นับถอยหลังเข้าสู่ช่วงปีใหม่ ในช่วงนี้ช่างเหมาะแก่การมานั่งคุยทำความเข้าใจตัวเองเป็นที่สุด เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน ปล่อยวางอะไรเก่า ๆ เพื่อให้เราสามารถเริ่มต้นใช้ชีวิตในปีใหม่ได้อย่างสดใสและเข้าใจตัวเองมากขึ้น
บทความนี้ เราเลยอยากชวนเพื่อน ๆ มาตอบคำถามทบทวนหัวใจตัวเอง กับ 10 คำถามที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้กลับมาตกตะกอนชีวิตในปีที่ผ่านมาว่าเราเติบโตขึ้นขนาดไหน พร้อมกับแนะนำหนังสือถึง 10 เล่มแบบจุก ๆ ที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้ค้นพบตัวตนและคำตอบผ่านการอ่าน
หากคำถามไหนที่ยังไม่มั่นใจในคำตอบ ลองแวะไปอ่านหนังสือที่เราแนะนำก่อนค่อยมาเขียนตอบก็ย่อมได้ เพราะสุดท้ายแล้วคำตอบของคำถามมันไม่ได้กำหนดถูกผิดตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับความรู้สึกลึก ๆ ในใจของเพื่อน ๆ เอง
ถ้าพร้อมแล้วก็มาสำรวจใจไปพร้อมกันกับคำถามและหนังสือทั้ง 10 เล่มกันเลย
เราทุกคนล้วนแต่เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ในวันบางเราอาจจะทำเรื่องที่น่าภูมิใจมาก ๆ แต่ในบางวันเราอาจจะทำผิดพลาดจนไม่น่าให้อภัย สิ่งไหนที่เรารู้สึกว่าทำไปแล้วมันดีต่อตัวเราและคนรอบข้างก็ควรที่จะภูมิใจและชื่นชมตัวเองเยอะ ๆ ส่วนสิ่งไหนที่เผลอทำไปแล้วต้องมานั่งเสียใจทีหลัง ก็เก็บเป็นบทเรียนและเตือนใจตัวเองเอาไว้ว่าอย่ากลับไปทำสิ่งนั้นซ้ำสองอีก
เป็นหนังสือว่าด้วยหลักการคิดแบบ อิชิโกะ อิชิเอะ แปลว่า “โอกาสเดียว พบกันครั้งเดียว” ซึ่งเป็นแก่นของศาสนาพุทธนิกายเซนและหัวใจของพิธีชงชาแบบญี่ปุ่นที่จะสอนให้เราเรียนรู้การอยู่กับปัจจุบันและตั้งใจใช้ชีวิตในปัจจุบันเพียงครั้งเดียวนี้ให้ดีที่สุด และหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตในปัจจุบันได้อย่างมีสติ คือการหมั่นทบทวน และเตือนตนเองไม่ให้จมอยู่กับอดีตและไม่คาดหวังกับอนาคตมากเกินไปจนใจไม่สงบนั่นเองค่ะ เป็นหนังสืออีกเล่มที่เปลี่ยนมุมมองใหม่ให้กับชีวิตได้ดีมากทีเดียวค่ะ
เพราะชีวิตคือการเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ระหว่างทางของการเติบโตเราอาจจะได้ค้นพบอะไรใหม่ ๆ ทั้งที่เกิดขึ้นกับผู้คนรอบข้างและโลกใบใหญ่ใบนี้ ให้ได้เก็บมาเป็นบทเรียนมายมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด คือการทำความเข้าใจและเรียนรู้ความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งถือเป็นการแสดงความรักให้กับตัวเองได้ดีมากอย่างหนึ่งเลยค่ะ
หนังสือที่จะชวนให้เรากลับมาฝึกบอกรัก โอบกอด เข้าใจ และให้คุณค่ากับความเป็นคนธรรมดา ๆ ของตัวเองที่ประกอบไปด้วยทั้งข้อดี ข้อเสีย ความผิดพลาด ความถูกต้อง ด้วยการพูดคุยกับจิตใจตัวเอง ผ่านความเรียงให้กำลังใจที่นำมาปรับใช้ได้จริง อ่านจบแล้วเพื่อน ๆ จะเข้าใจว่า ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ได้เป็นคนที่คนอื่นหยิบยื่นคำว่า “คนพิเศษ” มาให้ แต่เราก็จะเป็นคนที่พิเศษที่สุดสำหรับตัวเราเสมอ
