ช่วงต้นปีแบบนี้ หนึ่งในงานที่ชาว B2S Club และเหล่าหนอนหนังสือชะเง้อคอรอคอยก็คืองานสัปดาห์หนังสือ ซึ่งตามปกติจะจัดราว ๆ 12 วัน แต่ปีนี้เขาขยายเพิ่มให้อีกวันเป็น 13 วันไปเลยค่ะ สำหรับงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 53 มาในธีม ย ยักษ์ อ่านใหญ่ ใครที่ได้ไปช็อปกองดองมาเพิ่มกันก็คงจะอิ่มอกอิ่มใจน่าดู เพราะเดือนเมษายนเป็นเดือนที่วันหยุดเยอะ ได้เวลาขนทั้งกองดองเก่าและกองดองใหม่ออกมาแกะเชยชมก็คราวนี้แหละ 5555
แต่สำหรับใครที่พลาดงานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้ก็ไม่ต้องแซดไป เพราะวันนี้ B2S CLUB รวบมาให้แล้ว กับ 10 หนังสือน่าอ่านที่เข้าร่วมโปรฯ Book fair ในราคาน่ารัก และยังร่วมโปรฯ ส่วนลดให้ช็อปกันได้ยาว ๆ ในเดือนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเล่มที่ช่วยเติมพลังใจ เปิดมุมมองใหม่ ๆ หรือช่วยชุบชูใจในวันที่เหนื่อยล้า เชื่อว่าในลิสต์นี้ จะต้องมีสักเล่มที่ตรงกับจังหวะชีวิตของเพื่อน ๆ อย่างแน่นอนค่ะ
หนังสือเล่มนี้ทำให้เรานึกถึงบรรยากาศตอนค่ำ ๆ หลังเลิกงานของมนุษย์เงินเดือน ในสภาพที่ทุกคนห่อเหี่ยว เหนื่อยล้า หมดแรง และต้องการที่พักพิงใจ คงจะดีถ้ามีที่ไหนสักที่ให้ไปนั่งชิลล์ ผ่อนคลายสมองจนลืมเรื่องงานไปชั่วขณะได้ “สแน็กบาร์แห่งนี้มีถ้อยคำดี ๆ มอบให้คุณ” แค่ชื่อหนังสือก็สุดจะฮีลใจ และบอกเลยว่ายิ่งได้อ่านก็เหมือนกับว่าเราได้เจอที่พักพิงใจแบบนั้นจริง ๆ เข้าแล้ว
เล่มนี้เป็นเรื่องราวสุดอบอุ่นหัวใจของ ‘กอนมาม่า’ พี่กะเทยกล้ามโตใจดีซึ่งเป็นเจ้าของร้านสแน็กบาร์แห่งนี้ และชีพร้อมเสิร์ฟค็อกเทลพิเศษกับคำแนะนำอันอบอุ่นให้กับทุกคนที่ก้าวเข้ามาในร้าน เรื่องราวของผู้คนหลากหลายที่แวะเวียนมาต่างก็มีปัญหาและความกังวลใจต่าง ๆ กันไป แต่ด้วยความละมุนละไมของกอนมาม่า ทำให้พวกเขาเหล่านั้นพบคำตอบบางอย่างและได้พลังใจกลับไปใช้ชีวิตกันต่อ เป็นเล่มที่ฟีลกู้ดและตัวละครมีคาแรกเตอร์สดใหม่ดีมากค่ะ ใครที่ตอนนี้มีแผลใจอยู่ ทั้งที่แห้งแล้ว ที่ยังอักเสบ และที่ยังเป็นแผลสดใหม่ ต้องลองไปชิมค็อกเทลสักแก้วที่ร้านของกอนมาม่านะคะ
จากจิบค็อกเทลเบา ๆ เมนูอิ่มท้องก็มารอเสิร์ฟต่อเลยกับ “จิบิเย่ เมนูลับฉบับรสชาติชีวิต” ใครที่ชอบทำอาหารหรือชอบดูรายการทำอาหารก็น่าจะถูกอกถูกใจเล่มนี้แน่นอน แล้วยิ่งถ้าเคยอ่านผลงานรสชาติอมเปรี้ยวอมหวานของ ฟูมิเอะ คนโด ก็น่าจะชอบเล่มนี้ด้วยเป็นพิเศษ
