เพื่อน ๆ เคยอ่านนิยายแฟนตาซีเล่มไหนแล้วรู้สึกว่าสนุกจนอยากหลุดเข้าไปอยู่ในหนังสือเล่มนั้นจริง ๆ ไหมคะ ลองจินตนาการว่าถ้าได้เป็นตัวเอกในเรื่องราวการผจญภัยเรื่องโปรด ไม่ว่าพล็อตเรื่องนั้นจะเป็นการตามล่าหาสมบัติ การปกป้องคนที่รักจากศัตรูตัวร้าย หรือการใช้เวทมนตร์ประลองฝีมือกัน คงจะฟินน่าดูเลย
กลับมาที่ความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเราจะเข้าไปลองใช้ชีวิตในหนังสือไม่ได้ แต่เราก็ยังสามารถดื่มด่ำกับเรื่องราวเหล่านั้นผ่านการอ่านได้เสมอ ยิ่งในบางวันที่รู้สึกว่าโลกความเป็นจริงมันช่างน่าเหนื่อยหน่ายขนาดไหน การได้อ่านหนังสือแฟนตาซีที่มีฉากหลังเป็นอีกโลกหนึ่งก็ทำให้เราได้พักจากความวุ่นวายที่เจอมาได้อย่างดีอีกวิธีเลยนะ เมื่อไม่นานมานี้เราได้ลองอ่านกับนิยายแฟนตาซีสุดสนุกที่มีพล็อตการผจญภัยที่ทั้งชวนให้ตื่นเต้นน่าสนใจและหลากหลายแนวกันไปมากขึ้น ในบทความนี้เราเลยขอหยิบนิยายแฟนตาซีที่ว่ามาป้ายยาเปิดโลกการอ่านให้กับทุกคนกัน ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีเล่มไหนน่าตำบ้าง ไปอ่านรีวิวกันเล้ยย
การผจญภัยเริ่มต้นที่ ดร. ไรแลนด์ เกรซ ครูสอนวิทยาศาสตร์ชั้นม.ต้น ถูกขอร้อง (บังคับ) ให้ขึ้นยานอวกาศแบบถือตั๋วเที่ยวเดียวไปกอบกู้ระบบสุริยะ เนื่องจากมีเรื่องอันตรายกำลังเกิดขึ้น ทีแรกเหมือนจะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติธรรมดา ๆ แต่นาซ่าพบว่ามันคือการหม่นแสงของดวงอาทิตย์ สาเหตุเกิดจากแสงปริศนาที่กำลังเล่นงานดาวพี่ใหญ่และอาจจะลุกลามไปถึงดาวดวงอื่น ๆ ในระบบสุริยะด้วย หากปล่อยไว้จนดวงอาทิตย์ดับ โลกก็จะกลับสู่ยุคน้ำแข็งซึ่งแน่นอนว่ามันไม่น่าสนุกเลยสักนิด ทางอีซาหรือองค์การอวกาศยุโรปไม่รอช้า เฟ้นหานักวิทยาศาสตร์ฝีมือดีมาเข้าร่วมโปรเจกต์ เฮลแมรีเพื่อกอบกู้ดวงอาทิตย์ จนหวยมาออกที่เกรซ ผู้ไม่คาดคิดว่าวันนึงจะได้รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่มีชีวิตของมนุษยชาติเป็นเดิมพัน และมันไม่ง่ายขนาดนั้น เมื่อเขาตื่นขึ้นมาบนยานอวกาศแล้วพบว่าผู้ร่วมเดินทางอีก 2 คนได้กลายเป็นศพไปแล้ว งานนี้เกรซจะรับมือยังไง เขาจะช่วยให้ดวงอาทิตย์ปลอดภัยและรอดชีวิตกลับสู่โลกอีกครั้งได้หรือไม่ ร่วมหาคำตอบได้ในเล่มค่ะ
เล่มนี้เป็นนิยายแฟนตาซีแนว sci-fi ที่นอกจากจะสนุกแล้วยังซึ้งกินใจเพราะมิตรภาพดี ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างมนุษย์โลกกับมนุษย์ต่างดาวซึ่งเป็นธีมหลักของเรื่องนั่นเอง ที่บอกว่าซึ้งกินใจเพราะมีฉากที่อ่านไปแล้วแอบน้ำตาซึมจริง ๆ ค่ะ สนุกครบรสแบบที่ไม่คิดเลยว่านิยายแฟนตาซีจะให้อารมณ์ที่หลากหลายขนาดนี้ ทั้งตลก ลุ้นจนตัวเกร็ง หน่วง ๆ ในใจ และแอบเศร้าไปกับตัวละคร ถ้าเพื่อน ๆ ชอบอ่านนิยายที่นอกจากสนุกแล้วยังเล่นกับความรู้สึกด้วยจะพลาดเล่มนี้ไม่ได้เลยน้า
