หลอกผี ขู่ให้เด็กกลัว ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น อาจฝังใจกลายเป็นโรคกลัว

“เมื่อความสนุกของพ่อแม่อาจกลายเป็นความทุกข์ที่ฝังใจลูกน้อยไปจนโต” การหยอกล้อเด็ก ๆ ให้หัวเราะ ยิ้มสนุก หรือทำท่าทางตลก ๆ มักเป็นเรื่องยิ้ม ๆ ที่ทำให้ผู้ใหญ่ในบ้านมีความสุขสนุกสนาน เรียกเสียงหัวเราะได้ แต่หากการเล่นสนุกเกินเลยจนกลายเป็นการคุกคามหรือปลูกฝังความกลัวในใจของพวกเขาไปอีกนาน คงไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใหญ่อยากให้เป็น 

ยิ่งในยุคที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลมากขึ้น ผู้คนชื่นชอบดูคลิปหรือทำตามคลิปไวรัลที่ได้รับความนิยมจนอาจลืมไตร่ตรองถึงความเหมาะสม แม้แต่พ่อแม่ก็ยังเผลอเรอไป จนปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ เช่น การใช้ฟิลเตอร์ผีหลอกให้เด็กกลัว, แอบอัดคลิปหลอกผีเพื่อหวังยอดไลก์ยอดแชร์ แต่เด็ก ๆ เหล่านั้นกลับรู้สึกหวาดกลัวอย่างหนักจนล้มป่วย หวาดผวาอย่างรุนแรง ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นโรคกลัวได้

ความกลัวเป็นความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์เพื่อสื่อสารให้รู้จักการป้องกัน หลบหลีกจากสิ่งอันตรายต่าง ๆ เด็กเองก็รู้จักความกลัวเช่นกัน สิ่งที่เด็ก ๆ มักกลัว ได้แก่ สัตว์ สถานการณ์ หรือธรรมชาติที่น่ากลัว อย่างความมืด ฟ้าร้องฟ้าผ่า สิ่งในจินตนาการอย่างผี ยักษ์ ปีศาจ เป็นต้น เด็กแต่ละวัยมีความกลัวแตกต่างกัน ทารกยังไม่รู้สึกกลัว เมื่ออายุ 1 ขวบขึ้นไปเด็กจะเริ่มกลัวความมืด ฝันร้าย กลัวจากประสบการณ์ที่พบเจอมาเอง หรือกลัวตามความกลัวของผู้ใหญ่ รวมถึงคำขู่หรือการหยอกล้อของผู้ใหญ่

เมื่อรู้สึกกลัวเด็ก ๆ จะแสดงออกด้วยการร้องไห้ กรีดร้อง โวยวาย ตะโกนขอความช่วยเหลือ เพราะไม่รู้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และควรจัดการกับความกลัวอย่างไร ซึ่งส่งผลกระทบต่ออารมณ์และจิตใจเกินกว่าที่พ่อแม่คาดคิดไว้

ความกลัวส่งผลเสียอย่างไร

1. เด็กรู้สึกเครียด เพราะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่กลัวอยู่มีจริงหรือไม่ จะจัดการอย่างไร และรู้สึกหวาดผวา นอนไม่หลับ ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางร่างกาย
2. สร้างจินตนาการเชิงลบ หวาดกลัวได้ง่าย และอาจทำให้หวีดร้องโดยไม่มีเหตุผล
3. ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับอุปสรรคในชีวิต
4. หากมีความกลัวอย่างรุนแรงและไม่ได้รับการแก้ไข อาจทำให้เกิดอาการทางระบบประสาท หรือกลายเป็นโรคกลัวในที่สุด  
   

