“เขาว่าฝนนั้นทำให้คนเหงา” เพลงฮิตตลอดกาลที่กำลังตอกย้ำว่า อากาศ และฤดูกาล มีผลต่อความรู้สึกของเรา เมื่อฝนฟ้าครึ้มเมฆสีเทาเข้าปกคลุมท้องฟ้า ก็เหมือนมีมวลเมฆสีหม่นเข้าปกคลุมจิตใจ ความเหงา ความเศร้าค่อยๆ คืบคลานและกัดกร่อนความรู้สึกให้เศร้าแบบทวีคูณ แต่อยากรู้ไหมว่า ทำไมฝนที่ตกบนฟ้า ถึงเหมือนฝนที่ตกในใจของเราด้วย B2S CLUB ชวนหาคำตอบ ว่าทำไมฝนตกทำให้ความเหงาคูณสอง ไปดูกัน!
โดยปกติแล้ว มนุษย์จะตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นอากาศ แสงสว่าง หรือแม้กระทั่งเสียงที่เกิดขึ้น แต่เมื่อสภาพแวดล้อมรอบตัวนิ่งสงบ จะทำให้เรามีเวลามาโฟกัสที่ตัวเองมากขึ้นและเริ่มโยงสิ่งต่างๆ กับประสบการณ์ส่วนตัว เช่น ในตอนกลางคืนที่ไม่มีแสงสว่าง และได้มีเวลาอยู่กับห้วงความคิดมากขึ้น อาจทำให้เรารู้สึกกลัว เช่นเดียวกับช่วงเวลาที่ฝนตก อากาศชื้น แสงน้อย อาจทำให้เราเชื่อมโยงสภาพแวดล้อมเหล่านี้กับประสบการณ์เรื่องความเหงา หรือความเศร้าได้
แสงสว่างของกลางวัน-กลางคืน ส่งผลต่อการทำงานของสมองในการหลั่งสารสื่อประสาท ดังนั้น ในฤดูหนาว หรือฤดูฝนที่มีแสงสว่างน้อย ท้องฟ้าปกคลุมได้ด้วยความหม่นเทาและมืดมิด ส่งผลให้สมองหลั่งสาร เมลาโทนิน ซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ และยังมีสารอีกชนิดที่ร่างกายหลั่งในเวลากลางคืนคือ ซีโรโทนิน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการควบคุมและจัดการอารมณ์ เมื่อร่างกายหลั่งสารสื่อประสาทผิดเวลาเพราะสภาพแวดล้อมภายนอกกระตุ้น ก็อาจส่งผลต่อการแสดงอารมณ์ของเรา จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาที่ฝนตก เราจึงมีอารมรณ์ซึม ง่วง และอ่อนไหวเป็นพิเศษ
‘เซโรโทนิน’ สารอารมณ์ดีที่จะมีปริมาณลดลงในช่วงที่อากาศเย็น และร่างกายไม่ได้เจอแสงแดดมากนัก ยิ่งเซโรโทนินลดลงมากเท่าไหร่ ความเศร้าของเรา ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น เมื่อฝนตก เซโรโทนินยิ่งถูกผลิตน้อย ความสุขก็ยิ่งลดลง ซึ่งในบางคน อาจมีอาการเศร้าถึงขึ้นเป็นโรคซึมเศร้าตามฤดูกาลเลย
อากาศที่เย็นลงและชื้น ทำให้การไหลเวียนของโลหิตทำงานได้ช้าลง ส่งผลให้การตอบสนองทางประสาทสัมผัส และประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ทำให้เราเกิดความรู้สึกเฉื่อยช้า เหงาหงอย และเป็นที่มาที่เรารู้สึกไม่อยากทำอะไรเลยเวลาตื่นขึ้นมาในเช้าวันฝนตก
และทั้งหมดนี้ คือเหตุผลที่ทำให้คนเหงามากขึ้นเวลาฝนตก โดยเฉพาะคนโสดไม่ก็คนเศร้า ที่จะเหงาเป็นพิเศษ B2S CLUB ขอแนะนำให้ลองหาหนังสือมาอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงา อ่านให้คลายความเศร้าลงได้บ้าง วันนี้ เรามีหนังสือ 2 หมวดมาให้เลือกสรร เนื้อเรื่องสนุก น่าติดตาม ไปหาซื้อมาช่วยเพิ่มความสุขในยามฝนตกกันเลย!