ถ้าใครเคยอ่านนิยายแฟนตาซีชุด เพอร์ซีย์ แจ็กสัน มาก็น่าจะพอได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเล่มนี้มาบ้าง เพราะนี่คือนิยายแฟนตาซีที่มีเรื่องต่อมาจาก เพอร์ซีย์ แจ็กสัน นั่นเองค่ะ ในเล่มนี้เราจะยังไม่ได้เจอเพอร์ซีย์เพราะเค้าดันหายตัวไปจากค่ายฮาล์ฟบลัดอย่างไร้ร่องรอย แต่เราจะได้ร่วมเดินทางไปกับตัวละครใหม่อย่าง เจสัน เด็กหนุ่มผู้ตื่นขึ้นมาบนรถโรงเรียน โดยที่ความทรงจำทั้งหมดหายไป ไพเพอร์ เด็กสาวที่ถูกมองว่าเป็นเด็กขี้ขโมยและทุกครั้งที่โดนจับได้ เธอก็จะยืนยันว่าเธอแค่ขอสิ่งนั้นมาดี ๆ สุดท้ายคือ ลีโอ เด็กชายกำพร้าที่หนีออกจากสถานสงเคราะห์เป็นว่าเล่น เด็กทั้งสามถูกนำตัวไปที่ค่ายฮาล์ฟบลัดโดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าสถานที่แห่งนี้มีไว้เพื่อเด็กเลือดผสม เด็กที่เกิดจากความรักของเทพและมนุษย์
เมื่อไม่มีใครรู้ว่าเพอร์ซีอยู่ที่ไหนและคำพยากรณ์บทใหม่เริ่มต้นขึ้น ทำให้พวกเขาต้องออกเดินทางเพื่อไปช่วยเหลือเฮร่า ราชินีแห่งโอลิมปัสที่ถูกจับตัวไป แม้ทั้งสามจะไม่มั่นใจว่าจะรอดชีวิต แต่การผจญภัยครั้งนี้ทำให้พวกเขาได้ค้นพบและเรียนรู้วิธีใช้พลังที่แท้จริงของตัวเอง ซึ่งปรากฏขึ้นในยามคับขัน ทั้งภารกิจยังหล่อหลอมความรักและมิตรภาพระหว่างกันอย่างเหนียวแน่นให้กับพวกเขาอีกด้วย ทั้งสามจะพาราชินีเฮร่ากลับมาได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ ติดตามอ่านได้ในเล่มค่ะ
เล่มนี้เป็นอีกผลงานที่สนุกสนานไม่แพ้เล่มที่ผ่าน ๆ มาของนักเขียนนิยายแฟนตาซีมากฝีมือ คุณลุงริค ไรออร์แดน ขวัญใจนักอ่านหลาย ๆ ท่าน เพราะลีลาการเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ของลุงเลยทำให้เหล่าเทพเลือดผสมยังคงเป็นเรื่องราวที่ประทับใจคนทุกวัยเสมอมา สำหรับแฟนคลับลุงริคแบบเราก็ขอการันตีเลยว่าการผจญภัยในเล่มนี้ทั้งลุ้นทั้งฮาไม่แพ้เพอร์ซี แจ็กสัน และนิยายชุดนี้ยังมีเล่มต่ออีก 4 เล่มด้วยกัน นักอ่านจะได้ร่วมผจญภัยกับแก๊งลูกเทพกันไปยาว ๆ เลยทีเดียวค่ะ
นิยายแฟนตาซีภาคต่อจาก โฟร์ทวิง FOURTH WING หลังจากที่รอดตายมาจากเกมสงครามในเล่มแรก ไวโอเล็ต ซอร์เรนเกล ต้องรับมือกับสถานการณ์ที่โหดร้ายกว่าเดิม เธอรวมถึงทุกคนที่รอดจากเกมสงครามและการเผชิญหน้ากับตัวร้ายอย่างเวนินมาได้ก็ทยอยโดนฆ่าทิ้งไปทีละคน จนสุดท้ายคนที่เหลือต้องร่วมมือกันเพื่อต่อกรและแก้แค้น จากที่ถูกทำนายเอาไว้ตั้งแต่ปีแรกว่าจะไม่สามารถมีชีวิตรอดไปได้ แต่ด้วยความกล้าหาญ ไหวพริบ ทักษะการใช้มีดที่สุดยอด ทำให้เธออยู่รอดปลอดภัยมาได้ในที่สุด แต่เรื่องก็ไม่ราบรื่นไปตลอดเพราะในเล่มนี้มีตัวละครใหม่ที่มารับบทรองผู้บังคับการพิเศษคนใหม่ แน่นอนว่ามาเพื่อเป็นศัตรูกับไวโอเล็ต ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์กับเซเดนก็ไม่ลงรอยนัก ทั้งความเห็นไม่ตรงกัน และความไม่มั่นใจในตัวเซเด็น แม้ว่าทางฝั่งเค้าจะมั่นใจมากไปหน่อยว่าเธอคือคนที่ใช่และเป็นคนเดียวที่อยากใช้ชีวิตด้วยจริง ๆ ยังไม่รวมถึงการฝึกที่หนักจนแทบขาดใจที่ออกแบบมาให้นักขี่มังกรอดทนต่อความเจ็บปวดเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะรับไหว แค่นี้ก็ดูว้าวุ่นแล้วใช่มั้ยคะ ถ้าอยากรู้ว่านางเอกของเราจะรับมือไหวมั้ย ต้องไปอ่านกันในเล่มเลย
