6 หนังสือสำหรับคนหงุดหงิดง่าย นอยด์แค่ไหน..เจ้ก็ไม่วีน!

 งานหนัก รักพัง ตังค์ไม่พอใช้ หันไปทางไหนก็มีแต่เรื่องให้หงุดหงิด เพื่อน ๆ นักอ่านน่าจะเคยต้องรับมือสถานการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งที่ว่ามากันใช่มั้ยคะ พอสุดท้ายจัดการอารมณ์ไม่ได้ ก็กลายเป็นว่าอยากจะกรี๊ดและกดปุ่ม skip ให้ช่วงชีวิตแห่งความวุ่นวายมันรีบหายไปสักที แต่ในเมื่อชีวิตจริงของเราทุกคนไม่มีปุ่มที่ว่า สิ่งที่เราทำได้คือการทำความเข้าใจ รับมือ และเรียนรู้อะไรบางอย่างจากมัน เพื่อเป็นบทเรียนให้ตัวเองก้าวไปข้างหน้า พร้อมใช้ชีวิตในวันใหม่ต่อไป

หนังสือที่เราจะมาป้ายยาในบทความนี้ เลยเป็นหนังสือช่วยจัดการอารมณ์ถึง 6 เล่มด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละเล่มจะมีสไตล์การเขียนที่ต่างกัน แต่หลักใหญ่ใจความของหนังสือทุกเล่มคือ การช่วยให้ผู้อ่านรับมือ รู้ทัน และเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจ เพื่อไม่ให้ความรู้สึกหรือความคิดลบมาทำลายความสุขของผู้อ่านนั่นเอง ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะมีเล่มไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่า

1.หนังสือของคนอารมณ์เสีย The Bad Mood Book 

ส่วนใหญ่แล้วหนังสือที่ว่าด้วยการจัดการอารมณ์มักจะบอกให้เราทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส ยิ้มเยอะ ๆ ยิ้มกว้าง ๆ กันใช่มั้ยคะ แต่หนังสือเล่มนี้จะต่างไปตรงที่เค้าจะไม่บอกให้เราฝืนความรู้สึก แต่จะพาไปดูว่าลึก ๆ แล้ว ตอนที่เรามีอารมณ์โกรธนั้นมันเกิดมาจากอะไรกันแน่ เพราะจริง ๆ แล้ว คงไม่มีใครอยู่ดี ๆ ก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟโดยหาที่มาที่ไปไม่ได้ แต่อาจจะเกิดจากการที่มีอะไรมากระทบ ซึ่งมันเป็นอะไรที่กระตุ้นอารมณ์โกรธของเรานั่นเองค่ะ นอกจากจะพาเราไปสำรวจอารมณ์แล้ว สิ่งนึงที่ชอบมากของหนังสือเล่มนี้คือ ภาษาที่บอกเล่าอย่างกันเอง อ่านง่าย ดูกวน ๆ ชวนขำ ถ้อยคำและใจความสำคัญของเนื้อหาที่จะสื่อสารให้คนอ่านก็ชัดเจน ไม่วกวน เป็นหนังสือที่อ่านง่ายได้ประโยชน์อีกเล่ม สมกับคำเคลมว่า “เป็นหนังสือของคนอารมณ์เสีย” เลยค่ะ

2.ฝึกใจได้ เป็นนายอารมณ์ 

ถ้าทุกคนเคยสงสัยว่า ทำไมอารมณ์ที่มันอยู่ในใจ ทำไมเราถึงควบคุมมันไม่ได้ทั้ง ๆ ที่มันก็เกิดขึ้นภายในใจของเราแท้ ๆ หนังสือเล่มนี้มีคำตอบค่ะ เพราะเค้าจะพาเราไปวิเคราะห์สิ่งที่เรียกว่า “สูตรอารมณ์” เพื่อเข้าใจไปถึงกลไกของการเกิดอารมณ์ในเชิงลบของเรานั่นเอง หนังสือเล่มนี้ยังมาพร้อมแบบฝึกหัดการจัดการอารมร์ที่ทำได้ง่าย ๆ แบบไม่ว่าใครก็ทำได้ เช่น การจดบันทึก เทคนิคการปล่อยวาง รวมไปถึงเคล็ดลับที่ทำให้นอนหลับได้ดีในวันที่อารมณ์ไม่ stable  มาให้เราได้ฝึกลงสนามจริงระหว่างที่อ่าน เรียกได้ว่าเป็นคู่มือปฏิบัติฉบับเข้าใจง่าย วัยรุ่นอ่านได้ผู้ใหญ่อ่านดี

3.การควบคุมอารมณ์ ไม่จำเป็นต้องอดกลั้น 

หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่กำลังบอกกับเราว่า อย่าปล่อยให้ "อารมณ์" ทำลายชีวิตคุณ เพราะทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้นนั้นล้วนมีประโยชน์ต่อตัวเราทั้งสิ้น อารมณ์ต่าง ๆ เกิดจากระบบการรับรู้ของร่างกายที่กำลังคัดครองเมื่อมีอะไรบางอย่างมากระทบใจของเรา เนื้อหาในหนังสือเลยจะเป็นการสื่อให้เห็นว่าเรานั้นสามารถเป็นเพื่อนกับอารมณ์ของตัวเองได้ทุกอารมณ์ แค่เพียงเรารับรู้ เข้าใจ ฝึกควบคุมมันให้เป็นนิสัย ก็จะทำให้เราสามารถพัฒนาตัวเองเป็นคนที่เข้าใจตัวเองและอารมณ์ของเราได้อย่างดีขึ้นค่ะ ส่วนตัวเรามองว่าหนังสือเล่มนี้มีวิธีและหลักการคล้าย ๆ กับธรรมะสอนใจของศาสนาพุทธ ซึ่งเราประทับใจมาก ลำพังหนังสือเกี่ยวกับศาสนาส่วนมากค่อนข้างอ่านยาก แต่พอผ่านการย่อยข้อมูลและนำเสนอในรูปแบบของหนังสือพัฒนาตนเอง มันทำให้เรารู้สึกเข้าใจคำสอนของพระพุทธศาสนาได้ง่ายขึ้นมาก ๆ เลย

