เมื่อโลกต่อจากนี้ เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว เศรษฐกิจโลกที่ผันผวนและยากจะคาดเดา เด็กรุ่นใหม่ต้องทำอย่างไรให้เติบโตอย่างมั่นคงและมีความสุข
นี่เป็นเรื่องที่คนทั้งโลกให้ความสำคัญ ทางองค์การสหประชาชาติจึงประกาศให้วันที่ 15 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันทักษะเยาวชนโลก (World Youth Skills Day) เพื่อระลึกถึงความสำคัญของการพัฒนาและเสริมสร้างทักษะการทำงานสำหรับเยาวชนทั่วโลก ให้พร้อมทำงานตั้งแต่ตอนที่ยังเรียนหนังสือ ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดี
ทักษะการทำงานที่เด็กๆ ควรเรียนรู้นั้น ไม่ใช่แค่ผลการเรียนดี ระดับการศึกษาดีเท่านั้น แต่ต้องมีทักษะอื่นๆ ที่ทำให้สามารถทำงานบนโลกจริงและประสบความสำเร็จในหลากหลายสถานการณ์ด้วย
ทักษะของเด็กในศตวรรษที่ 21 แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ ทักษะการเรียนรู้ (Hard skill) และทักษะทางอารมณ์ (Soft skill) ซึ่งล้วนต้องส่งเสริมตั้งแต่ยังเล็กผ่านการเรียนในห้องเรียน และประสบการณ์ชีวิตที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยสอนให้ลูกได้ โดยสกิลต่างๆ ที่ควรมี มีดังต่อไปนี้
หมายถึง ความสามารถในการอ่าน ซึ่งไม่ใช่แค่อ่านหนังสือออก แต่ต้องสามารถอ่านจับใจความ วิเคราะห์ แปลความหมาย และทำความเข้าใจได้ถูกต้อง ที่สำคัญต้องอ่านได้มากกว่า 1 ภาษา เพื่อที่จะได้ใช้หาความรู้ได้ทั่วโลก
ที่เด็กๆ จะต้องสามารถเขียนในรูปแบบที่หลากหลายได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการเขียนอีเมล เขียนรายงาน หรือเขียนหนังสือได้
ทักษะซึ่งมากกว่าการบวก ลบ คูณ หาร เด็กๆ ต้องสามารถนำผลลัพธ์ไปต่อยอด คิดวิเคราะห์ หรือประยุกต์ใช้งานที่ซับซ้อนมากขึ้น เพราะในโลกอนาคต อาจจะต้องใช้การคำนวนเพื่อจัดการข้อมูล เช่น การทำ data analytic มากขึ้น
เด็กๆ ต้องสามารถคิดวิเคราะห์ข้อมูลหรือสถานการณ์ได้ว่าดีหรือไม่ดี ควรปฏิบัติงานอย่างไร และมีความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาในหลายรูปแบบ
เด็กๆ ต้องสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ถูกต้อง เข้าใจ และเป็นไปอย่างสุภาพ สามารถจัดการข้อมูลในสื่อต่างๆ และรู้ว่าข้อมูลแบบไหนน่าเชื่อถือ มีประโยชน์ หรือข้อมูลแบบใดเป็นข่าวปลอม หรือการเข้าหาของมิจฉาชีพแบบใดที่เป็นอันตรายต่อตัวเอง
ถ้าเป็นคนเก่งแต่ไม่สามารถทำงานกับเพื่อนร่วมงานได้ หรือไม่มีคนยอมรับ ก็อาจไม่สามารถทำงานจนสำเร็จได้ เพราะยุคนี้ การทำงานเป็นทีมสำคัญมาก หลายสมอง ย่อมดีกว่า 1 สมอง ที่สำคัญ จะต้องมีภาวะผู้นำ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ กล้านำเสนอความคิดเห็นดีๆ ของตัวเองได้
เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับโลกยุคใหม่ ไม่ว่าจะทำงานอะไร ต้องคิดพลิกแพลง คิดนอกกรอบเพื่อทำงานให้สำเร็จ ได้ รวมถึงต้องหัดตามเทรนด์ เรียนรู้และใช้นวัตกรรมอย่างเหมาะสมในยุคนั้นๆ ได้ด้วย เพราะเทคโนโลยี หากใช้เป็น แน่นอนว่าจะมีประโยชน์มากกว่าโทษแน่นอน
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาอุปกรณ์เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับลูกน้อย B2S CLUB ขอแนะนำสื่อที่เข้ากับการฝึกทักษะการเรียนรู้และทักษะทางอารมณ์ของเด็กๆ ตามมาดูกันเลยค่ะ