ขอการันตีว่าในเล่มนี้ความสนุกไม่แผ่วจากเล่มแรกเลยค่ะ สารพันปัญหาที่เข้ามาทำให้ต้องร่วมให้กำลังใจนางเอกไปตลอดทั้งเรื่องเลย ไหนจะมิตรที่กลายเป็นศัตรูและความลับมากมายที่ไวโอเล็ตต้องหาทางปกปิดไว้ ทำให้เธอต้องเจอศึกหนักทุกทางก็ว่าได้ ชวนปวดเศียรเวียนเกล้าไปหมด อ้อ! เกือบลืมไป เล่มนี้มีฉาก NC ที่ไม่เหมาะกับเด็ก ๆ นะคะ น้อง ๆ ที่อายุต่ำกว่า18 ปีอาจจะต้องผ่านเล่มนี้ไปก่อนน้า
เรื่องราวของ คิมดกจา พนักงานออฟฟิศธรรมดา ๆ ที่ทำงานในบริษัทเกมแห่งหนึ่ง ชีวิตของเค้ามีกิจวัตรที่ไม่ต่างจากมนุษย์เงินเดือนทั่วไป คือทำงานจากนั้นก็กลับบ้าน แต่ระหว่างนั่งรถไฟฟ้า เค้าจะใช้เวลาไปกับงานอดิเรกอย่างการอ่านนิยายเรื่องโปรดของเขา คือ "สามวิธีการเอาชีวิตรอดในโลกที่ล่มสลาย" นิยายความยาวถึง 3 พันตอน ซึ่งคิมดกจาเป็นเพียงคนเดียวที่ได้อ่านจบถึงบรรทัดสุดท้าย โดยที่เค้าไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่านิยายที่เค้าใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตไปกับมันจะทำให้เค้าอยู่รอดในโลกใหม่ที่เหตุการณ์คล้ายกับนิยายที่ได้อ่าน เนื่องจากเรื่องนี้ มีเล่มต่อหลายเล่มมาก ๆ เราเลยขอเล่าเรื่องย่อคร่าว ๆ ว่าธีมเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไรให้พอหอมปากหอมคอนะคะ ซึ่งในปัจจุบันนี้ จำนวนเล่มที่แปลจากภาษาเกาหลีมาเป็นภาษาไทยให้ได้อ่านมีทั้งหมด 23 เล่มแล้ว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนิยายแฟนตาซีที่มีเล่มต่อให้ตามอ่านเยอะแต่เนื้อเรื่องไม่ได้ยืดเยื้อจนน่าเบื่อ ดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็วและลื่นไหล ขณะเดียวกันก็ไม่ได้เร็วไปจนอ่านแล้วงง แค่พลิกหน้าไม่กี่หน้า พระเอกของเรื่องจากมนุษย์เงินเดือนสุดแสนธรรมดา ก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเอาตัวรอดจากโลกที่ล่มสลายแล้ว
เจ็น หัวขโมยผู้เก่งกาจ ที่สามารถขโมยได้ทุกอย่าง แต่เธอดันติดอยู่ในคุกใต้ดินภายในพระราชวังของกษัตริย์แห่งซูนิส เจ็นได้แต่นับถอยหลังรอวันตาย จนในที่สุดวันหนึ่ง ซูนิสปล่อยเจ็นออกจากคุก โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องขโมยของอย่างหนึ่งมาให้พระองค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีขโมยคนไหนมีความสามารถพอจะที่จะขโมยได้มาก่อน ศิลาในตำนานที่เรียกกันว่าของขวัญแห่งฮามิอาธิส เทพเจ้าได้สร้างมันขึ้นเพื่อมอบให้แก่ผู้ปกครองของเอ็ดดิส ว่ากันว่าผู้ที่ครอบครองหินนี้จะได้ครองบัลลังก์แห่งเมืองเอ็ดดิสโดยสมบูรณ เจ็นจึงตกลงทำภารกิจซึ่งต้องออกเดินทางไปกับราชครูส่วนพระองค์ของกษัตริย์ซูนิส ผู้มองเจ็นเป็นแค่เครื่องมือที่จะทำให้กษัตริย์ซูนิสได้ครอบครองอาณาจักรเอ็ดดิสเท่านั้น แต่เจ็นเองก็มีแผนที่คิดไว้ซ่อนอยู่เช่นกัน และแผนที่ว่านั้นจะเป็นอะไร ติดตามอ่านได้ในเล่มค่ะ