เล่มนี้เป็นเรื่องราวของ ชิโอตะ เรียวจิ เชฟหนุ่มที่ฝันอยากทำให้อาหารจิบิเย่ (อาหารที่ใช้เนื้อสัตว์ป่า) เป็นที่รู้จักและยอมรับในวงกว้าง แต่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเชฟที่มีฝีมือ ความมั่นใจกลับลดลงเรื่อย ๆ เลยตัดสินใจจะออกล่าวัตถุดิบด้วยตัวเอง และได้พบกับพรานหนุ่มผู้เชี่ยวชาญการล่า การเดินทางออกตามหาวัตถุดิบสดใหม่จึงเริ่มต้นขึ้น ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงแต่ได้วัตถุดิบกลับมา แต่ยังได้เรียนรู้มุมมองใหม่ ๆ ต่อชีวิตและคุณค่าของสรรพสิ่งในธรรมชาติ นอกจากในเล่มจะทำให้เราได้เจอเมนูอาหารที่อาจไม่เคยรู้จักมาก่อน ยังทำให้เราได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับจริยธรรมการล่าสัตว์ การเคารพและอยู่ร่วมกับธรรมชาติ รวมไปถึงการปรุงสิ่งธรรมดาที่เรามีให้ออกมามีความหมายได้อย่างงดงาม
เคยรู้สึกไหมคะว่าการอยู่ร่วมกับใครบางคนในชีวิตนั้นช่างยากเย็นเหลือเกิน เหมือนคนเหล่านี้มีหนามแหลมคอยทิ่มแทงเราอยู่ตลอดเวลา ขณเดียวกัน เราเองก็ไม่อาจหลีกหนีคนเหล่านี้ไปได้ หนังสือ “อย่ากลัวที่จะกอดเม่นตัวนั้น: วิธีรักคนยาก ๆ ที่เราต้องมีในชีวิต” จึงเป็นเหมือนคู่มือที่จะช่วยให้เราได้เรียนรู้วิธีที่จะอยู่ร่วมกับบรรดามนุษย์เม่นได้อย่างเป็นสุข
โดยในเล่มจะอธิบายถึงพฤติกรรมของมนุษย์เม่นให้เราเห็นภาพมากขึ้นว่าบางครั้งที่บางคนเสียงดังใส่ บางคนเจ้าอารมณ์ บางคนเงียบขรึม และบางคนก็กวนประสาท สิ่งเหล่านี้มักเกิดจากความกลัวหรือการป้องกันตัวเอง รวมทั้งสอนทริกในการยอมรับความเป็นเม่น ทั้งในตัวเองและผู้อื่นโดยไม่ตัดสิน เป็นอีกเล่มที่ดูน่ารักแต่กล่อมเกลาความเห็นอกเห็นใจได้อย่างจริงจัง นอกจากจะทำให้เราได้ฝึกความอดทนและเพิ่มความเห็นอกเห็นใจ ยังได้เรียนรู้เรื่องการยอมรับทั้งตัวเราเองและคนอื่น ซึ่งทำให้ใจเบามากขึ้น ตัดสินน้อยลง และชีวิตมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมเห็น ๆ เลย เรากล้ากอดเม่นแต่ละตัวได้โดยไม่ต้องฝืนใจตัวเองอีกต่อไป
เขาว่ากันว่าความเงียบนั้นน่ากลัวที่สุด และหลายครั้ง ความเงียบ ก็เสียงดังกว่าคำพูดซะอีก แต่ในอีกมุม ความเงียบก็กลายเป็นอาวุธทิ่มแทงตัวเราเองได้เหมือนกัน เชื่อมาก ๆ ว่าทุกคนต้องเคยเจอสถานการณ์ที่อยากพูดอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง แต่อีกใจก็กลัวว่าถ้าพูดอะไรไปจะเกิดผลแย่ตามมา ผลเลยลงเอยด้วยความเงียบ ซึ่งมันอาจส่งผลร้ายต่อตัวเองมากกว่าการพูดออกไปด้วยซ้ำ
“วิชาเลิกเงียบ” ไม่ใช่หนังสือที่สอนให้พูดเก่งขึ้นนะคะ แต่มันคือหนังสือพัฒนาตนเองที่จะพาเราไปเรียนรู้ศิลปะของการพูดและการเงียบ เพื่อ Set boundaries และสร้างความเคารพทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น โดยเนื้อหาในเล่มจะช่วยให้เราเข้าใจว่าเมื่อไหร่ควรจะเงียบ เมื่อไหร่ควรจะพูด และถ้าต้องพูด ควรจะพูดอะไรออกไป บอกเลยว่าอ่านแล้วจะทำให้เรากล้าสื่อสารอะไรในใจได้อย่างตรงไปตรงมามากขึ้น และเรียนรู้ว่าการเงียบหรือการพูดในจังหวะที่เหมาะนั้น มันคือการให้เกียรติตัวเองและผู้อื่นไปพร้อม ๆ กัน