พื้นฐานของทักษะการเขียน ต้องเริ่มตั้งแต่วัยหัดเขียน ซึ่งจะเป็นช่วงอนุบาล 3 – ประถม 1 ที่เด็กๆ จะเข้าสู่ระบบการเรียนมากขึ้น คุณแม่ควรหัดให้ลูกเขียนหนังสืออย่างถูกต้อง ยิ่งหัดเขียนบ่อยเท่าไหร่ ลูกก็จะเขียนได้คล่องขึ้น หนังสือคนเก่งหัดเขียนเล่มนี้ จะเน้นคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีให้เขียนเต็มเล่ม ตัวอักษรขนาดใหญ่เหมาะกับการเขียนของเด็กที่มือเล็กๆ อาจยังควบคุมกล้ามเนื้อมัดเล็กไม่สมบูรณ์ และมีภาพประกอบให้ระบายสี จูงใจให้อยากฝึกเขียนมากขึ้นด้วย
สั่งซื้อหนังสือคนเก่งหัดเขียน 123
เพิ่มความชำนาญด้านคณิตศาสตร์ ด้วยหนังสือแบบฝึกหัดบวกเลขที่เปิดโอกาสให้เด็กค่อยๆ บวกลบจนคล่องแคล่ว เพื่อปูพื้นฐานการเรียนคณิตศาสตร์ประยุกต์ต่อไป หนังสือเล่มนี้ ได้สอดแทรกความรู้เกี่ยวกับจำนวนและตัวเลขให้เรียนรู้เหมาะกับวัย ไม่ยากเกินไป และสามารถฝึกเชาวน์ปัญญาไปพร้อมกันได้ด้วย
สั่งซื้หนังสือแบบฝึกหัด อนุบาลเก่งบวกเลข
เมื่อลูกเข้าสู่วัยประถมที่อ่านหนังสือเองได้ และมีความรู้ภาษาอังกฤษระดับหนึ่ง คุณแม่อาจมองหาหนังสือภาษาอังกฤษให้ลูกอ่านเพื่อฝึกภาษาและเรียนรู้วัฒนธรรม อย่างวรรณกรรมสำหรับเด็กโต (Chapter book) เล่มนี้ “หมูคริสต์มาส” ผลงานเล่มล่าสุดของ เจ.ดค.โรลลิ่ง นักเขียนวรรณกรรมระดับโลกอย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นเรื่องราวการผจญภัยที่สนุกมากจนวางไม่ลง เนื้อหาเกี่ยวกับความรักของเด็กชายผู้หนึ่งที่มีต่อของเล่นแสนหวง และความทุ่มเทที่เขายินดีทำเพื่อตามหามันให้เจอ เนื้อหาไม่ยากมาก ไม่มีภาคต่อ อ่านง่าย และเส้นเรื่องไม่ซับซ้อน วิธีนี้ จะช่วยฝึกทักษะการอ่านและภาษาได้ดีทีเดียว
จะฝึกการแก้ปัญหาและรับผิดชอบ ต้องสร้างปัญหาให้ลูกหัดแก้ไข อย่างชุดวิทยาศาสตร์วงจรไฟฟ้า เหมาะกับเด็กวัยประถมที่มีความสนใจเกี่ยวกับไฟฟ้าหรือวิทยาศาสตร์ ให้ได้ทดลองต่อวงจรไฟฟ้าด้วยตัวเอง พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับไฟฟ้าด้วยตัวเอง ระหว่างนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยนั่งมองข้างๆ ให้ลูกเผชิญกับอุปสรรคระหว่างการทำงานด้วยตัวเอง ไม่แน่ว่า ศักยภาพที่ซ่อนอยู่อาจฉายแววให้เห็นบ้างก็เป็นไปได้
สั่งซื้อชุดวิทยาศาสตร์วงจรไฟฟ้า
การปล่อยให้ลูกเล่นอิสระ เป็นวิธีกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เพราะของเล่นไม่มีกติกาหรือรูปแบบที่ต้องทำตามเป็นขั้นตอน เด็กๆ จึงเล่นในรูปแบบต่างๆ ได้ตามใจ ไม่มีผิดถูก อย่างการต่อบล็อกที่เด็กหลายบ้านชื่นชอบ ชุดบล็อกดินสอสีเทียนไดโนเสาร์ จากแบรนด์ AVENIR เหมาะสำหรับเด็ก 5 ขวบขึ้นไป สามารถเล่นได้แบบ 2 in1 เขียนระบายสีได้และต่อบล็อกได้ด้วย บล็อกทุกชิ้นทำจากดินสอสีของขึ้ผึ้งธรรมชาติ จึงปลอดภัยจากสารพิษแน่นอน
สั่งซื้อชุดบล็อกดินสอสีเทียนไดโนเสาร์
การสอนให้ลูกมีภาวะผู้นำ กล้าตัดสินใจและแก้ปัญหา ต้องใช้การฝึกฝนผ่านกิจกรรมอย่างบอร์ดเกม ซึ่งเราขอแนะนำ บอร์ดเกมไปตกปลากันเถอะ จากแบรนด์ THE STRONGHOLD ที่ชวนให้ทุกคนมาฝึกไหวพริบและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อนำทีมให้สามารถล่องเรือไปหาปลาตามเป้าหมายได้สำเร็จ สามารถเล่นได้ตั้งแต่ 2-4 คน และใช้เวลาเพียง 30 นาทีก็จบเกม ไม่นานเกินไปเหมาะกับเด็กวัยประถม
สั่งซื้อบอร์ดเกมไปตกปลากันเถอะ
นอกจากทักษะเก่งรอบตัวที่เด็กๆ ต้องมีแล้ว สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ การส่งเสริมให้เด็กมีคุณธรรม ศีลธรรม มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ซึ่งจะเป็นการปลูกฝังนิสัยดีๆ ให้ลูกพบเจอแต่สิ่งดีๆ และนำไปสู่ชีวิตที่มีความสุขด้วย