ระวังปัญหาใหญ่ ของเด็กที่ "ไม่เคยเบื่อ"

เด็กยุคใหม่กำลังเป็น “โรคขาดความเบื่อ” ซึ่งนี่เป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังอุดตันความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาสมอง และอาจนำไปสู่ภาวะติดจอ ซึ่งกระทบต่อสุขภาพกายและจิตใจของเด็กๆ ในระยะยาว

ต้องยอมรับว่า โลกของเด็กในทุกวันนี้ มีความตื่นตัวมาก มีกิจกรรมมากมายและสื่อที่เข้าถึงลูกง่ายๆแบบไร้เวลาจำกัด จนทำให้พวกเขาไม่มีเวลาว่าง ไม่มีเวลาเงียบสงบ หรือไม่มีเวลาให้เบื่อพอที่จะคิดหาทำอะไรใหม่ๆ ด้วยตัวเอง เพราะทุกวันของเด็กๆ คือการได้เล่นเกม ดูยูทูป เล่น TikTok หรือดูการ์ตูนใหม่ๆ เห็นได้ว่า ไม่มีช่วงให้เขาได้นั่งเฉยๆ อ่านหนังสือ หรือออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนแก้เบื่อเลย

จากสถิติพบว่า ในช่วง 10 ปีหลังมานี้ เด็กมีปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้น และถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้นเทียมเพิ่มขึ้นถึง 43% มีภาวะซึมเศร้าในวัยรุ่นเพิ่มขึ้น 37%  ส่งผลให้เกิดอัตราการฆ่าตัวตายในเด็กอายุน้อยเพียง 10 -14 ปีเพิ่มขึ้นถึง 200% ซึ่งนี่ถือเป็นวิกฤตที่น่าตกใจมากจริงๆ

หากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่เข้าใจ B2S CLUB ขออธิบายสั้นๆ ถึงผลกระทบ 5 ข้อ ของการที่เด็กไม่เคยได้เบื่อ ตามมาอ่านกันได้เลยค่ะ

5 ปัญหาใหญ่ของเด็กไม่เคยเบื่อ 

1. เด็กกลายเป็น “เด็กในร่ม” (indoor generation) ขาดการเคลื่อนไหว และการกินอาหารที่ถูกโภชนาการ ร่างกายไม่แข็งแรง เจ็บป่วยง่าย หรือเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมก่อนวัยอันควร ไม่ว่าจะเป็น หลังงอ คอเต่า ปวดนิ้ว สายตาสั้น ที่เกิดจากการจ้องจอนานๆ ไม่ได้ออกไปรับวิตามินใดๆ ข้างนอกเลย

2. ขาดความรักและความอบอุ่น อีกหนึ่งสาเหตุที่เด็กไม่เคยเบื่อ ก็เกิดจากพ่อแม่นี่แหละค่ะ ที่อาจจะไม่มีเวลามากพอมาใส่ใจลูก เลยให้อิสระลูกในการเล่นเกม เล่นโทรศัพท์เต็มที่ และการที่ทุกคนต่างมัววุ่นวายอยู่กับหน้าจอนี้แหละ จะทำให้เด็กๆ รู้สึกไม่ได้รับความรักและความอบอุ่นดีพอ เกิดความห่างเหินกันในครอบครัวได้

3. เล่นเก่งบนหน้าจอ แต่ขาดการเล่นสร้างสรรค์และทักษะในชีวิตจริง เมื่อเด็กๆ ไม่ได้ลองออกไปเผชิญโลก ไม่ได้ลองคิดวิธีที่จะแก้เบื่อ ไม่ได้คิดหาการเล่นที่สร้างสรรค์ใหม่ๆ กับเพื่อนๆ ได้อยู่แต่หน้าจอที่มีอะไรมาเสิร์ฟตลอด เด็กๆ ก็จะขาดการเรียนรู้และทักษะหลายๆ อย่างเช่นกัน เช่น ขาดทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทักษะการรู้จักป้องกันตัว ทักษะความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้น

4. ขาดการพัฒนาสมองผ่านการเล่น เด็กๆ ไม่ได้รับ Challenge อะไรใหม่ๆ แก้ได้แต่ปัญหาที่อยู่ในเกมหรือในจอ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาระดับสติปัญญา ความจำ และสมาธิ

5. กระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กที่โดนกระตุ้นด้วยสื่อต่างๆ ในโลกออนไลน์ ได้เห็นอะไรที่ไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองก่อน ไม่ว่าจะเป็น คลิปความรุนแรง คลิปเนื้อหาล่อแหลม หรือคลิปโชว์ไลฟ์สไตล์ที่ร่ำรวย ทำให้เด็กอยากได้อยากมีตาม ซึ่งคลิปต่างๆ เหล่านี้ เสี่ยงทำให้เด็กเกิดภาวะซึมเศร้า ขาด Self-esteem หรืออาจถูกล่อลวงให้ทำสิ่งอันตรายต่างๆ ผ่านโลกออนไลน์ได้

การเว้นวรรคให้เด็กได้สัมผัสกับความน่าเบื่อ จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เขาจะได้เกิดไอเดียใหม่ๆ เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่มีเด็กคนไหนทนเบื่อได้นาน ถ้าเขาไม่มีหน้าจออยู่ใกล้ๆ เขาจะเริ่มหยิบของเล่นชิ้นเก่ากลับมาเล่นใหม่ เมื่อเขาไม่มีจอยเกมส์ในมือ เขาจะได้เงยหน้ามองสวนหน้าบ้านแล้วออกไปวิ่งเล่น ฉะนั้น การปล่อยให้เด็กๆ เบื่อบ้าง ก็เป็นเรื่องดีไม่น้อย

6 วิธีสร้างสมดุลความน่าเบื่อกับเรื่องสนุกให้ลูกรัก 

1. กำหนดเวลา “เล่นนอกบ้าน” ให้เป็นกิจวัตรของครอบครัวอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง เช่น ขี่จักรยาน เดินเล่น หรือเล่นกีฬากลางแจ้ง เพื่อให้ลูกได้ปลดปล่อยพลัง และทำให้ร่างกายแข็งแรง

2. กินอาหารร่วมกันทุกวัน โดยปราศจากหน้าจอทั้งหมด และไม่เฉพาะลูกเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องวางโทรศัพท์ไว้ไกลมือด้วย หรือในช่วงที่จำเป็นต้องทำงาน อย่ายื่นหน้าจอให้ลูกเพื่อแก้เบื่อ แต่เปลี่ยนเป็นการแนะนำวิธีเล่นใหม่ๆ จากสิ่งรอบตัว หรือมีนิทานติดตัวพร้อมยื่นให้ลูกแทน

3. เล่นกับลูกบ่อยๆ และใช้เวลาด้วยกันให้มาก ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับแต่ละบ้าน อาจกำหนดเวลานิทานก่อนนอน หรือเล่นบอร์ดเกมกันทุกคืนวันศุกร์ เป็นต้น 

4. มอบหน้าที่ให้ลูกเพื่อฝึกฝนความรับผิดชอบและการมีวินัยด้วยงานบ้านตามวัย เช่น ทิ้งขยะ พับเสื้อผ้า กวาดบ้าน ล้างจาน นอกจากจะทำให้ลูกมีอะไรทำ คลายความเบื่อแล้ว ยังเป็นการฝึกฝนนิสัยดีๆ ไปในตัว

5. ปล่อยให้ลูกเผชิญหน้ากับความลำบากหรืออุปสรรคเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน เช่น ให้ลูกถือกระเป๋าเอง ตักข้าวกินเอง หรือปอกเปลือกผลไม้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง  แล้วมอบคำชมเป็นรางวัล หรือหากทำไม่สำเร็จ ก็สอนวิธีการแทนการลงมือทำให้ทุกอย่าง 

6.สอนให้ลูกรู้จักรอคอย และหยุดความต้องการของตัวเองให้ได้ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการควบคุมอารมณ์ตัวเอง หากลูกเบื่อและเรียกร้องอยากได้โทรศัพท์ ก็อาจจะให้เด็กๆ รอคอยเวลา และหาอย่างอื่นทำไปก่อน

สำหรับใครที่อยากหากิจกรรมดีๆ ให้ลูกแก้เบื่ออย่างสร้างสรรค์ B2S CLUB ขอแนะนำหนังสือและของเล่นเสริมพัฒนาการดีๆ เหล่านี้ค่ะ

1. นิทานน่าเบื่อจัง น่าเบื่อจัง 

นิทานจากนักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่น ชินสุเกะ โยชิตาเกะ เป็นเรื่องราวของเด็กชายที่รู้สึกเบื่อ แล้วเกิดสงสัยว่าความน่าเบื่อคืออะไรกันนะ แล้วจะทำอย่างไรให้หายเบื่อ เกิดเป็นเรื่องราวของการคิดหาคำตอบของความน่าเบื่อ ลองอ่านให้ลูกฟังแล้วชวนคุยว่า เวลาเบื่อลูกชอบทำอะไร เราอาจได้รู้จักลูกในอีกมุมก็เป็นได้