เดี๋ยวนี้เราเริ่มตระหนักกันถึงเรื่องการเงินการลงทุนมากขึ้น และเด็กวัยรุ่นก็เริ่มหันมาสนใจเรื่องนี้กันมากขึ้น แต่สำหรับเด็กเล็กที่ยังไม่ถึงวัยต้องจับจ่าย จะเริ่มเรียนรู้จากที่ไหนดี บอกเลยว่าเล่มนี้เหมาะมากค่ะ “เงินค่าขนมก้อนแรกของฉัน” เป็นหนังสือภาพน่ารัก ๆ ที่เล่าเรื่องราวของเด็ก ๆ ที่ได้รับเงินค่าขนมก้อนแรกในชีวิต ซึ่งมันคือโอกาสแรกที่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้วิธีการจัดการเงินของตัวเอง
เนื้อหาในเล่มจะช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจคุณค่าของเงิน การออม และการใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล ผ่านเรื่องราวและภาพประกอบสุดน่ารัก ที่มาพร้อมบทเรียนเรื่องการใช้เงิน จะเก็บ จะใช้ จะให้ หรือจะทำอะไรก็แล้วแต่ นั่นคือจุดเริ่มต้นของความรับผิดชอบเล็ก ๆ ที่มีผลกับความคิดระยะยาว เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการสอนลูกเกี่ยวกับการเงินอย่างง่าย ๆ แต่อ่านแล้วก็ทำให้ได้นึกย้อนไปถึงตอนตัวเองทำงานหาเงินได้ครั้งแรกเหมือนกันนะคะ มันย้อนกลับไปแตะความทรงจำที่ว่า เราเคยรู้สึกดีแค่ไหนกับเงินก้อนแรกในชีวิต
ต้องยอมรับว่าปัญหาสุขภาพจิตคือปัญหาอันดับต้น ๆ ที่ทำให้ชีวิตเราอาจไปไหนต่อไม่ได้เลย และบางครั้งมันไม่ใช่แค่หยุดชะงักชั่วคราว แต่มันลุกลามไปใหญ่โตราวกับไฟลามทุ่งจนท้ายที่สุดก็ไม่เหลือแม้เถ้าถ่านเศษซาก “13 สิ่งที่คนจิตใจเข้มแข็งไม่ทำกัน” คือโพยข้อสอบที่จะช่วยติวเข้มให้เราสร้างภูมิคุ้มกันให้แกร่งขึ้นได้ในโลกที่พร้อมจะทำให้ใจเราพังทลายตลอดเวลา
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย เอมี โมริน นักจิตบำบัดที่ได้รวบรวม 13 พฤติกรรมที่คนที่มีจิตใจเข้มแข็งจะไม่ทำ โดยเนื้อหาจะพูดถึงพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น ไม่เสียเวลามาสงสารตัวเอง ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง ไม่ยึดติดอยู่กับอดีต ฯลฯ ซึ่งจะบอกว่าใจความสำคัญของเล่ม เขาไม่ได้ต้องการให้เราต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นคนมั่น เฟียซ หรือต้องทำว่าเข้มแข็ง ไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เขาต้องการเตือนใจให้เรา “ไม่ทำบางสิ่ง” ที่บั่นทอนจิตใจโดยไม่รู้ตัว เช่น การโทษโชคชะตา การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น หรือการจมอยู่กับอดีตซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฟีลเหมือนมีคนมาตบไหล่เบา ๆ แล้วบอกว่า รู้สึกเหนื่อยได้นะ แต่ต้องไม่ทำร้ายตัวเองด้วยความคิดลบซ้ำ ๆ
และถ้าเคยคิดว่าการเป็นคนเข้มแข็งคือการไม่ร้องไห้ ไม่อ่อนแอ หรือไม่ยอมแพ้ เล่มนี้จะค่อย ๆ เปลี่ยนความคิดนั้นค่ะ