4.เท่าทันอารมณ์ก็เข้าใจตนเอง 

เชื่อว่าหลายคน ๆ น่าจะเคยจมอยู่กับความผิดพลาดของตัวเองกันใช่มั้ยคะ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกทำไม่ได้ เก่งไม่พอ ไปต่อไม่ไหว จนมันก่อเกิดเป็นก้อนอารมณ์ลบในใจ ยิ่งปล่อยเอาไว้ยิ่งหาทางทำลายมันยากขึ้นทุกที หนังสือเล่มนี้ อาจจะเป็นเล่มที่เพื่อนๆ กำลังตามหา ถ้าคิดว่าอยากก้าวออกจากกับดักความคิดลบ โดยเค้าจะพาเราไปทำความเข้าใจ “ความคล่องแคล่วทางอารมณ์” ซึ่งก็คือการเข้าใจ รู้เท่าทันความคิดลบที่อยู่ในหัวของเรานั่นเอง เมื่อเราสามารถฝึกได้จนชำนาญแล้ว สิ่งนี้จะช่วยให้เราเข้าใจทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างที่มันเป็น ไม่ใช่ อย่างที่เราฉาบมันด้วยความคิดลบจนก่อเกิดความกลัว และตามมาด้วยความเครียดในที่สุด เป็นหนังสือหมวดพัฒนาตัวเองอีกเล่มที่ขายดีจนมีออกมาถึงสองปกด้วยกัน และมีรีวิวการันตีจากนักอ่านมากมายทีเดียว

5.EMOTIONS 101 

หนังสือ how-to รับมือกับอารมณ์ที่เราแนะนำให้คนรอบตัวอ่านมากที่สุด และวันนี้ก็ขอหยิบมาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับเพื่อน ๆ ด้วย เหตุผลเพราะว่านอกจากหลัก ๆ เนื้อหาจะอ่านง่าย นำไปใช้ได้จริง เราชอบที่หนังสือเค้าจะพาเราไปทำความเข้าใจตั้งแต่เริ่มว่า ทำไมเราถึงเป็นคนแบบนี้ อารมณ์แบบนี้มันเกิดจากอะไรในวัยเด็กหรือในอดีตของเรา พร้อมกับแบบฝึกหัดที่ช่วยเกลาใจไปด้วยระหว่างที่อ่าน เหมาะมากสำหรับมือใหม่อยากอ่านหนังสือแนวพัฒนาตัวเอง นอกจากนี้ คุณนักเขียนยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ทำให้สอดแทรกเนื้อหาด้านจิตวิทยาและตัวอย่างเรื่องราวต่างๆ ผ่านประสบการณ์กว่า 10 ปี โดยเน้นเรื่องจิตใจเป็นหลักนั่นเอง

6.รับมืออารมณ์ได้ ใจก็สบายขึ้นเยอะ 

หลาย ๆ คนอาจจะเคยเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่ว่าเรายังไหว แต่การก้าวต่อไปมันก็ยากเหลือเกินกันใช่มััั้ยคะ นอกจากจะมูฟออนไม่ได้ อารมณ์ก็ยังขุ่นมัวเหมือนหมอกในหน้าหนาว ไม่สดใส มองทิวทัศน์ในอนาคตไม่ชัดเอาซะเลย ถ้าอยากจัดการกับสิ่งนี้ นี่เป็นหนังสืออีกเล่มที่เราอยากป้ายยาค่ะ เพราะเค้าจะพาเราไปฝึกสังเกตอารมณ์เบื้องต้นเพื่อให้เราสามารถทำความเข้าใจกับอารมณ์ที่ซับซ้อนและหลากหลายของเรา จนสามารถรับมือกับมันได้ด้วยความเข้าใจ นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาที่จะช่วยส่งเสริมความสามารถในการเผชิญหน้ากับปัญหาทางจิตใจ เพิ่มความเคารพและการยอมรับในตนเองเหมือนเปลี่ยนเป็นคนใหม่กันเลยทีเดียว

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนน่าจะโดนป้ายยากันไปคนละหลาย ๆ เล่ม เพราะแต่ละเล่มบอกเลยว่า มีดีไม่แพ้กัน ก่อนจบบทความ เราขอฝากกำลังใจถึงเพื่อน ๆ นักอ่านที่กำลังอ่านบทความนี้ ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะกำลังโทษตัวเอง โทษชีวิต หรือโทษอะไรก็ตามที่ทำให้รู้สึกไม่ดี สุดท้ายแล้วทุกอย่างมันจะผ่านไปค่ะ ไม่มีอะไรอยู่ตลอดไป โดยเฉพาะอารมณ์ของเราเนี่ย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วหายไปได้แทบจะง่ายที่สุด เพียงเราเข้าใจและรับมือกับมันอย่างอ่อนโยน เราก็จะสามารถจัดการความรู้สึกตัวเองได้ง่ายขึ้น ทิ้งความรู้สึกลบได้ง่ายและไวขึ้น เพราะในวันข้างหน้ายังมีสิ่งดี ๆ รอให้เราไปเจออีกมากมาย อย่าปล่อยให้อารมณ์ร้าย ๆ ฉุดเราไว้ไม่ให้พบความสุขเลยนะคะ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้า รักษาสุขภาพกันด้วยน้า