สั่งซื้อสินค้า คลิก 

2. นิทานแบบนี้ดีต่อใจ ชุดในสวนของย่า 

นิทานเสริมทักษะ EF ที่ชวนให้เด็กๆ เรียนรู้จากต้นไม้และสิ่งมีชีวิตเล็กๆ รอบตัว ด้วยภาพวาดสวยๆ ที่เด็กๆ เห็นแล้ว อยากออกไปเดินเล่นแน่นอน เป็นอีกเล่มที่สามารถจุดประกายไอเดียการเล่นแก้เบื่อให้เด็กๆ ได้ โดยไม่ต้องใช้มือถือ ลองออกไปมองหาผลไม้สักต้นที่เด็ดกินได้ ก็น่าจะสนุกกว่าการนั่งมองจอมากทีเดียว 

สั่งซื้อสินค้า คลิก 

3. เลี้ยงลูกสไตล์สแกนดิเนเวีย 

 หนังสือ Parenting ที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ใช้เป็นแนวทางในการเลี้ยงลูก ให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นได้ ผ่านการเล่นกลางแจ้งและการมีประสบการณ์ดีๆ กับธรรมชาติรอบตัว เป็นหนังสือที่จะช่วยมอบไอเดียดีๆ ให้ลูกแก้เบื่อได้ดีเลย

สั่งซื้อสินค้า คลิก 

4. สมาธิสั้นหายได้ไม่ยาก 

สมาธิสั้น เป็นโรคทางสมองที่น่ากังวลสำหรับเด็กยุคใหม่ หนังสือเล่มนี้ นำประสบการณ์ตรงในการเลี้ยงลูกที่ป่วยเป็นโรคสมาธิสั้นมาถ่ายทอดให้กับพ่อแม่ได้รับรู้อย่างเข้าใจง่าย พร้อมทั้งสอดแทรกความรู้เชิงวิชาการและแบบประเมินผลความสำเร็จในการช่วยเหลือเด็กมาให้ด้วย เด็กๆ บ้านไหนที่มีความเสี่ยงเป็นสมาธิสั้น คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาวิธีป้องกันไว้ หรือรีบพาไปปรึกษาคุณหมอก่อนเลยนะคะ

สั่งซื้อสินค้า คลิก 

5. พับกระดาษรูปกระต่ายแบรนด์ AVENIR 

การพับกระดาษ เป็นการเล่นอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ลูกได้ฝึกฝนการทำงานระหว่างสายตาและมือได้อย่างสมดุล ฝึกการทำงานเป็นขั้นตอน และฝึกความคิดสร้างสรรค์ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ในเซ็ตจะมีกระดาษชิ้นส่วนต่างๆ ให้เด็กได้พับแล้วนำมาประกอบเป็นน้องกระต่ายน่ารัก เมื่อทำสำเร็จแล้ว จะได้กลายเป็นผลงานที่น่าภูมิใจของเด็กๆ ด้วย

สั่งซื้อสินค้า คลิก 

6. ชุดแสตมป์ยานพาหนะ 

ศิลปะสำหรับเด็กมีหลายรูปแบบ หากเด็กๆ เบื่อกับการวาดรูปและระบายสีแล้ว ลองนำวิธีทำงานศิลปะอื่นๆ ให้ลูกได้ทำ อย่างเช่น ให้เด็กๆ เล่นชุดตรายางรูปสัตว์ นำมาจุ่มสีและปั๊มลงบนกระดาษขาว สร้างเป็นภาพในจินตนาการอันสวยงาม ถือเป็นวิธีการฝึกใช้ความคิดสร้างสรรค์แบบใหม่ ทำให้เด็กได้ลองอะไรที่ไม่เคยทำด้วย

สั่งซื้อสินค้า คลิก 

7. ชุดแผ่นโรยทรายสีและกลิตเตอร์ลายสิงโต 

อีกหนึ่งกิจกรรมที่เด็กๆ น่าจะชอบมาก คือ การเล่นโรยทรายสีให้กลายเป็นภาพวาดสวยๆ สร้างผลงาน D.I.Y. ของตัวเอง ระหว่างทำงาน เด็กๆ จะได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ ฝึกทักษะการทำงานเป็นขั้นเป็นตอน ฝึกการวางแผน และฝึกการใช้ความคิดยืดหยุ่นเพื่อทำงานให้สำเร็จ 

สั่งซื้อสินค้า คลิก 

การเลี้ยงลูกในโลกยุคใหม่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ คุณพ่อคุณแม่ลองให้เด็กได้เรียนรู้กับความเบื่ออย่างที่บอก ให้เด็กๆ ลอง Explore กิจกรรมที่ชอบ เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาเองในอนาคต