รวมหนังสือปราบเด็กดื้อ ลูกรั้นแบบไม่ทำร้ายจิตใจ ไม่เสียน้ำตา

รวมหนังสือปราบเด็กดื้อ ลูกรั้นแบบไม่ทำร้ายจิตใจ ไม่เสียน้ำตา

สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ชาวคลับ เชื่อมั๊ยคะว่า ชีวิตคนเป็นแม่ กว่าจะหมดไปหนึ่งวันก็แทบหมดแรงเลยใช่ไหม โดยเฉพาะคนที่มีลูกวัย 2-3 ขวบ ทุกวันนี้แทบไม่ใช่แม่แล้ว แทบจะเป็นนางยักษ์แยกเขี้ยวแล้วจริงไหมคะ เพราะปัญหาใหญ่ของวัยนี้ คือลูกดื้อ ขี้เหวี่ยง ขี้โวยวาย ขี้หงุดหงิด คลื่นความเอาแต่ใจถล่มใส่แทบทุกนาที แล้วแบบนี้ร่างนางฟ้าจะคืนมาได้ไหมนะ

แม่แก้วเป็นอีกคนที่เคยผ่านประสบการณ์ “ลูกดื้อ” มาไม่ต่างจากคุณแม่ทุกคนเลยค่ะ  เวลาที่เครียดมาก ๆ ก็เคยคิดจะตี คิดจะดุลูกแรง ๆ อยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายพอเห็นน้ำตาลูก เราเองซินะยิ่งเจ็บกว่า ในเมื่อยังปราบเจ้าตัวร้ายแสนรักไม่ได้สักที แม่แก้วเลยเลือกที่กลับมาดูตัวเอง คิดทบทวนดูว่าจะทำอย่างไรดี

หลังจากติดตามเพจคุณหมอ อ่านหนังสือลูกมาจึงพอเข้าใจว่า สุดท้ายแล้วเหตุที่ ลูกดื้อ นั่นเป็นเพียงพฤติกรรมผิดปกติอย่างหนึ่งของเด็ก ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุทั้งการเลือกดู สิ่งแวดล้อม พันธุกรรม และอาการดื้อยังเป็นวิธีที่เด็กกำลังสื่อสารบางอย่างกับผู้ใหญ่ด้วย เช่น เขาต้องการความสนใจจึงดื้อ เขากำลังรู้สึกกลัวจึงดื้อ นั้นพ่อแม่ต้องเจาะให้เจอเหตุจริง ๆ ว่า ลูกดื้อ เพราะอะไรกันแน่ และการลงโทษอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะการตี ดุด่า หรือขู่ (ว่าจะไม่รัก) ไม่ได้ทำให้ลูกดื้น้อยลง แต่กลับทำให้ลูกต่อต้านยิ่งขึ้น และนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวซึ่งทำให้พ่อแม่ปวดหัวมากขึ้นด้วย 

แม่แก้วจึงเริ่มเปลี่ยนจากตัวเอง ทุกครั้งที่ลูกดื้อตัวเรามักโมโห และเผลอดุลูกไปแบบไม่รู้ตัว ฉะนั้นแม่แก้วจะดึงสติตัวเองด้วยการเดินออกมาเงียบ เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อน จากนั้นเดินไปกอดให้ลูกหยุดร้อง หยดโวยวาย พอทั้งคู่ใจเย็นลงทุกอย่างก็ง่ายขึ้นมากค่ะ เพราะสุดท้ายเด็ก ๆ ไม่ได้ฟังเหตุผลหรอกค่ะ แต่เขากำลังฟังความรักที่อยู่ในคำพูดของพ่อแม่อย่างเรามากกว่า

แล้วแม่แก้วก็ใช้เวลาก่อนนอน หานิทานที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ “ความดื้อรั้น” ของเด็ก ๆ มาเล่าให้ลูกฟังค่ะ เขาจะค่อย ๆ ซึบซับและเข้าใจผลดี ผลเสียของการดื้อรั้น รู้ว่าพฤติกรรมไหนควรทำ ไม่ควรทำก็จากนิทานนี่แหละค่ะ ถ้าอย่างนั้นแม่แก้วขอหยิบเอานิทานบางเล่มมาฝากกันนะคะ

คลิกสั่งซื้อออนไลน์

ลูกซน ลูกดื้อใกล้กันนิดเดียวค่ะ นิทานเล่มนี้ตรงใจแม่มาก เป็นนิทานกลอนอ่านเป็นคำคล้องจองน่าฟัง ลูกจะได้เห็นว่าเวลาเด็กดื้อเล่นซนไม่ระวัง อาจต้องเจอเรื่องอันตรายอะไรบ้าง เวลาลูกจะซนคุณแม่ก็ปรามว่าเดี๋ยวเหมือนปิงปิง ลูกก็ฟังมากขึ้นค่ะ