นิยายเล่มนี้ เป็นเล่มแรกจากซีรีส์จอมโจรยูเจนิดิสซึ่งมีทั้งหมด 6 เล่มด้วยกัน เล่มที่มีวางขายในฉบับภาษาไทยตอนนี้ ยังมีเพียงแค่เล่มเดียวภายใต้สำนักพิมพ์เวิร์ด วอนเดอร์ เจ้าเดียวกันกับน้องแอนน์ หนูน้อยแห่งบ้านกรีนเกเบิลส์ฉบับล่าสุดนั่นเองค่ะ สำหรับเรา การอ่านเล่มนี้ค่อนข้างต้องใจเย็นอย่างมากเพราะเรื่องเป็นการเล่าแบบบรรยาย และเรื่องจะเล่าแบบไม่ค่อยเรียงช่วงเวลาทำให้ต้องใช้การทำความเข้าใจและปะติดปะต่อพอสมควร แต่ด้วยความที่พล็อตดีและเนื้อเรื่องน่าติดตามเลยทำให้รู้สึกว่ามันไม่น่าเบื่อ เป็นนิยายแฟนตาซีอีกเรื่องที่พล็อตเรื่องน่าสนใจมากค่ะ
นิยายเล่มนี้เป็นแนวสตีมพังก์ ซึ่งเป็นแฟนตาซีที่เน้นสไตล์ของยุคอุตสาหกรรมผสมผสานกับเทคโนโลยีแห่งอนาคต เรื่องราวของเลอไวอาธันจะเป็นเหมือนโลกคู่ขนานกับสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยชนวนของสงครามเกิดขึ้นจากการปะทะกันระหว่าง อาร์ชดยุกฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ กับขบวนการแบล็ก-แฮนด์ ทำให้อาร์ชดยุกเสียชีวิตลง หลังจากกลุ่มแบล็กแฮนด์กระทำการสำเร็จ อเล็กต้องหนีออกจากวังก่อนที่ชะตากรรมจะเหมือนกันกับพ่อแม่ โดยมีครูสอนฟันดาบนามว่าท่านเคาท์วัลเกอร์คอยอารักขา จนกระทั่งได้เจอกับ เดริน ชาร์ป เด็กสาวชาวสก๊อตผู้รักในการโบยบิน เลยเป็นสาเหตุให้เธอเข้าร่วมกองทัพอากาศหลวงโดยการปลอมตัวเป็นผู้ชายภายใต้ชื่อ ดีแลน ชาร์ป เป็นการพบพานที่น่าสนใจ ระหว่างองค์ชายจากออสเตรียกับเด็กสาวชาวสก๊อต ท่ามกลางสงครามที่กำลังปะทุขึ้น เรื่องราวการผจญภัยนี้จะไปจบที่ตรงไหน ติดตามได้ในเล่มค่ะ
ทั้ง 6 เรื่องที่เลือกมา มีเล่มไหนเคยผ่านหูผ่านตาเพื่อน ๆ มาบ้างมั้ยคะ ขอบอกเลยว่า ถ้ายังไม่ได้อ่านจะพลาดของดี รีบพุ่งตัวไปหาได้ที่ B2S ด่วนเลย หรือหากไม่สะดวกออกไป จะกดออนไลน์ให้ส่งถึงบ้านก็ได้นะคะ รับรองเลยว่าไม่มีผิดหวัง ก่อนจบบทความนี้ ขอทิ้งท้ายไว้ว่าระวังติดใจจนรออ่านเล่มต่อไปไม่ไหวนะคะคิคิ
ฝ่ายบริการสมาชิก The 1 หรือ The1 Call Center
ที่หมายเลข 02-660-1000 ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 22.00 น. เพื่อแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสาร
จะมีผลให้ส่วนลด พลังสะสมหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับจะถูกยกเลิกในทันที และหากท่านกลับมาสมัครใหม่ในภายหลังจะถือเป็นสมาชิกใหม่
ของท่านจะถูกยกเลิกทันที หลังจากท่านกดยืนยัน