สวัสดีนักอ่านชาวคลับทุกคนนนน ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่หน้าร้อนอย่างเป็นทางการ ร้อนๆ ฮอตๆ แบบนี้ B2S CLUB ก็จะขอมาป้ายยาวรรณกรรมที่มีเซ็ตติ้งในหน้าร้อนให้เข้ากับบรรยากาศกันค่ะ พูดถึง theme หน้าร้อนหรือช่วง summer เพื่อน ๆ คิดถึงอะไรกันบ้างคะ ส่วนตัวพอหน้าร้อนปุ๊บ เราจะคิดถึงทะเลทันทีค่ะ ลองนึกภาพถึงช่วงเวลาที่แดดร่มลมตก สายลมอุ่น ๆ พัดเอากลิ่นเค็มของน้ำทะเลต้องจมูก ปูเสื่อบนหาดทรายและนอนอ่านหนังสือเล่มบาง ๆ สักเล่ม ฮืออ พูดแล้วอยากหยิบกุญแจสตาร์ตรถไปทะเลทันทีเลย พาออกทะเลไปไกลแล้ว กลับมาเที่ยวทะเลหน้าร้อนกันในหนังสือของเราทั้ง 6 เล่ม กันดีกว่า มีมาป้ายยาครบไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรมเยาวชน, ดราม่าสะท้อนสังคม, นิยาย coming of age, นิยายรัก รวมไปถึงนิยายที่มีกลิ่นอายความแฟนตาซีเหนือจริง และที่ขาดไม่คือสืบสวนสอบสวนอีกด้วย บอกว่าสนุกครบรสแน่นอน ถ้าพร้อมรับลมร้อน เอ้ย อ่านรีวิวกันแล้ว ตามมาดูกันได้เลยค่า
วรรณกรรมเรื่องราวเข้มข้นสะท้อนสังคม ของผู้หญิงสามคนที่เป็นครอบครัวเดียวกัน ระหว่างสองแม่ลูก มากิโกะและมิโดริโก กับนัตสึโกะ น้องสาวแท้ ๆ ของมากิโกะ ในเล่มแบ่งเล่าเป็นสองพาร์ท ซึ่งทั้งสองพาร์ทมีประเด็นหลักร่วมกันคือ สิทธิในร่างกายของตนเองของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นการเสริมหน้าอกของมากิโกะหรือการพยายามหาทางมีลูกให้ได้โดยที่ไม่ต้องมีสามีของนัตสึโกะ แถมคุณนักเขียนยังเล่าประเด็นการถูกกดทับทางสังคมของเหล่าตัวละครหลักอีกด้วย เป็นวรรณกรรมอีกเล่มที่น่าสนใจค่ะ ถึงแม้ว่าเล่มจะหนาแต่รับรองว่าคุ้มค่าที่จะอ่านแน่นอน
หนังสือเล่มนี้ เล่าถึงการมองย้อนไปยังวัยเด็กของชายวัย 43 ปี ถึงช่วงเวลาแห่งวัยเยาว์ของตน หวนนึกถึงการผจญภัยในฤดูร้อนเมื่อครั้งประถมของสามเพื่อนรักที่ไม่มีความโดดเด่นใด ๆ แต่กลับเป็นอัศวินตามหาคนร้ายตัวจริงที่ก่อคดีฆาตกรรมเด็กผู้หญิงในระแวกบ้าน เรื่องราวที่ทำให้เห็นถึงความกล้าหาญที่ยังคงซ่อนอยู่ในที่ใดที่หนึ่งในตัวชายวัยกลางคน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ มาก่อน ส่วนตัวเราว่าเรื่องนี้ มีครบทั้งความน่ารักน่าเอ็นดูและให้ความรู้สึกนึกถึงความสุขในอดีต (nostalgia) อย่างจัดเต็มมาก เป็นวรรณกรรม coming of age ที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองอ่านกัน
ในเดือนเมษายน “ฟูจิชิโระ” จิตแพทย์หนุ่มได้รับจดหมายจากผู้หญิงในอดีตที่เขาควรจะลืม ในขณะเดียวกันเขากับ “ยาโยอิ” แฟนสาวที่เป็นสัตวแพทย์ก็มีแผนจะแต่งงานกันในปีนี้ แต่เค้ากลับไม่รู้สึกยินดียินร้าย และไม่อาจบอกได้ว่ายังรักหรือมีความสุขในการใช้ชีวิตร่วมกับเธออยู่หรือไม่ จนยาโยอิมาหายตัวไป ทำให้ฟูจิชิโระต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง ระหว่างการประคับประคองรักษาความสัมพันธ์ใหม่กับยาโยอิ หรือกลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตกับฮารุ สำหรับใครที่ไม่ชอบนิยายรักที่มีความ Slow Burn อาจจะไม่ถูกใจเล่มนี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครชอบความดราม่า การตามหาหัวใจแล้วล่ะก็ เล่มนี้เป็นเล่มที่อยากแนะนำค่ะ