ช่วงปลายปีก่อนหลาย ๆ คนอาจจะเขียนลิสต์ไว้อย่างจริงจังว่าอยากทำอะไรให้สำเร็จภายในปีหน้าบ้าง แต่สุดท้ายก็กลายเป็นว่าไม่มีอะไรคืบหน้าอยู่ดี พอมานั่งทบทวนตัวเองปลายปีทีไรก็หงุดหงิด ว่าทำไมถึงทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ไม่ได้สักที อาจจะเพราะลืมมองไปว่าชีวิตมันไม่ได้มีใครมากำหนดเส้นตายไว้ให้เราต้องกดดันตัวเองขนาดนั้น ในขณะเดียวกัน ถึงสิ่งที่แพลนไว้ไม่สำเร็จในปีนี้ แต่เรายังมีความสำเร็จแบบไม่คาดคิดที่ชีวิตหยิบยื่นมาให้ เพียงแต่เมื่อมันไม่ใช่สิ่งที่เราหวังไว้ เราเลยลืมให้คุณค่ากับมันไปก็เป็นได้นะคะ
หนังสือที่จะพาเราไปเรียนรู้ว่า ในทุกช่วงเวลานั้นเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เรียนรู้และค้นพบตัวเอง เพราะไม่ว่าชีวิตจะยากขนาดไหน เจอบททดสอบ อุปสรรค และความผิดหวังที่ไม่คาดคิดมากมายเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเหมือนแบบฝึกหัดของชีวิตที่จะช่วยให้เรากล้าเผชิญหน้ากับความท้าทาย ฝึกใช้ชีวิตด้วยความยืดหยุ่น เพื่อเพิ่มความสงบให้กับหัวใจในยุคที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายนั่นเองค่ะ ผลงานการเขียนของ เฮมิน ซูนิม ที่อ่านแล้วนอกจากได้คติเตือนใจยังเหมือนได้เรียนรู้สัจธรรมชีวิตไปด้วย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความสัมพันธ์กับคนรอบตัวมีส่วนช่วยให้ชีวิตของเรามีความสุข หากชีวิตรายล้อมไปด้วยคนที่รักและหวังดีกับเราด้วยความซื่อสัตย์จริงใจ ไม่ทำให้รู้สึกว่าเราเป็นคนที่พยายามในความสัมพันธ์อยู่ฝ่ายเดียว เราย่อมอยากที่จะรักษาทั้งคนและความสัมพันธ์เหล่านั้นให้อยู่กับเราไปอีกนาน ๆ แต่ในทางกลับกัน หากอยู่ในความสัมพันธ์ไหนแล้วไม่มีความสุขแถมต้องมานั่งวิตกกังวลกับการกระทำของอีกฝ่ายของตลอดเวลา เราแนะนำเลยว่าควรพิจารณาพูดคุยเพื่อแก้ปัญหา หรืออาจจะถึงเวลาเว้นระยะห่างระหว่างกันและกัน อย่าปล่อยให้ถึงขั้นทะเลาะแตกหัก แค่ยอมรับว่าเราอาจไม่เหมาะที่จะใช้เวลาร่วมกันอีกต่อไปแล้ว
เนื้อหาในเล่มนี้ เต็มไปด้วยคำแนะนำและวิธีรับมือสารพันปัญหาในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็น วิธีการจัดการความกลัว ความเหงา รวมถึงการติดอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่ เพื่อให้เราได้ค้นพบและเข้าใจว่าความรักแบบไหนที่ใช่สำหรับเรา เพราะในยุคที่ความรักความสัมพันธ์มันซับซ้อนยากที่จะทำความเข้าใจ การเริ่มต้นทบทวนตัวเองว่าเราเหมาะกับความรักแบบไหน หรือคนแบบไหนที่ใช่จะเป็นคู่ชีวิตเรานั้น เป็นสิ่งสำคัญพอกันกับหลาย ๆ เรื่องในชีวิต นอกจากนี้ หนังสือยังมีเทคนิคที่จะช่วยให้เรารู้ทันสัญญาณอันตราย หรือ Red Flags ที่อีกฝ่ายอาจะเผลอแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย
ในแต่ละปีที่ผ่านไป แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่คงอยู่ตลอดกาล ทุกคนล้วนมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ตามสถานที่ที่อยู่ ตามผู้คนที่เจอ หรือแม้แต่ตามความจำเป็นของชีวิตที่บีบบังคับ เช่น เราไม่มีเวลามานั่งดูการ์ตูนเรื่องโปรดสมัยเด็กอีกต่อไปแล้ว เพราะความเป็นผู้ใหญ่ทำให้เราต้องเอาเวลาไปทุ่มเทกับงานมากขึ้น แต่ทุกสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปล้วนแต่เป็นสัญญาณของการเติบโต มาลองสังเกตกันว่าในปีที่ผ่านมา เรามีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง และเปลี่ยนไปในทางที่ตัวเราคิดว่าดีขึ้นหรือแย่ลง เพื่อทบทวนทำความรู้จักตัวเองกันให้มากขึ้น
หนังสือความเรียงที่เขียนขึ้นจากมุมมองการใช้ชีวิตของคุณวินนี่ นักเขียนที่มีผลงานหนังสือฮีลใจ ให้กำลังใจหลายเล่ม สำหรับในเล่มนี้ เนื้อหาแต่ละพาร์ท ล้วนเขียนขึ้นจากประสบการณ์ที่คุณนักเขียนต้องการถ่ายทอด และส่งกำลังใจไปถึงผู้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นผู้คนที่กำลังเผชิญหน้ากับความสับสนหรือหลงทาง คนที่เต็มไปด้วยหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ คนที่กำลังรับมือกับปัญหาความสัมพันธ์ หรือคนที่ต้องการกำลังใจในการใช้ชีวิต เปรียบเหมือนเพื่อนคนหนึ่งที่กำลังปลอบใจ รับฟัง และบอกกับเราว่า “ไม่เป็นไรนะ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็คือส่วนหนึ่งของการเติบโตนั่นแหละ”
คำถามนี้น่าจะเป็นคำถามยอดฮิตตลอดกาลเวลามานั่งทบทวนตัวเองของใครหลายคน สำหรับเราปีนี้ยกให้เป็นสามคำที่ค่อนข้างเหมาะกับวัย (ใกล้ 30) ของเรามาก นั่นก็คือ “ง่วง อ่อม แก่” นั่นเองค่ะ แล้วเพื่อน ๆ อยากอธิบายชีวิตตัวเองด้วยสามคำไหนกัน แต่เก็บคำตอบไว้ก่อนนะคะ เพราะเราอยากให้เพื่อน ๆ เขียนตอบไว้ในหนังสือที่สามารถเขียนได้เองและเป็นเรื่องของเพื่อน ๆ เองคนเดียวทั้งเล่มเลยค่ะ
ถึงชื่อหนังสือจะบอกให้เขียนแล้วเผา เพราะความลับคงหลุดออกไปถ้าเผลอวางเอาไว้แล้วมีใครมาเปิดอ่าน แต่เอาจริง ๆ เราว่าหนังสือเล่มนี้ เขียนเอาไว้เพื่อให้เราได้กลับมาอ่านทบทวนตัวเองแบบ 100% แถมทุกหน้า ทุกหัวข้อ เพื่อน ๆ ต้องเป็นคนเขียนเองด้วยนะคะ ในเล่มนี้จะประกอบไปด้วยคำถามมากมายให้เพื่อน ๆ ได้ตอบไปทบทวนตัวเองไปถึงก้นบึ้งของหัวใจเลยทีเดียว บางคำถามอาจจะแทงใจดำไปสักหน่อย แต่รับรองว่าถ้าเขียนตอบครบทุกข้อ อาจจะแปลกใจว่านี่ใช่ฉันคนที่รู้จักมาตลอดชีวิตจริง ๆ รึเปล่า เป็นหนังสือที่มีลูกเล่นแปลกใหม่ แถมยังใช้ประโยชน์ได้จริงอีกด้วย