นิยายแนวสืบสวน สอบสวน เป็นเรื่องราวของนักศึกษา 7 คน ซึ่งเป็นสมาชิกของชมรมลึกลับของมหาวิทยาลัย ตัดสินใจที่จะใช้เวลาช่วงวันหยุดยาวหนึ่งสัปดาห์บนเกาะสึโนะจิมะนอกชายฝั่งญี่ปุ่น โดย 6 เดือนก่อนหน้า เจ้าของเกาะถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมพร้อมกับภรรยาและแม่บ้านของเขา และคดีนี้ยังไม่คลี่คลาย ไม่นานหลังจากที่พวกเขามาถึง ต่างคนต่างเริ่มสงสัยว่าหนึ่งในเพื่อนๆ ตั้งใจจะฆ่าพวกเขาทีละคน แต่คนคนนั้นคือใคร ติดตามความสนุกเข้มข้น พร้อมหาคำตอบพร้อมกันแบบมันหยดลืมความเหงาไปได้เลย!
งานเขียนไทยร่วมสมัย รวม 30 เรื่องสั้น ผลงานล่าสุดจาก "ใบพัด นบน้อม" เล่าเรื่องความสัมพันธ์แมวๆ ที่เกิดขึ้น บางเรื่องในหนังสือเล่มนี้ ใบพัดได้พาเราไปคุยกับบรรดาแมวในคาเฟ่ บางเรื่องแอบฟังแมวคุยกับเพื่อนแมวจรข้างบ้าน แอบมองมนุษย์ผู้หลงรักสัตว์ที่ดูไม่รักเรา แมวที่ถูกทิ้งกลางสายฝน แมวผู้เป็นที่รัก และแมวดำที่ถูกลืม ติดตามเรื่องราวแมวๆ ที่ช่วยให้กำลังใจมนุษย์แบบเราได้ คงความสนุกครบรส และให้เราได้ตกตะกอนความคิดในช่วงในตกปรอยๆ ได้อย่างดี
หากเราเป็นเราในแบบที่เราเป็นจะเป็นอย่างไร ในโลกที่เต็มไปด้วยการถูกตัดสินจากคนรอบข้าง หนังสือเล่มนี้ จะชวนคุณมาอวยพรให้ตัวเองได้เจอความสัมพันธ์ที่เหมือนได้อยู่ "บ้าน" บ้านที่รู้สึกอบอุ่น วางใจ ปลอดภัย จะนั่งจะนอนก็ไม่ต้องระวัง ไม่ต้องเขียนคิ้ว ให้คุณมีวันที่ได้เปลือยหน้าสด ได้พักกายจากเครื่องสำอาง เป็นวันที่ได้สวมเสื้อยืดตัวเก่าสีซีด ไม่สวย แต่เนื้อผ้านุ่มนิ่ม ใส่สบาย และได้เจอคนที่ยอมรับตัวเราในแบบที่เราเป็น
เรื่องราวของ "Dr. Hiro" อดีตนักขายที่ล้มเหลว ขายอะไรก็ไม่มีใครซื้อ แต่แล้ววันหนึ่งขณะกำลังดูข่าว เขาก็นึกขึ้นได้ว่า "ในโลกเรามีลัทธิที่ขายของไม่น่าเชื่อถือได้ในราคาแพงลิ่วแถมยังทำให้สาวกยอมทุ่มบริจาคทรัพย์สินจนหมดตัว แล้วทำไมผมถึงขายไม่ออกล่ะ?" เขาจึงเริ่มศึกษาเทคนิคเหล่านั้นอย่างจริงจัง อ่านหนังสือทุกเล่มเกี่ยวกับการล้างสมองที่มีในท้องตลาด แล้วเอาไปปรับใช้จนกลายเป็นนักขายระดับท็อปของญี่ปุ่น นั่นคือที่มาของ "จิตวิทยาสายดาร์ก" พบกับเทคนิคทางจิตวิทยา ที่ช่วยให้คุณใช้คำพูดควบคุมจิตใจคน ทำให้พวกเขาคล้อยตามและทำอย่างที่คุณต้องการโดยไม่รู้ตัว หากใครอยากประสบความสำเร็จแบบใช้ทางลัด หนังสือเล่มนี้ตอบโจทย์มาก!