จอห์น ชายหนุ่มผู้ได้พบกับคาเฟ่ที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาลโดยไม่คาดฝัน หลังจากนั้นเวลาผ่านมาหลายปี ขณะที่เขากำลังขี่จักรยานชมวิวไปรอบเกาะฮาวาย คาเฟ่เล็กๆ แห่งเดิมก็โผล่ขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง พร้อมกับไมค์ เจ้าของคาเฟ่ลึกลับ เคซีย์พนักงานเสิร์ฟผู้ไม่แก่ไปตามเวลาที่จะพาจอห์นไปร่วมค้นหาความหมายของการมีชีวิตอีกครั้ง สำหรับเล่มนี้เป็นภาคต่อจาก The Why Cafe' ที่เราชอบมากกว่าเล่มแรกซะอีกค่ะ เพราะเค้ามีเซ็ตติ้งที่ทะเลฮาวาย อีกทั้งยังรู้สึกว่า mood ในเรื่องมันมีความสดใสกว่าเล่มแรกมาก อ่านไปเหมือนได้ไปอยู่ที่ทะเลจริง ๆ เลย ในขณะเดียวกันสิ่งที่สื่ออกมายังผู้อ่านก็ยังคงลึกซึ้ง กินใจ ชวนเรากลับมาตั้งคำถามถึงความหมายของชีวิต แต่ขอกระซิบว่าถ้าใครไม่เคยอ่านเล่มแรกแนะนำว่าควรอ่านก่อนค่ะ เพราะว่าในเล่มที่สองนี้ จะมีการพูดถึงเหตุการณ์จากเล่มแรกอยู่บ้าง เดี๋ยวจะขาดอรรถรสไปนั่นเอง
ข่าวการพบโครงกระดูกเด็กในโรงเรียนประจำ ปลุกความทรงจำของ โนริโกะ ทนายความสาว เมื่อครั้งในสมัยประถม เธอเคยไปเข้าค่ายฤดูร้อน ในทุก ๆ ปี และได้เจอเด็กหญิงคนหนึ่งจนกลายเป็นเพื่อนซี้กัน แต่ฤดูร้อนปีสุดท้าย อีกฝ่ายกลับหายตัวไป คำสัญญาในวันวานว่า “เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป” ยังคงดังก้องอยู่ในหู โนริโกะหวนนึกกลับไปในฤดูร้อนนั้นอีกครั้ง โครงกระดูกนั้นใช่เพื่อนของเธอหรือเปล่า? คำตอบรอเธออยู่ที่นั่น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทั้งมิตรภาพและความตายที่เธอไม่เคยคาดคิด ในเล่มจะเปิดเรื่องมาแบบให้คนอ่านชวนสงสัยว่าโรงเรียนนี้มันมีอะไรกันนะ จากนั้นก็จะค่อย ๆ เผยเรื่องราวปะติดปะต่อทีละนิด คล้าย ๆ กับการต่อจิ๊กซอว์ ใครที่ชอบอ่านแนวสืบสวนสอบสวนต้องชอบแน่นอนค่ะ
วรรณกรรมแปลจากภาษาอิตาลีเล่มนี้ เล่าถึงเรื่องราวความผูกพันธ์ระหว่างเด็กชายโตนีโน่กับตาผ่านต้นเชอร์รี่ ซึ่งเปรียบเหมือนตัวแทนความรักของคุณตานั่นเอง ในเล่มเราจะได้เห็นถึงมุมมองความอบอุ่นและการดูแลผู้อื่น คำสอนและคำพูดที่เต็มไปด้วยความเมตตาจะทำให้คนอ่านแบบเรารู้สึกอบอุ่นใจ เป็นหนังสือเล่มบาง ๆ ที่ทำงานกับอารมณ์อย่างหนักหน่วง เด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดี นอกจากนี้ ยังเปรียบเทียบวิถีชีวิตที่แตกต่างระหว่างคนเมืองและคนชนบท ทั้งในส่วนของการใช้ชีวิตที่ถูกเลี้ยงดูมาในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันทำให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างคนเมืองและคนชนบทอย่างชัดเจนเลยทีเดียวค่ะ และแม้ว่าจะมีหลายฉากที่ทำให้เสียน้ำตา แต่เราขอจัดให้เป็นอีกเล่มที่ชอบมาก ๆ จนอยากให้หนังสือเล่มนี้ถูกค้นพบเยอะ ๆ เลย
ครบทั้ง 6 แล้วสำหรับหนังสือธีม summer ซัมใจที่เลือกมาป้ายยาเพื่อน ๆ กันในบทความนี้ หวังว่าจะถูกใจนักอ่านทุกสายเลยนะคะ ถ้าเพื่อน ๆ มีแพลนจะไปพักผ่อนช่วงหน้าร้อนนี้ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ขอให้เดินทางพร้อมหนังสือคู่ใจอย่างปลอดภัยและสนุกสุดเหวี่ยงไปเลย หรือถ้าใครมีแพลนจะหลบร้อนเปิดแอร์นอนอ่านหนังสือฉ่ำ ๆ อยู่ที่บ้าน ก็ขอให้มีความสุขกับการอ่านกันทุกคนเลยน้า แล้วมาพบกันใหม่บทความหน้า
บ๊ายบายค่า