ไหนใครกำลังมองหาของขวัญให้คนสำคัญอยู่บ้างไหมเอ่ย? เราเชื่อว่าถ้าเพื่อน ๆ กดเข้ามาอ่านบทความนี้ แสดงว่าหนังสือต้องเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตั้งใจจะให้เป็นของขวัญกันแน่นอน
ไม่พูดพร่ำทำเพลง เราได้รวมหนังสือความหมายดีที่น่าให้เป็นของขวัญ มาให้เพื่อน ๆ ลองอ่านรีวิวเนื้อหาคร่าว ๆ แล้วลองชั่งใจว่ามีเล่มไหนที่น่าจะถูกใจคนสำคัญของเพื่อน ๆ กันบ้าง เราเองในฐานะคนที่ได้รับหนังสือเป็นของขวัญอยู่บ่อย ๆ บอกเลยว่า ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเล่มไหนก็ทำให้เราใจฟูและเห็นถึงความปรารถนาดีของผู้ให้ผ่านเนื้อหาของหนังสือเล่มนั้น ๆ เป็นฟีลหนังสือสื่อความในใจสุด ๆ
ถ้าเพื่อน ๆ พร้อมอ่านรีวิวและพร้อมจิ้มแล้วว่าหนังสือเล่มไหนที่เหมาะจะให้คนพิเศษคนนั้นแล้ว ไปอ่านรีวิวกันได้เลยค่า
หนังสือที่เป็นเหมือนข้อความแทนใจของผู้ให้ที่ต้องการส่งกำลังใจและคำปลอบโยนไปยังผู้รับ ใครที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนปลอบใจคนอื่นด้วยการใช้คำพูดไม่เก่ง จนทำให้บางครั้งอาจจะดูเคอะเขินไปบ้าง ลองเลือกเล่มนี้ให้เป็นของขวัญแทนใจ เราขอการันตีว่าคนรับจะเข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อไปแน่นอนค่ะ
เนื้อหาในเล่มจะมีทั้งหมด 4 บทด้วยกัน เป็นความเรียงที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกสบาย ๆ ผ่อนคลาย บวกกับภาพประกอบลายเส้นสีน้ำสุดน่ารักฮีลใจ สำนวนการเขียนเต็มไปด้วยความเรียบง่าย แต่คมคายด้วยการถ่ายทอดจากประสบการณ์ชีวิตของคุณนักเขียนที่ได้สังเกตเห็นว่า กำลังใจล้วนเกิดจากสิ่งเล็กน้อยรอบตัวที่เรามักมองข้ามไป ในแต่ละบทจะพาผู้อ่านไปค่อย ๆ ละเมียดละไมกับทั้งข้อคิดและคติเตือนใจ ตั้งแต่การสำรวจภายในจิตใจตนเอง การรักษาความสัมพันธ์ เหตุผลของการที่ชีวิตต้องการช่วงพัก และการหาสมดุลระหว่างชีวิตกับทุก ๆ สิ่งรอบตัว เป็นหนังสือที่ชวนให้เราได้มองเห็นถึงคุณค่าของความรักที่โอบล้อมรอบตัวเราได้อย่างดีเลยค่ะ
ของขวัญชิ้นนี้ เป็นเซ็ตหนังสือที่จะช่วยเติมเต็มสวนดอกไม้ในหัวใจผู้รับ พร้อมสติกเกอร์และโปสการ์ดรูปดอกไม้น่ารัก ๆ สุดแสนจะพรีเมี่ยม เรียกว่าเป็นเซ็ตที่อิ่มใจคนให้ ถูกใจคนรับกันไปเลยค่า เนื้อหาของหนังสือจะเกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์ ประกอบไปด้วยหนังสือสองเล่ม โดยเล่มแรกมีชื่อว่า “วันไหนที่ใจแข็งแรง ดอกไม้จะผลิบาน” ที่เต็มไปด้วยวิธีดูแลรักษาสัมพันธ์ในหลากหลายรูปแบบ และเปรียบหัวใจของเราเป็นดั่งสวนดอกไม้ที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ รดน้ำพรวนดินอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อสวนได้รับการดูแลอย่างดี เมื่อนั้นดอกไม้ก็จะผลิบาน ไม่ต่างกันกับหัวใจที่ได้รับการทะนุถนอม เรียกได้ว่าเป็นคู่มือสร้างสวนสวยในหัวใจเราก็ว่าได้ค่ะ
ส่วนเล่มที่สองมีชื่อว่า “เติมสวนที่ว่างเปล่าให้เต็มใจ ด้วยดอกไม้ที่สวยงาม” เป็นหนังสือรวมโควทเกี่ยวกับความรักเล่มเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยถ้อยคำที่อ่านแล้วใจฟูมาก ๆ นอกจากนี้ ในเซ็ตยังมีแบบประเมินสภาวะทางอารมณ์, ที่คั่นหนังสือ 2 ใบ, สติกเกอร์ 4 แผ่น, โปสการ์ด 7 ใบ, My Secret Letter จดหมายบอกความในใจ ใส่ไปให้ในกล่องสวย ๆ บอกเลยเลือกเซ็ตนี้ไปไม่ผิดหวัง