ทำอย่างไรให้ลูกไม่เป็นโรคกลัว

1. คิดก่อนหยอกล้อเด็ก
   การหยอกล้อกับเด็กมีหลายวิธี พ่อแม่จึงควรหลีกเลี่ยงการหลอกให้ลูกกลัวจากสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นผี ความมืด หรือสัตว์ร้าย เพราะพ่อแม่คือคนที่เด็กเชื่อใจและวางใจมากที่สุด หากพ่อแม่เป็นคนกลั่นแกล้งพวกเขาเสียเอง สิ่งนี้อาจกลายเป็นปมฝังใจเด็กตลอดชีวิต
2. เป็นแบบอย่างที่ดี
   ส่วนหนึ่งของความกลัวของลูกเกิดจากการเลียนแบบพฤติกรรมของพ่อแม่ หากไม่อยากให้เด็กกลัวสิ่งใด ควรอธิบายให้ชัดเจนถึงเหตุผลว่าทำไมเด็กต้องรู้สึกกลัวสิ่งนั้น เช่น ควรกลัวตะขาบมากกว่ากลัวผี เพราะเป็นสัตว์มีพิษ 
3. สอนด้วยเหตุผล
   ความกลัวไม่ใช่เรื่องผิด แต่พ่อแม่ควรสอนให้รู้ว่า เมื่อกลัวแล้วควรจัดการอย่างไร เพื่อให้เด็กรู้วิธีแก้ไข จัดการอารมณ์ของตัวเอง และควบคุมสถานการณ์ไม่คาดฝันที่ต้องเผชิญได้
4. บอกความจริงแทนการขู่ให้กลัว
   หากต้องการให้เด็กทำตาม พ่อแม่ไม่ควรใช้การขู่ให้กลัว เช่น ถ้าไม่กินข้าวเดี๋ยวจิ้งจกกัด, ถ้าไม่รีบนอนเดี๋ยวผีจะมาหลอก, ถ้าดื้อจะให้ตำรวจจับ แต่ควรจูงใจด้วยความรัก ความอบอุ่น ซึ่งช่วยให้เด็กสบายใจและยอมทำตาม แม้อาจต้องใช้เวลาเพิ่มสักหน่อยแต่ย่อมดีกว่าการทำให้กลัวแน่นอน 

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาตัวช่วยให้ลูก ๆ สามารถเผชิญหน้าและก้าวผ่านความกลัวด้วยตัวเอง ลองตามมาดูกันได้เลยค่ะ

1. โคมไฟเล่านิทาน Mideer KIDS 

โคมไฟเล่านิทาน เปลี่ยนความมืดที่ดูน่ากลัวให้กลายเป็นช่วงเวลาแสนสุข ใช้ได้ตั้งแต่  3 ขวบขึ้นไป ด้วยฟังก์ชั่นไฟฉายที่สามารถใส่แผ่นฟิล์มเพื่อทำให้ผนังมืด ๆ กลายเป็นดวงดาวเต็มท้องฟ้า ท้องทะเล หรือฉากนิทานโปรด มีนิทานให้คุณพ่อคุณแม่เล่าให้ฟังก่อนนอนมากถึง 8 เรื่องในชุด และถ้าเด็ก ๆ ต้องออกไปเข้าห้องน้ำกลางดึก ยังใช้เป็นไฟฉายส่องทางช่วยให้สบายใจขึ้นอีกด้วย

สั่งซื้อ คลิก 

2. JBL ลำโพงไร้สาย เปลี่ยนสีได้ 

ลำโพงพกพาไร้สายเปลี่ยนสีสวย ใช้เปิดเพลงเบา ๆ สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย ช่วยให้ลูกน้อยที่กลัวความมืดเข้านอนได้ดีขึ้น  นอกจากนี้ยังสามารถเปิดไฟสีสวย ๆ ให้มีแสงสว่างอ่อน ๆ ได้ด้วย ไม่ต้องพูดถึงคุณภาพ เพราะ JBL ขึ้นชื่อเรื่องลำโพงเสียงคุณภาพเยี่ยมอยู่แล้ว สามารถเปิดต่อเนื่องได้ถึง 12 ชั่วโมงโดยไม่ต้องชาร์ต สะดวกใช้

