ในวันที่ความเศร้าซึมเข้ามาปะทะอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ เพื่อน ๆ B2S Club มีวิธีจัดการกับความเศร้านั้นยังไงบ้างคะ ชีวิตที่ไม่เป็นอย่างหวัง ความฝันที่ยังไกลเกินเอื้อม เรื่องเรียนเรื่องงานที่อาจทำให้รู้สึกเบื่อ เครียด เหนื่อยจนท้อแท้ระหว่างทาง บางทีมันก็นอยด์จนไม่รู้จะปลอบใจตัวเองยังไงดีเนอะ แต่เชื่อแหละว่าทุกคนมีวิธีดึงตัวเองกลับมาได้เสมอ บางคนอาจจะเลือกฟังเพลง ฟังพอดแคสต์เพื่อขจัดอารมณ์ฟุ้ง ๆ บางคนอาจจะเลือกเขียนความรู้สึกนึกคิดลงในกระดาษเพื่อระบายมันลงไปให้หายเศร้า และหลายคน ก็เลือกที่จะเข้ามาในโลกหนังสือ ซึ่งหากไม่ทะลุไปอีกโลกหนึ่งที่สนุกมากกว่าโลกจริง ก็เป็นการอยู่กับโลกจริงนี่แหละ แต่ซึมซับเอาพลังบวกจากตัวอักษรที่ร้อยเรียงเป็นเรื่องราว ไปบูสต์พลังใจตัวเองให้กลับมามีความสุข มองโลก มองสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ในมุมที่เปลี่ยนไป และมีความหวังในการเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง
วันนี้เราเลยรวมลิสต์หนังสือต้านเศร้าที่จะช่วยให้ทุกคนจัดการอารมณ์ Sad ในแต่ละวันได้อย่างเบาใจมาฝากกัน เรื่องของอารมณ์ความรู้สึกน่ะ ต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปกับตัวเอง ไม่ต้องรีบนะ ถ้าพร้อมแล้ว ก็มาดูกันเลยว่ามีเล่มไหนที่จะช่วยฮีลใจเพื่อน ๆ ได้บ้าง
รู้สึกมั้ยคะว่าช่วงนี้ตัวเองดูว้าวุ่นใจแปลก ๆ คิดมากกับทุกเรื่อง วนคิดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ อยู่ทุกคืน จนเกิดความเครียด กังวล กลัว วนลูปแทบจะตลอดเวลา หรือไม่ก็มีอาการตามลิสต์ดังต่อไปนี้
สารพัดโรคใจที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ไม่รู้จะหันไปปรึกษาใคร หนังสือที่ชื่อว่า วิชาโรคใจ 101 เล่มนี้ ให้คำตอบหนึ่งกับเราได้แน่ ๆ ว่า ปัญหากลุ้มจิตทั้งหลายมีทางออกเสมอ ใครที่กำลังไม่สบายอกสบายใจ อยากเข้าใจความรู้สึกที่ตัวเองเป็นอยู่ และอยากมีความสุขมากกว่านี้ คู่มือเล่มนี้จะช่วยให้เราประเมินสุขภาพใจตัวเองในเบื้องต้น พร้อมกับแนะนำวิธีรับมือกับปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้เราเจอทางออกของปัญหา และหลุดพ้นจากความทรมานที่เป็นอยู่ได้ในที่สุด
ถ้าพูดถึงความสุข หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเราต้องประสบความสำเร็จหรือสมหวังในอะไรสักอย่างเราถึงจะมีความสุขได้ ในความเป็นจริง เรามักมองข้ามความสุขเล็ก ๆ ไปเสมอ ซึ่งการได้พบพานความสุขง่าย ๆ ระหว่างทางนี่แหละ ที่จะเป็นพลังใจอย่างดีให้เราไปต่อได้ในทุก ๆ วัน