รวม 12 บทเรียนชีวิตจากนักอนาคตศาสตร์แห่งเกาหลีใต้ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจ ให้กำลังใจในหลากหลายแง่มุมของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความฝัน ความรัก ความสัมพันธ์
สำหรับเล่มนี้ จะเป็นความเรียงที่ถ่ายทอดแง่มุม ความคิด ประสบการณ์ของคุณนักเขียน โดยจะแบ่งเนื้อหาออกเป็น 12 บทด้วยกัน อ่านแล้วทั้งปลุกไฟและได้กำลังใจกลับมาแบบล้นเหลือ เป็นหนังสือที่ชวนให้เรากลับมามองคุณค่าภายในตัวเอง เพราะบางทีชีวิตก็อาจจะหยิบยื่นแต่สิ่งที่ชวนให้เราท้อใจ หมดไฟในการใช้ชีวิต และเผลอด้อยค่าตัวเองอยู่บ่อย ๆ จนเผลอมองข้ามสิ่งดี ๆ ที่เรามีภายในตัวเองไป นอกจากนี้ ด้วยอาชีพของคุณนักเขียนที่ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับเราคนไทย การได้อ่านแง่งมุมของคนที่ทำงานในสายอาชีพที่ต่างออกไป อาจจะช่วยจุดประกายอะไรบางอย่างในตัวเราขึ้นมาก็ได้นะ
หากมีบางจังหวะชีวิตที่กำลังรู้สึกไม่มั่นใจ สับสนว่าหนทางที่เลือกเดินไปมันใช่สำหรับเราแล้วหรือเปล่า หนังสือเล่มนี้จะเป็นตัวช่วยเติมพลังใจ ให้เรากลับมาโฟกัสกับเป้าหมาย สร้างความเข้มแข็งขึ้นในหัวใจ และสามารถก้าวเดินต่อไปในเส้นทางชีวิตที่เราเป็นผู้เลือกได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
หนังสือบูสต์พลังใจที่จะชวนให้ผู้อ่านหันกลับมาสนใจตัวเองมากขึ้น กังวลให้น้อยลง ให้ความสำคัญกับเป้าหมายชีวิตของตัวเองมากขึ้น สนใจคนอื่นให้น้อยลง แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะว่าการเข้าอกเข้าใจหรือทำเพื่อคนอื่นมันไม่ดี สิ่งที่หนังสือต้องการจะสื่อคือการให้ความสำคัญกับตัวเองมาเป็นอันดับแรก เพราะในความเป็นจริงคือ ไม่มีใครจะสามารถอยู่เคียงข้างเราได้ทุกที่ทุกเวลาเท่าตัวเราเอง นั่นแปลว่าหากเราให้ความรักความใส่ใจกับคนอื่นมากเท่าไหร่ เราก็ควรจะทำสิ่งเดียวกันนั้นให้ตัวเองแบบคูณสิบไปเลย
เป็นอีกเล่มที่เนื้อหาดี เหมาะจะอ่านก่อนเริ่มต้นปีใหม่ เพื่อกลับมาทบทวนชีวิต เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ที่แคร์หัวใจตัวเองมากขึ้นค่ะ
หนังสือชวนสำรวจหัวใจในยุคที่แสนวุ่นวาย มีผู้คนรอบกาย แต่ข้างในจิตใจยิ่งรู้สึกเหงา ว่างเปล่า และเดียวดาย มิหนำซ้ำ หลายคนอาจรู้สึกว่าความวุ่นวายนั้นมันเสียงดังจนไม่ได้ตั้งใจฟังทั้งเสียงหัวใจและเสียงความคิดของตัวเองเลย หนังสือเล่มนี้เลยจะพาเรากลับมาในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อให้เราได้ทบทวน รับฟังเสียงหัวใจ และความต้องการของตัวเรามากยิ่งขึ้น
หนึ่งในหนังสือฮีลใจผลงานนักเขียนชาวเกาหลีใต้ชื่อดัง “ซอลเลดา” ที่เราคิดว่าสายอ่านหนังสือฮีลใจน่าจะรู้จักกันดี ได้พาน้องกระต่ายตัวเหลือง “ซอลโท” ผู้เคยโอบกอดหัวใจของนักอ่านมาแล้วในเล่ม “อย่าให้ใจเราเจ็บ” กลับมาอีกครั้ง และในเล่มนี้ น้องซอลโทก็ยังคงเป็นผู้มาช่วยปัดกวาดทำความสะอาดหัวใจให้กับนักอ่านผ่านความเรียงที่ประกอบไปด้วยถ้อยคำบ่งบอกความรู้สึกทั้งหมดถึง 111 หัวข้อด้วยกัน