จากกระแสนักเขียนรางวัลโนเบลแดนกิมจิ ในที่สุดเล่มนี้ก็มีฉบับแปลไทยแล้วค่ะ! “เดอะเวเจอเทเรียน” เป็นผลงานของ Han Kang นักเขียนชาวเกาหลีใต้ที่ได้รับรางวัล Man Booker International Prize ในปี 2016 และล่าสุด คว้ารางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในปีที่ผ่านมา เป็นเล่มที่พีกมาก ๆ และเชียร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
เล่มนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับยองฮเย หญิงสาวที่วันหนึ่งตัดสินใจเลิกกินเนื้อสัตว์อย่างกะทันหันหลังจากฝันร้ายเกี่ยวกับการฆ่าสัตว์ และการตัดสินใจเลิกกินเนื้อสัตว์ครั้งนี้ นำไปสู่ความหนักอึ้งอันยากจะเผชิญสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียด ความขัดแย้งในครอบครัว และการกดขี่ทางเพศที่ค่อย ๆ บีบให้เธอแยกตัวออกจากสังคมจนกลายเป็นความรู้สึกแปลกแยก เดียวดาย และแหลกสลาย เป็นเล่มที่ดาร์กมา สะท้อนให้เห็นถึงกรอบสังคมชายเป็นใหญ่ที่กดขี่ผู้หญิงแบบสุด ๆ ไปเลยค่ะ
เห็นชื่อ เห็นปกเล่มนี้จากสำนักพิมพ์แซลมอน ก็โดนตกไปเรียบร้อยกับ “โรแมนติกกับผี” ใครที่เป็นสายรอมคอมอยู่แล้วด้วยยิ่งห้ามพลาดเลยค่ะ พล็อตเขาน่ารักน่าหยิกดีมาก แถมการันตีด้วยนักเขียนที่มีผลงานติดอันดับขายดีจาก The New York Times และ USA Today
ว่าด้วยเรื่องราวของฟลอเรนซ์ เดย์ นักเขียนผีหรือ Ghost writer ที่อยู่เบื้องหลังนิยายรักขายดีมาตลอด แต่ชีวิตของเธอกลับไม่โรแมนติกเอาเสียเลย เพราะเพิ่งผ่านการเลิกราครั้งใหญ่จนทำให้หมดศรัทธาในความรัก สมองก็ตีบตัน เขียนนิยายรัก ๆ ไม่ได้อีก เลยต้องกลั้นใจไปขอเลื่อนเดดไลน์กับบรรณาธิการหล่อเนี้ยบ แต่กลับโดนปฏิเสธหน้าตาเฉย แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ขณะที่งานไม่คืบหน้า เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากทางบ้านให้กลับไปงานศพพ่อตัวเอง แค่นี้ก็วายป่วงแล้วใช่ไหมคะ เติมความโรแมนติกแบบยิ้มแห้งเข้าไปอีก เมื่อเธอได้พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูบ้าน ยังคงหล่อเนี้ยบ สูงใหญ่ และไหล่กว้างเช่นเคย เพียงแต่ครั้งนี้เขาเป็นวิญญาณเนี่ยสิ 555 ขำอะ แค่หนังสือยังชวนลุ้นขนาดนี้ ถ้าทำเป็นหนังคงสนุกน่าดูเลย สายรอมคอมต้องจัดเล่มนี้แล้วแหละ ห้ามพลาด
เกือบท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ขอพามาส่องเล่มขายดีติดอันดับตลอด ๆ ในบ้านเรา กับ “Manifest 7 ขั้นตอนสู่ทุกสิ่งที่ปรารถนา” เล่มที่ทำให้หลายคนหันมาสนใจเรื่องการปรับพลังงานตัวเอง และฝึกการแมนิเฟสต์กันมากขึ้น เพราะอยากดึงดูดความสำเร็จและได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการจริง ๆ
เล่มนี้จะพาเราไปรู้จักกับแนวคิดจิตดลบันดาล หรือ Manifestation ที่สายเยียวยา สายพลังงานน่าจะคุ้น ๆ กัน ซึ่งมันคือการใช้พลังความคิดและการกระทำเพื่อดึงดูดสิ่งที่ต้องการเข้ามาสู่ชีวิตเราค่ะ หลัก ๆ เขาจะแบ่งเนื้อหาเป็น 7 ขั้นตอนตามชื่อหนังสือเลย ไม่ว่าจะเป็น
