำคล้องจอง เพลงประกอบการละเล่น ที่เราเคยท่องเจื้อยแจ้วมาแต่ก่อนน่ะ ลองนึกดี ๆ แล้วท่องสักวันละบทก็ได้ หรือจะสวดมนต์ก็ดีสำหรับลูกทั้งนั้น
ต้องอ่าน..การอ่านหนังสือที่มีภาษาดี ๆ เนื้อหาชูใจ ทำให้แม่มีความสุข และอารมณ์ดี จะดียิ่งขึ้นถ้าพ่อมาอ่านให้แม่และลูกในท้องฟัง อย่างไรก็เป็นสุขและอารมณ์ดีทั้งแม่และลูก
เรื่องอย่างนี้อย่าคิดว่าลูกในท้อง ไม่รู้เรื่องนะ
การทำอย่างนี้ลูกได้รับเต็ม ๆ ทำมากเท่าไรยิ่งเป็นการเพิ่มทุนของชีวิตให้ลูกตั้งแต่อยู่ในท้องมากเท่านั้น