เป็นเล่มที่เราชอบและรู้สึกว่าเนื้อหาอ่านแล้วให้ความรู้สึกสงบ ช่วยให้เราได้กลับมาพูดคุยกับใจตัวเองถึงสิ่งที่ได้เจอมาแต่ละวัน รับฟังความต้องการของใจตัวเองมากขึ้น และตั้งใจใช้ชีวิตไม่ให้ต้องกลับมาเสียใจทีหลังค่ะ
สำหรับเล่มนี้ จะฉีกแนวจากเล่มอื่น ๆ ไปสักหน่อย เพราะเป็นวรรณกรรมที่ชวนเราไปออกเดินทางค้นหาความหมายของชีวิต ผ่านตัวละคร “จอห์น” ชายผู้มุ่งหน้าไปพักร้อนและได้เจอกับคาเฟ่แสนประหลาดแห่งหนึ่งซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
ตามชื่อหนังสือที่บอกว่าคาเฟ่แห่งนี้ เป็นคาเฟ่สำหรับคนหลงทาง แน่นอนว่าจอห์นเองก็หลงทาง เขาต้องการแค่เพียงอาหารที่เสิร์ฟร้อน ๆ เพื่อบรรเทาความหิวจากร้านแห่งนี้ แต่กลับกลายเป็นว่านอกจากอาหาร เขายังได้พบเส้นทางชีวิตใหม่ เมื่อพนักงานที่ร้าน The Why Are You Here Cafe ถามคำถามที่ฟังแล้วน่าประหลาดใจแต่ทำให้จอห์นต้องกลับมาขบคิดถึงชีวิตของตัวเอง
หนังสือเล่มนี้อาจจะไม่ใช่ฮาวทูที่มีคำแนะนำมาให้เป็นข้อ ๆ ว่าเราต้องทำอะไรเพื่อให้พบกับความหมายที่แท้จริงของชีวิต แต่จะถ่ายทอดเรื่องราวของผู้คนที่ต่างก็เคยหลงทางแล้วมารวมตัวที่คาเฟ่แห่งนี้ ให้เราได้อ่านเพื่อทบทวนและค้นหาคุณค่าของชีวิตตัวเอง เป็นหนังสือเล่มบาง ๆ ที่ชวนให้เราครุ่นคิดถึงสิ่งสำคัญของชีวิตอย่างลุ่มลึก ให้เล่มนี้เป็นของขวัญให้นักอ่านสายวรรณกรรม รับรองว่าต้องประทับใจแน่นอน
หนังสือจิตวิทยาพัฒนาตนเองที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของธรรมะ เขียนโดย พระเฮมิน ซูนิม เพื่อมาเตือนให้เราหวนคิดถึงสิ่งสำคัญที่อยู่ตรงหน้า แต่ที่ผ่านมาเราอาจจะมองข้ามมาทั้งชีวิต ขอออกตัวก่อนเลยว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือธรรมะจ๋า ๆ แต่อย่างใด แต่เป็นความเรียงที่เขียนโดยพระ เลยอาจจะทำให้เนื้อหามันออกไปในแนวธรรมะสอนใจ ในเล่มจะเต็มไปด้วยสิ่งที่ควรทำใน 6 ด้านสำคัญของชีวิต หากอยากให้เราสามารถใช้ชีวิตช้าลง ควบคุมหัวใจให้สงบนิ่งแทนการวิ่งไล่ตามความวุ่นวายของโลก
ส่วนตัวเราชอบเล่มนี้มาก ๆ เพราะเป็นหนังสือที่อ่านแล้วเหมือนได้รีเซ็ตตัวเองใหม่ ใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น อีกอย่างคือการนำธรรมะมาถ่ายทอดในแบบที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย ใครหรือวัยไหนก็อ่านได้สบายแน่นอน
การมอบของขวัญให้กัน เป็นส่วนสำคัญของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ นอกจากจะช่วยสร้างความประทับใจให้แก่กันและกันแล้ว ยังแสดงออกถึงความมีน้ำใจของผู้ให้อีกด้วย ยิ่งในเทศกาลสำคัญ การให้ของขวัญกับคนพิเศษ ยิ่งต้องพิถีพิถันเลือกจนกว่าจะมั่นใจว่าเมื่อได้รับไปแล้ว คนคนนั้นจะรู้สึกดีและมีความสุขที่ได้รับ
เราหวังว่าหนังสือความหมายดีที่เลือกมาป้ายยาในบทความนี้ จะเป็นของขวัญที่สามารถสื่อถึงความรัก ความหวังดีจากผู้ให้ไปถึงผู้รับได้อย่างดีนะคะ
ขอให้อ่านหนังสืออย่างสนุกและมีความสุขในทุกการพลิกหน้ากระดาษค่ะ
Keyword