“วันนี้ฉันจะมอบความสุขเป็นของขวัญให้ตัวเอง” เป็นหนังสือพร้อมภาพประกอบน่ารัก ๆ ที่จะพามาสำรวจใจตัวเองว่า เราเผลอโยนทิ้งความสุข (ที่เราเฝ้ามองหามันมาตลอด แล้วก็คิดไปเองว่าไม่มี) ไปหรือเปล่า เล่มนี้จะช่วยตอบคำถามเราว่า เราจะหาความสุขของตัวเองเจอได้ยังไง แล้วจะมีความสุขมากขึ้นได้ยังไงบ้าง อีกทั้งยังช่วยย้ำเตือนว่า ที่จริงแล้ว ความสุขอยู่กับเราทุกวัน เราเจอมันทุกวัน เพียงแต่เราจะมองเห็นมันหรือเปล่าก็เท่านั้น เพราะความสุขที่แท้จริงน่ะเรียบง่ายจะตาย และมันไม่ต้องพยายามอย่างเหน็ดเหนื่อยขนาดนั้นเลย
สั่งซื้อ วันนี้ฉันจะมอบความสุขเป็นของขวัญให้ตัวเอง คลิก:
เชื่อว่าใครที่เห็นหน้าปกเล่มนี้ ต้องอยากกระโดดลงฟูกนิ่ม ๆ แล้วผ่อนคลายกับชีวิตตามชื่อหนังสือแบบสุด ๆ ไปเลย ไม่ว่าใครก็อยากตกอยู่ในสภาวะทิ้งตัวแบบนี้กันทั้งนั้นแหละเนอะ ภาระหน้าที่ต่าง ๆ ที่แบกไว้หนักอึ้ง คงดีถ้าได้วางมันลง แล้วปล่อยตัวเบาสบายบ้าง
“ผ่อนคลายกับชีวิตบ้าง แล้วเธอจะชอบตัวเองมากขึ้น” เป็นหนังสือที่รวม 35 คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตใจที่จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้เบาสบายขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และยังช่วยให้เราค้นหามุมพักใจของตัวเองจนเจอ เพราะเมื่อใจที่อ่อนล้าได้มีเวลาพักฟื้น มันก็จะกลับมานุ่มฟูสดใสเหมือนขนมปังก้อนนุ่ม ๆ ก้อนนั้นบนหน้าปก และชีวิตก็จะเต็มไปด้วยเรื่องดี ๆ ในทุกวัน
สั่งซื้อ ผ่อนคลายกับชีวิตบ้าง แล้วเธอจะชอบตัวเองมากขึ้น คลิก:
เป็นเรื่องยากเหมือนกันที่เราจะบอกกับตัวเองว่า เราทำทุกอย่างได้ดีและเต็มที่แล้ว ในวันที่เราไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นกับตัวเองจริง ๆ เลย หรือได้แต่ให้กำลังใจตัวเองว่า สู้ ๆ ทั้งที่จริง ๆ เราไม่ได้อยากสู้กับอะไรอีกแล้วทั้งนั้น
“วันนี้ใช้ชีวิตได้ดีมากเลยนะ” เป็นหนังสือความเรียงอันอบอุ่นพร้อมภาพประกอบน่ารัก ๆ ที่ถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตของคุณ 'อิลฮง' ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่กำลังรู้สึกว่าการมีชีวิตช่างเป็นเรื่องยากลำบาก หนังสือเล่มนี้จะเป็นเหมือนที่พักใจ ที่ช่วยเยียวยา ช่วยกอดหัวใจ และบอกกับเราว่า ในเมื่อที่ผ่านมาเราเหนื่อยและอดทนมาโดยตลอด ถ้าตอนนี้ไม่ไหวแล้วก็หยุดพักก่อนก็ได้ เราไม่ต้องสู้ชีวิตขนาดนั้นก็ได้ แค่ใช้ชีวิตในวันนี้อย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้ ก็เพียงพอแล้ว
สั่งซื้อ วันนี้ใช้ชีวิตได้ดีมากเลยนะ คลิก:
