“เราเป็นอะไรกัน?” คำถามโลกแตกที่ไม่มีคำตอบ แต่ทำไมเจ็บโคตรๆ เพื่อนๆ เคยอยู่ในความสัมพันธ์ที่ ไม่ใช่แฟน แต่ก็ไม่ใช่แค่เพื่อนไหม? คุยกันทุกวัน หวานกันทุกคืน อ้อนกันยิ่งกว่าแฟน แต่พอถามเรื่องสถานะ กลับได้คำตอบสุดคลาสสิก “อย่าเพิ่งรีบเลย” “ขอใช้เวลาดูกันไปก่อนนะ” “เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรอ” อ้าวเห้ย! แล้วที่ผ่านมาเราเป็นอะไรอะ ? เป็นคนคุย ? เป็นเฟื่อน ? หรือเป็นแค่คนแก้เหงาชั่วคราว ? และยิ่งไปกว่านั้น… ทำไมพอเขาหายไป เราถึงเจ็บกว่าอกหักจริงๆ ซะอีก!?
ในยุคนี้ อยู่ๆ ก็มีความสัมพันธ์แปลกๆ มากมาย ดูแล้วก็ยากจะเข้าใจ ความสัมพันธ์อะไรไม่มีชื่อเรียก แต่เจ็บจี๊ดที่สุด! เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคน ต้องเคยตกอยู่ในสถานะใดสถานะหนึ่งที่ไม่อยากได้ กั๊กกันไปกั๊กกันมา สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน วันนี้ B2S CLUB จะพามาดู ทำไมความสัมพันธ์ที่เกือบจะเหมือนแฟน แต่ไม่ใช่ มันถึงได้มีผลต่อใจ ทำเอากินไม่ได้นอนไม่หลับยิ่งกว่าเลิกกับแฟนจริงๆ กันนะ
การเลิกกับแฟนมันเจ็บนะ แต่การเสียคนที่ไม่เคยเป็นแฟน นี่โคตรเจ็บกว่า เพราะเราไม่มีแม้แต่สถานะที่จะเรียกว่าการเลิกรา คือจะไปร้องไห้ฟูมฟายกับเพื่อนก็ไม่ได้เต็มที่ เพราะเพื่อนอาจจะบอกว่า “แต่แกก็ไม่ได้เป็นแฟนเขาปะ?” (เจ็บจี๊ด)
หรือถ้าไปถามเขาตรงๆ ว่า “ตกลงที่ผ่านมาเราคืออะไรกัน?” เขาอาจตอบกลับมาชิลๆ ว่า “เอ้า ก็แค่คุยกันเฉยๆ ไง” แล้วเราล่ะ ? ที่รู้สึกทั้งหมดนี่มันแค่ ‘คุยกันเฉยๆ’ จริงเหรอ?
ทุกสถานะกั๊กเริ่มต้นจากคำว่า “ดูกันไปก่อนไหม ?” แต่ปัญหาคือ… ดูกันไปเรื่อยๆ จนลืมถามว่า เราจะไปไหนกันแน่ ? ตอนแรกเราคิดว่า “ไม่เป็นไร ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปก็ได้” แต่พอเวลาผ่านไป… เฮ้ย! มันผ่านมาเป็นปีแล้ว! แล้วมันก็ยังเป็นแค่สถานะกั๊กเหมือนเดิม วันหนึ่งที่เขาเดินออกไปจากชีวิตแล้วถึงได้รู้ว่า… เอ้า! นี่เราวิ่งอยู่คนเดียวเหรอ!?
ใครเคยเป็นแบบนี้บ้าง ? วันไหนเขาตอบแชทไว เราดีใจเหมือนได้รางวัลที่หนึ่ง วันไหนเขาหายไปเฉยๆ หัวใจเรากระวนกระวายเหมือนเล่นหวยแล้วลุ้นเลขท้าย นี่แหละคือกับดักของสถานะกั๊ก เพราะในทางจิตวิทยา มันมีทฤษฎีที่บอกว่า “สิ่งที่ไม่แน่นอนทำให้เราติดใจมากกว่าสิ่งที่ชัดเจน” เหมือนเล่นเกมเสี่ยงโชค ยิ่งไม่รู้ผล ยิ่งอยากเล่นต่อ
สุดท้าย เราก็กลายเป็นคนติดเกมที่ชื่อว่า ‘เขาจะชัดเจนกับเราวันไหน’ ทั้งที่บางที… มันอาจไม่มีวันนั้นเลย
จะเสียใจก็ยังรู้สึกผิด เพราะลึกๆ แล้ว เรารู้ว่า “ก็เขาไม่ได้เป็นแฟนเรานี่” จะไปโวยวายว่า “ทำไมเธอทิ้งเรา?” ก็ไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายอาจจะตอบกลับมาว่า “แต่เราก็ไม่เคยเป็นอะไรกันนี่?” โอ้โห… ตายค่ะ! อันนี้เจ็บจริง เจ็บแบบไม่มีแม้แต่สิทธิ์จะเรียกร้องอะไรด้วยซ้ำ
ถ้าเพื่อนๆ รู้ตัวว่ากำลังติดอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ และไม่อยากเสียเวลาชีวิตไปเรื่อยๆ ลองทำตามนี้ดู!