สั่งซื้อ คลิก 

3. ตุ๊กตาเพนกวิน HUG

ตุ๊กตาคู่ใจเป็นอีกตัวช่วย ให้ลูกเอาไว้กอดเป็นเพื่อนยามรู้สึกกลัวได้ ตุ๊กตาขนาดพอเหมาะ ไม่ใหญ่ ไม่เล็กเกินไป ที่น่าสนใจคือ มีฟังก์ชั่นให้ขยับตัว และมีเสียงพูดน่ารัก ๆ เจ้าเพนกวินจะทำตัวหนาวสั่นและขอให้เด็ก ๆ กอด เด็ก ๆ ก็จะรู้สึกสนุกและอบอุ่นใจด้วย 

สั่งซื้อ คลิก 

4.หนังสือนิทาน ห้องสมุดในป่าใหญ่

อ่านนิทานก่อนนอนเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความกลัวของเด็กได้ คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกนิทานแนวฟีลกู้ด อ่านแล้วรู้สึกสบายใจ ภาพน่ารัก น่าอ่าน เหมาะกับเป็นนิทานก่อนนอน เช่นหนังสือเล่มนี้ที่บอกเล่าเรื่องราวของห้องสมุดในป่าใหญ่ ที่เคยเป็นเพียงห้องเก็บหนังสือของคุณนกฮูก และมีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยวนเวียนมาขออ่านหนังสืออยู่บ่อย ๆ จนกลายเป็นห้องสมุดสำหรับทุกคน 

สั่งซื้อ คลิก 

5. นิทานเพื่อนซี้ในป่าใหญ่

เรื่องราวน่าประทับใจของมิตรภาพที่เกิดขึ้นในป่า พี่หมีตัวโตผู้ชื่นชอบสิ่งเล็ก ๆ กับหนูหางกระรอกตัวเล็กที่สุดในป่า ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนรักกัน แต่เมื่อเกิดอุปสรรคขึ้น และมีฝ่ายที่ต้องผิดหวัง เพื่อนซี้จะทำอย่างไรต่อไป ชวนเด็ก ๆ มาติดตามกัน

สั่งซื้อ คลิก 

6. การเดินทางครั้งแรกของหนูจิ๊ดจิ

นิทานแสนอบอุ่นอีกเล่ม เป็นเรื่องราวของหนูน้อยจิ๊ดจิออกเดินทางไปบ้านคุณยายเพียงลำพัง เมื่อไม่มีแม่ไปด้วยเหมือนเคย หนูน้อยรู้สึกไม่มั่นใจอย่างเคย ระหว่างทางจิ๊ดจิจะพบกับอะไรบ้าง แล้วจะถึงบ้านคุณยายหรือไม่ ชวนเด็กอ่านและลุ้นไปพร้อมกัน 

สั่งซื้อ คลิก 

7.นิทาน ชุดนอน จ๊ะเอ๋!

ชวนเด็ก ๆ มาสนุกกับการเลือกชุดนอนตัวโปรด ที่จะช่วยให้เด็ก ๆ หลับฝันดี ด้วยนิทานเล่มนี้  เรื่องราวของมี้จังที่ประกาศว่าวันนี้ฉันจะใส่ชุดเอง แต่เมื่อลองใส่ดูกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด มี้จังจะสวมชุดนอนได้เองหรือไม่ ชวนมาลุ้นไปพร้อม ๆ กัน  

สั่งซื้อ คลิก 

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่สนใจอุปกรณ์หรือของเล่นเสริมพัฒนาการต่าง ๆ สามารถแวะชมสินค้าน่าสนใจและโปรโมชั่นดี ๆ ได้ที่ร้านบีทูเอสทุกสาขา หรือจะช็อปออนไลน์ผ่านทาง www.b2s.co.th ก็ได้ แล้วรอรับสินค้าส่งถึงบ้านได้เลย