เวลาเราเศร้าหมองหรือรู้สึกหงุดหงิดกับอะไรบางอย่าง หลายครั้งเหมือนกันที่หากว่าเราไม่เลือกแสดงอารมณ์นั้นออกไป ก็จะเก็บงำมันไว้ไม่ให้ใครรับรู้ เพราะคิดว่าการรู้สึกลบ ๆ เป็นเรื่องที่ผิด และอาจดูเหมือนคนอ่อนแออ่อนไหวมากเกินไป อันที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะอารมณ์ไหนที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ได้มีผิดมีถูก ขอเพียงแค่เราเข้าใจและระบายมันอย่างถูกวิธี เราก็จะแข็งแกร่งขึ้น
“อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด” เป็นหนังสือจิตวิทยาฉบับอ่านง่ายที่จะช่วยให้เราเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองทั้งในด้านบวกและลบเหมือนไปนั่งคุยสบาย ๆ ชิลล์ ๆ กับจิตแพทย์ด้วยตัวเองเลย โดยในเล่มจะพาไปทำความรู้จักกลไกการป้องกันทางจิตใจที่ปิดกั้นเราอยู่ รวมไปถึงแนะนำการรับมือและปลดปล่อยอารมณ์นั้น ๆ อย่างถูกวิธี เพื่อให้เราเกิดความสบายใจ และกล้าเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ โดยไม่รู้สึกว่าต้องเก็บงำทุกอย่างไว้จนรู้สึกอึดอัด ทุกข์ใจ ไม่เป็นตัวของตัวเอง
สั่งซื้อ อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด คลิก:
ปัญหาสุดคลาสสิกที่ใคร ๆ ก็เป็นกัน อย่างการเครียดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับชีวิตคนอื่น กังวลว่าคนรอบข้างจะมองยังไงรู้สึกยังไง ฯลฯ ดูจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก และเราเองมักจะแบกมันไว้เสมอ ๆ “เรื่องที่แบกไว้เธอจะวางก็ได้นะ” เป็นหนังสือรวม 55 วิธีคิด ที่บอกเราว่าการปิดประตูใส่เรื่องแย่ ๆ ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร ซึ่งความน่ารักของเล่มนี้ก็คือ เรามีเจ้าทานุกิสีน้ำตาล ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตใจมนุษย์ (แต่ตัวเองเป็นสัตว์!) มาช่วยแนะนำเคล็ดลับ 55 ข้อนั้น ที่จะทำให้ชีวิตเราเบาสบายขึ้นเหมือนกำลังนั่งจิบชายามบ่าย
สั่งซื้อ เรื่องที่แบกไว้เธอจะวางก็ได้นะ คลิก:
ใครกำลังท้อแท้หมดกำลังใจแบบสุดขีด หนังสือฮีลใจอ่านง่ายเล่มนี้จะเป็นผู้ช่วยบูสต์พลังให้กลับมาสดใสเอง “ต่อให้วิ่งไปร้องไห้ไปฉันก็ไม่ยอมแพ้” (ชื่อหนังสือดีมาก สร้างแรงบันดาลใจได้ตั้งแต่ต้นเลย) เป็นผลงานลายเส้นน่ารักจาก กุลคิม นักวาดชาวเกาหลีที่มีผู้ติดตามกว่า 800,000 คน ซึ่งด้านในมีภาพประกอบ 4 สี พร้อมข้อความทัชใจที่ช่วยปลอบโยนเราในวันที่เหนื่อยล้า