สุขภาพจิตเป็นสิ่งที่สำคัญและควรเอาใจใส่ไม่ต่างกันกับสุขภาพกาย เพราะเมื่อใจแข็งแรง เราก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเข้มแข็งและมีความสุข ในวันที่รู้สึกว่าอะไร ๆ มันก็ยากไปหมดจนหัวใจเริ่มเหนื่อย ลองหากิจกรรมที่ทำแล้วได้ผ่อนคลายทั้งกายและใจติดต่อกันสักระยะ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กลับมาแข็งแรงกันนะ สำหรับเราในปีที่ผ่านมากิจกรรมที่ว่าคงเป็นการได้ทำอะไรช้า ๆ ดูบ้าง ทำทีละอย่างแบบไม่ต้องรีบ เช่น ดูหนัง ก็ตั้งใจดูหนังจริง ๆ ไม่ใช่การดูหนังไปตอบข้อความในอินสตาแกรมไป คือใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังทำ ใช้ชีวิตให้ช้าลงและมีสติมากขึ้น
หนังสือที่ชวนให้เรากลับมาให้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น ผ่านเนื้อหาที่เต็มไปด้วยถ้อยคำเรียบง่าย ชี้ให้เห็นความสำคัญของการรู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง การให้อภัย การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และที่สำคัญคือการยอมรับในความธรรมดาของชีวิต สลับกับโควทให้กำลังใจแบบคับเล่ม ใครที่กำลังรู้สึกว่าชีวิตเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าไม่ว่าจากทั้งปัจจัยไหน ๆ ลองหยิบเล่มนี้มาอ่านในวันที่อยากปิดสวิตช์จากโลกภายนอกดูนะคะ
แน่นอนว่าไม่มีใครที่เส้นทางชีวิตจะโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เราทุกคนล้วนต้องพบกับเรื่องราวทั้งดีร้ายสลับกันขึ้นอยู่กับจังหวะชีวิตของแต่ละคน เมื่อเจอเรื่องดี ๆ จงขอบคุณและมีความสุขไปกับมัน เมื่อเจอเรื่องร้าย ๆ ก็จงขอบคุณและเรียนรู้บทเรียนจากมัน แต่ขอให้จำไว้เสมอเวลาที่เจอเรื่องร้าย ว่าเมื่อเราสามารถผ่านมันไปได้ แสดงว่าเราก็เก่งและแกร่งมากพอที่จะรับมือกับบททดสอบของชีวิต
หนังสือที่จะเตือนกับเราว่าชีวิตไม่มีคำว่า “สมบูรณ์แบบ” ในบางวันเราอาจจะต้องรับมือกับความทุกข์และเรื่องร้าย บ้าง แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าทั้งชีวิตต่อแต่นี้ไปเราจะไม่สามารถมีความสุขได้อีกเลย เรายังสามารถมองหาความสุขได้ในทุกสถานการณ์และทุกช่วงเวลาของชีวิต ขอเพียงแค่เราอย่ายึดติดกับช่วงเวลาเลวร้ายนั้นมากจนเกินไป สุดท้ายเราก็จะสามารถผ่านมันไปได้เสมอ ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนก็ตาม นอกจากนี้ในเล่มยังมีแบบฝึกหัดมาให้ลองทำเพื่อฝึกการสร้างนิสัยใหม่ให้เราเป็นคนที่ปล่อยวางได้มากขึ้นอีกด้วยค่า
มาทบทวนตัวเองในหมวดหน้าที่การงานกันบ้าง เพราะงานก็คืออีกเรื่องสำคัญในชีวิตที่ต้องใส่ใจ เราเองคิดว่างานแต่ละอย่างมีคุณค่าแตกต่างกันไปอยู่ที่ใครจะมอง และไม่มีงานสุจริตงานไหนที่ไม่น่ายกย่อง สิ้นปีแบบนี้ ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะจะมานั่งทบทวนถึงคุณค่าและบทเรียนที่เราได้จากการทำงาน เพื่อนำไปสานต่อพัฒนาทั้งตัวเราและงานที่เรารักในปีหน้ากันค่ะ
หนังสือเล่าประสบการณ์การทำงานของ คุณพูนลาภ อุทัยเลิศอรุณ เจ้าของและผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์วีเลิร์น ที่จะนิยามว่า “เป็นคนธรรมดาที่ไม่ยอมให้โชคชะตามากำหนดชีวิต” ก็ว่าได้ค่ะ ในเล่มจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่คุณพูนลาภต้องรับมือและแก้ปัญหา ตลอดเวลาที่ผ่านมาในการก่อตั้งสำนักพิมพ์ เรียบ-เรียงมาเป็นทั้งหมด 33 แนวคิดการทำงานที่สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของเราได้ เป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ ของคนตัวเล็ก ที่ให้แรงบันดาลใจในการทำงานอย่างมหาศาลเลยค่ะ
คำถามสุดท้ายสำหรับบทความนี้ มีความกลัวอะไรที่เพื่อน ๆ ยังก้าวผ่านมันไปไม่ได้ไหมคะ ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะกลัวอะไรอยู่ก็ตาม กลัวถูกปฏิเสธ กลัวความล้มเหลว กลัวเสียใจ กลัวผิดหวัง ความกลัวเหล่านี้อาจจะคอยฉุดรั้งไม่ให้กล้าทำอะไรที่อีกใจนึงก็อยากทำมาก ๆ สุดท้ายพอไม่ลงมือทำ ก็ไม่รู้ผลลัพธ์ของสิ่งที่อยากลองทำนั้นสักที เราขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วยให้เพื่อน ๆ กล้าที่จะพาตัวเองออกจาก Comfort Zone กันได้ไว ๆ นะคะ
หนังสือที่จะช่วยให้เรากล้าเผชิญหน้ากับความจริงมากขึ้น ด้วยการฝึกรับมือกับเรื่องร้าย ๆ ด้วยสโตอิก ทำสมาธิแบบชาวพุทธ และเฉลิมฉลองพร้อมรับมือความตายแบบชาวเม็กซิโก เพราะคุณโอลิเวอร์ เบิร์กแมน ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เชื่อว่า ชีวิตจริงไม่มีคำว่าสวยงามทุกโมงยาม ดังนั้นเราจึงต้องฝึกมองโลกในแบบที่มันเป็นจริง ๆ เพื่อให้เราได้ค้นพบความสุขที่ยังยืน เนื้อหาในเล่มจะพาเราไปฝึกโอบรับความล้มเหลว เปิดใจให้กับความไม่แน่นอนของชีวิต ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่ยากรับมือแต่ก็เลี่ยงไม่ได้เช่นเดียวกัน เป็นหนังสือที่เรียกได้ว่าสวนกระแสแต่แฝงไปด้วยหลักคิดและธรรมะที่น่าสนใจมาก ๆ ค่ะ
สำหรับคำถามทั้ง 10 ข้อในบทความนี้ เราอยากให้ทุกคนค่อย ๆ นั่งลงและเปิดใจถามตอบกับตัวเองอย่างจริงใจ ให้คำตอบมันออกมาจากความรู้สึกที่กำลังคิดอยู่จริง ๆ ไม่ต้องฝืนคิดหาคำตอบให้ปวดหัว เพราะความคิดแว๊บแรกที่ผุดขึ้นมานั่นแหละ คือเสียงจากหัวใจของเราจริง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรรับฟังและเชื่อมันมากที่สุด
ขอให้อ่านหนังสืออย่างสนุกและมีความสุขในทุกการพลิกหน้ากระดาษนะคะ
ฝ่ายบริการสมาชิก The 1 หรือ The1 Call Center
ที่หมายเลข 02-660-1000 ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 22.00 น. เพื่อแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสาร
จะมีผลให้ส่วนลด พลังสะสมหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับจะถูกยกเลิกในทันที และหากท่านกลับมาสมัครใหม่ในภายหลังจะถือเป็นสมาชิกใหม่
ของท่านจะถูกยกเลิกทันที หลังจากท่านกดยืนยัน