นวนิยายที่ว่าด้วยเรื่องราวของฉีโปตุ้น ตำรวจวัยเกษียณที่ก่อนหน้านี้ทำงานอย่างมุ่งมั่นมาตลอด ไม่สนใจภรรยาและลูกของตนเอง เพราะคิดว่ายังมีเวลาหลังเกษียณอายุ แต่แล้ว ภรรยาของเขาล้มป่วยและเสียชีวิตในที่สุด ทำให้เขาทะเลาะกับลูกชายของตนเอง จนวันหนึ่งเขาตัดสินใจว่า จะออกเดินทางเพื่อตามหาสถานีแห่งความสุขที่ตนเองได้ทำหล่นหายไว้อีกครั้ง ระหว่างที่ออกเดินทางนั้น เขาเกิดคำถามขึ้นกับตัวเองตลอดว่า เขาจะพบความสุขในอนาคตได้อย่างไร หรือบางที ความสุขที่ตามหาก็อาจอยู่ใกล้กว่าที่คิด
นิยายจากปลายปากกาของนักเขียนที่ได้รับรางวัล The 1st World Youth Novels Awards และรางวัล The 5th World Youth Novels Awards เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องราวของ ‘ซอจียู’ ในวัยอนุบาล เด็กผู้ได้ค้นพบความหวาดกลัว ความไม่สมบูรณ์ และการจากลา สู่การตั้งคำถามที่ว่า ใครๆ ต่างต้องการชีวิตที่มีความสุขสมบูรณ์แบบ แต่มันมีอยู่จริงหรือไม่… เรื่องราวของครอบครัวนี้ อาจทำให้นิยามคำว่า ‘ความสุข’ ของคุณเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
นวนิยายแนวอบอุ่นหัวใจที่จะทำให้คุณไม่หลงลืมสิ่งสำคัญ เป็นเรื่องราวของผู้คนที่ได้รับการเยียวยาจากเสียงดนตรี ณ ร้านขายกล่องดนตรีที่เงียบเชียบแห่งหนึ่ง เจ้าของร้านหนุ่มอ้างว่า เขาสามารถฟังเสียงเพลงที่ดังอยู่ในหัวใจของลูกค้าได้ และทุกเสียงนั้นล้วนมีความหมาย นอกจากนี้ ที่ร้านนี้ยังมีผู้คนคอยแวะเวียนมาเพื่อสั่งทำกล่องดนตรีชิ้นพิเศษสำหรับตัวเองและผู้รับ หากชีวิตของคนเรามีบทเพลงบรรเลงอยู่ในหัวใจ บทเพลงแห่งชีวิตนั้นจะเป็นเพลงแบบไหน คุณอยากลองสั่งทำกล่องดนตรีที่ความหมายสำหรับคุณคนเดียว และมีเพียงชิ้นเดียวในโลกนี้ดูไหม ? มาฟังเสียงบรรเลงของดนตรีที่เพราะที่สุดและมีหนึ่งเดียวผ่านตัวอักษรไปพร้อมๆ กัน
"ถึงโมโหก็อย่าสู้กับคนโง่" เป็นหนังสือเล่มเล็กที่ถูกขนานนามว่าเป็น "ตำราพิชัยสงคราม" สำหรับยุคปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้คุณชนะได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงต่อสู้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสมรภูมิใดในชีวิตก็ตาม อาทิ ถึงโมโหแค่ไหน ก็อย่าเสียเวลาสู้กับคนโง่ ยิ่งอีกฝ่ายทำตัวน่ารังเกียจ ยิ่งต้องแสร้งทำตัวเป็นเหยื่อ การอ่านความรู้สึกคนคือกุญแจสำคัญของการมีชีวิตรอด จงทำหน้ากลุ้ม แม้จะไม่ได้กลุ้มอยู่ก็ตาม และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น...เลิกต่อสู้อย่างเปล่าประโยชน์ แล้วมุ่งสู่หนทางที่ทำให้ชีวิตมีความสุขกันดีกว่า