เราว่าเล่มนี้ไม่ใช่เล่มที่ขายฝันหรือหลอกให้เราเชื่อแบบเพ้อ ๆ ว่าชีวิตเราจะดีขึ้นแน่นอน แต่มันตั้งอยู่บนหลักคิดที่ว่า การได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ มันก็มาจาก ความชัดเจน ความตั้งใจ และการลงมือทำจริง อ่านแล้วรู้สึกได้แรงผลักเล็ก ๆ ว่า เออ ชีวิตมันก็เริ่มที่เราต้องเชื่อว่าเราคู่ควรก่อนนั่นแหละ และเราว่าบทที่พูดถึงการเปลี่ยนความอิจฉาเป็นแรงบันดาลใจ มันเหมาะกับยุคปัจจุบันแบบมาก ๆ เพราะเราเสพความสำเร็จจากโลกออนไลน์กันทุกวัน อ่านแล้วก็ช่วยรีเซ็ตความคิดและข้างในใจเราให้แข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ
มาถึงเล่มสุดท้ายที่เราว่าเป็นเล่มในหมวดจิตวิทยาความรักที่ทุกคนควรจะได้อ่านมาก ๆ เล่มนึง เพราะเหมาะกับยุคปัจจุบันที่เราต่างนิยามชื่อเรียกความสัมพันธ์ต่าง ๆ ไว้หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ และหลายคนก็ดูจะสนใจคำว่าโซลเมตกันไม่น้อยเลย
“จิตวิทยาความรัก (ไม่) ใคร่” จะพาเราไปสำรวจความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้นของคำว่าโซลเมต ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่คนรักในเชิงชู้สาวเท่านั้น โดยในเล่มได้พูดถึงความรักแบบ "Platonic Love" ซึ่งเป็นความรักที่บริสุทธิ์ ปราศจากความสัมพันธ์ทางเพศ และสามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างเพื่อน ครอบครัว หรือแม้แต่คนแปลกหน้าด้วยซ้ำ เป็นเล่มที่ช่วยให้เราเข้าใจว่าความรักไม่จำเป็นต้องมีความใคร่มาเกี่ยวข้องเสมอไป ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับสถานะด้วย แต่มันเป็นความรู้สึกลึก ๆ ที่เราเชื่อมถึงใครบางคนได้ในระดับจิตใจ และการมีโซลเมตในรูปแบบของเพื่อน ก็เติมเต็มชีวิตเราได้มากมายมหาศาลเหมือนกัน
อ่านแล้วทำให้เราเข้าใจมิติของความสัมพันธ์อันหลากหลาย ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความรักโรแมนติก แต่รวมไปถึงความรักและความเข้าใจในรูปแบบอื่น ๆ ที่ทำให้ชีวิตมีความหมายมากขึ้น และท่ามกลางความสัมพันธ์ในโลกจริงอันซับซ้อนสับสน คนที่เรารู้สึกว่าเขาคือโซลเมต อาจเป็นเพื่อนร่วมงาน พี่น้อง หรือคนแปลกหน้าที่แค่เดินผ่านมาก็ได้
10 หนังสือร่วมโปรฯ Bookfair ที่เราเลือกมาแนะนำกันวันนี้ หวังว่าจะช่วยชุบชูหัวใจทุกคนได้ไม่มากก็น้อยนะคะ แต่ละเล่มมีทั้งเรื่องราวสดใหม่ อบอุ่น ชุ่มชื่นหัวใจ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอข้างในได้ดีเลย ใครอยากอ่านต้องรีบไปจัดมาแล้วค่ะเพราะยังมีโปรโมชันราคาน่ารัก ๆ ให้เลือกช้อปกันได้ยาว ๆ ถ้าไม่ได้ไปงานหนังสือ แล้วอยากได้หนังสือไว้อ่านสักเล่ม หรือไปมาแล้วแต่ก็ยังอยากได้กองดองเพิ่มอีก เชื่อเถอะว่า หนังสือในลิสต์นี้เป็นคำตอบนั้นให้เพื่อน ๆ แล้ว!