นอกจากจะมีภาพลายเส้นน่ารักสดใส เนื้อหาอ่านง่ายย่อยง่ายแล้ว ก็ยังให้แง่คิดที่ตอกย้ำว่า เราควรจะเป็นคนที่รักตัวเราเองมากที่สุด เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ เมื่อผิดพลาดก็ลุกขึ้นใหม่ เริ่มต้นใหม่ได้ และต้องไม่ลืมที่จะมองเห็นคุณค่าในตัวเองอยู่เสมอแม้ในวันที่มืดหม่นอย่างถึงที่สุด
สั่งซื้อ ต่อให้วิ่งไปร้องไห้ไปฉันก็ไม่ยอมแพ้ คลิก:
จะบอกว่าเล่มนี้เป็นเหมือนขุมทรัพย์อย่างหนึ่งในหมวดหนังสือฮีลใจ เพราะยิ่งอ่านยิ่งมอง ก็ยิ่งได้ความสบายใจและรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกำลังมองท้องฟ้าตอนกลางคืนอยู่เลย
“จงงดงามเหมือนดวงจันทร์ที่เปล่งประกายในยามค่ำคืน” เป็นหนังสือความเรียงที่จัดเต็มทั้งภาพประกอบและโปสการ์ดสีสันสวยงามส่วนบนของฟอร์ม แถมข้อความแต่ละหน้าที่พลิกไปก็ช่วยสร้างพลังบวกในแง่มุมต่าง ๆ ไม่ว่าจะสุขกายสบายใจหรือล้มลุกคลุกคลาน “ชีวิตคือเรื่องงดงามเสมอ” ซึ่งความน่ารักของชื่อบทในเล่มนี้ คือการใช้รูปร่างของดวงจันทร์มาเป็นสัญญะในแต่ละบท อย่างเช่น บทที่หนึ่ง มองไม่เห็นดวงจันทร์ เป็นการพูดถึงเรื่องของชีวิตและจังหวะเวลา บทที่สอง จันทร์เสี้ยว พูดถึงความไม่สมบูรณ์ของชีวิต บทที่สาม จันทร์เต็มดวง พูดถึงการเยียวยาและเติมเต็มตัวเอง
สั่งซื้อ จงงดงามเหมือนดวงจันทร์ที่เปล่งประกายในยามค่ำคืน คลิก:
จะเห็นว่าทุกเล่มที่เอามาฝากกันวันนี้ แค่อ่านชื่อหนังสือก็เหมือนได้รับพลังใจไประดับหนึ่งแล้ว ยิ่งถ้าได้อ่านข้างในจนจบเล่ม เพื่อน ๆ ชาว B2S Club จะได้เคล็ดลับเพิ่มความสุขและใช้ชีวิตได้อย่างเบาสบายขึ้นแน่นอน เพราะท้ายที่สุด เราไม่สามารถควบคุมสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเราได้ เราไม่สามารถไปบังคับให้ผลลัพธ์ในเรื่องไหน ๆ ออกมาเป็นอย่างที่ใจเราหวังได้ ชีวิตมีทั้งรสหวานและรสขม มีทั้งความสมหวัง ผิดหวัง และเหนื่อยยากปะปนกันไปเสมอ หากว่าเรายอมรับความจริงข้อนี้ได้ เชื่อเถอะว่าความทุกข์ที่แบกไว้ตั้งนาน มันจะเบาลงอย่างไม่น่าเชื่อเลย
หากวันนี้ยังไม่แฮปปี้กับเรื่องใดก็ตามในชีวิต ก็ไม่เป็นไร ให้ยอมรับกับตัวเอง รู้สึกอย่างไหนก็ยอมรับความจริงในข้อนั้น ส่วนอะไรที่เราควบคุมไม่ได้ก็ช่างมัน ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้นแหละ แล้วหันกลับมามองสิ่งที่เราควบคุมได้ นั่นก็คือความรู้สึกนึกคิดของเราเอง เราจะทำยังไงได้บ้างให้ตัวเองมีความสุขมากขึ้น มองเห็นมุมใหม่ ๆ ไม่จมอยู่กับความเศร้าเสียใจอีกต่อไป หวังว่าลิสต์หนังสือต้านเศร้าจากร้านหนังสือ B2S ในวันนี้จะพอมีคำตอบให้ทุกคนได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