ถ้าเขาไม่ชัดเจนตั้งแต่แรก อย่าหวังว่าเขาจะชัดเจนในอนาคต คนที่จริงจังกับเรา จะไม่ทำให้เราต้องมานั่งเดาว่า “เราเป็นอะไรกัน?”
เราเจอ “เม่น” ทุกวัน ทั้งที่ทำงาน ที่บ้าน หรือแม้แต่ตัวเราที่ก็อาจจะเป็นเม่นเอง หนังสือเล่มนี้สอนให้เข้าใจ อยู่ร่วมและไม่เจ็บตัวจากหนามของกันและกัน แค่ยอมรับเม่นทั้งในตัวเองและคนอื่น หยุดตอบโต้โดยไม่จำเป็น และปล่อยวางความคาดหวังและอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ เพราะชีวิตสั้นเกินกว่าจะมัวแต่ปะทะ หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เข้าใจทั้งตัวเองและคนอื่น จนมองทุกอย่างแบบไม่เอาใจไปผูกติด ช่วยให้ชีวิตผ่อนคลายขึ้นจริงๆ
เคยสงสัยไหมว่า “ผู้หญิงกับผู้ชายจะเป็นเพื่อนกันได้จริงหรือ?” หรือ “ต้องมีใครคิดเกินกว่าเพื่อนแน่ๆ” หนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนมุมมองของทุกคนใหม่ เพราะ “โซลเมต” ไม่ได้มีแค่แบบคนรัก แต่ยังมาในรูปแบบของเพื่อนแท้—มิตรภาพที่ลึกซึ้ง เข้าใจกัน และอยู่ด้วยแล้วเป็นตัวเองได้อย่างสบายใจ มาพักจิต หาความสบายใจได้จากหนังสือเล่มนี้เลย
เว็กซ์ คิง พาเราสำรวจความสัมพันธ์ในทุกมิติ—ทั้งกับตัวเองและคนรอบข้าง หนังสือเล่มนี้สอนว่า รักที่ดีเริ่มจากการรักตัวเอง รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด เมื่อเรามั่นใจและมีเสน่ห์จากภายใน เราจะดึงดูดความรักที่แท้จริง เลือกคนที่เหมาะกับเรา และสร้างความสัมพันธ์ที่สมดุล เมื่อรักตัวเองได้อย่างเต็มที่ เราก็พร้อมจะให้และรับความรักอย่างแท้จริงได้
ทุกความสัมพันธ์ต้องเจอกับความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน อยู่ที่ว่าเราจะหาทางออก หรือปล่อยให้มันกลายเป็นปัญหา หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เข้าใจความรักมากขึ้น และตอบคำถามสำคัญ เช่น ความรักที่ยืนยาวต้องเป็นแบบไหน ? ความรักกับการตามใจต่างกันอย่างไร ? ถ้าอยากเปลี่ยนนิสัยแฟนต้องทำยังไง ? และอะไรคือสิ่งที่การันตีความรักได้จริง? ด้วยมุมมองใหม่และคำแนะนำที่ใช้ได้จริง หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณสร้างความรักที่มั่นคง เข้าใจตัวเอง เข้าใจคนรัก และมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม!
หนังสือเล่มนี้ รวมเรื่องสั้นและตอนพิเศษที่พาเราย้อนทบทวนสิ่งที่เคยสูญหาย ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความเศร้า หรือช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัย แบ่งออกเป็นสองพาร์ท—“ความสุขที่สูญหาย” และ “ความเศร้าที่สูญหาย”—สะท้อนให้เห็นว่าการสูญเสียไม่ได้หมายถึงการจากลาของใครเสมอไป แต่อาจเป็นความรู้สึกหรือประสบการณ์ที่ทำให้เราได้อะไรบางอย่างกลับมา
ส่วนใครที่อยู่ในสถานะแบบกั๊กๆ แล้วอยากได้หนังสือมาฮีลใจ ตอนนี้ที่ B2S มีโปรโมชันที่ต่อมาจากงาน Book Fair อยู่นะ สามารถหาซื้อได้ที่สาขา หรือที่ออนไลน์ ใครอยากได้หนังสือดีๆ ไปเยียวยาหัวใจ อย่าลืมไปตำกัน!