คลิกสั่งซื้อออนไลน์

หนูอยากได้ หนูไม่อยากกลับ หนูไม่อยากนอน เมื่อเจ้าตัวน้อยเอาแต่ใจขึ้นมา ชักดิ้นชักงอ แบบนี้แม่จะปราบอย่างไรดี นิทานเรื่องนี้นอกจากจะฉายภาพของเด็กเอาแต่ใจที่ดูไม่น่ารักให้ลูกเห็นแล้ว ยังแนะวิธีสอนลูกเชิงบวกให้คุณพ่อคุณแม่ด้วยค่ะ คุ้มมากๆ 

คลิกสั่งซื้อออนไลน์

อีกหนึ่งเรื่องสุดดื้อของลูกชายสุดแสบที่บ้านคือ ดื้อไม่ยอมกินผักค่ะ หั่นชิ้นเล็กแค่ไหนก็ยังเขี่ยออก แม่แก้วเลยต้องงัดเล่มนี้มากปราบ “หนูดีไม่กินผัก”  ภาพน่ารักมากค่ะ เรื่องน่าติดตามมากแถมยังสอนให้ลูกรู้ว่ากินผักดียังไง และไม่ขมอย่างที่คิดไปเองด้วย หลังๆลูกชายยอมกินผักมากขึ้น แม่ก็มีแรงพยายามกันต่อไปเลยค่ะ

คลิกสั่งซื้อออนไลน์

อีกหนึ่งปัญหาปวดใจของคุณแม่ยุคนี้ ลูกติดจอ ดื้อไม่ยอมวาง ดื้อจะดูแต่การ์ตูน เรื่องนี้แม่แก้วว่าต้องรีบปรับก่อนเลยค่ะ เพราะนอกจากหน้าจอจะทำให้สายตาลูกเสียแล้ว ยังมีผลต่อสมองและพัฒนาการของลูกวัยเรียนรู้ด้วย ลูกบ้านไหนเป็นแฟน “ป๋องแป๋ง” เล่มนี้ต้องไม่พลาดนะคะ อ่านไปก็ชวนให้ลูกเห็นโทษของการติดหน้าจอได้ชัดสุดๆเลยค่ะ แต่ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องสามัคคีร่วมกันห่างหน้าจอไปพร้อมกับลูกๆ ด้วยนะคะถึงจะได้ผลแน่นอน

แม่แก้วว่านอกจากปรับพฤติกรรมลูกแล้ว คุณพ่อคุณแม่หันกลับมามองตัวเอง และปรับจูนวิธีการเลี้ยงให้เหมาะสมด้วย และแม่แก้วก็พึ่งหนังสือเหล่านี้มาเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราเป็นพ่อแม่ที่ดีขึ้น 

คลิกสั่งซื้อออนไลน์

แม่แก้วว่าเล่มนี้กระเทาะใจพ่อแม่ได้ดีมากเลยค่ะ โดยเน้นไปที่วิธีสื่อสารให้เหมากับการรับรู้ของลูกแต่ละวัย ช่วยรับมือกับปัญหาของลูกน้อยได้อยู่หมัด โดยไม่ทำให้บรรยากาศครอบครัวตึงเครียด หรือต้องเสียน้ำตา ที่สำคัญช่วยดึงสติพ่อแม่ไม่ได้ดราม่าได้ดีเลยค่ะ

คลิกสั่งซื้อออนไลน์

ส่วนเล่มนี้ขอแนะนำสำหรับคุณแม่ที่มีลูกชายค่ะ ตอนแรกๆแม่แก้วก็คิดว่าลูกชายต้องดื้อมากแน่ๆ แต่จริงๆแล้วเขามีความน่ารักที่เรานึกไม่ถึงมากมาย และไม่ได้ดื้ออย่างที่คิดถ้าเราจับจุดถูกค่ะ อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง ลองไปอ่านกันนะคะ

คลิกสั่งซื้อออนไลน์

แม่แก้วยกให้เล่มนี้เป็นคัมภีร์ในการเลี้ยงลูกเลยค่ะ เพราะสุดท้ายแล้ว   EF คือเครื่องมือสำคัญที่สุด ที่ช่วยให้ลูกผ่านพ้นพฤติกรรม ลูกดื้อ ไปได้ เมื่อลูกรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาลอีกต่อไป เมื่อรู้ว่าพ่อแม่จะไม่ยอมในสิ่งที่เป็นข้อห้าม สุดท้ายลูกจะเข้าใจและเดินตามสิ่งที่เหมาะสมได้โดยไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ อาการต่อต้าน ดื้อดึงก็หายไป

ท้ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม ความรักของคุณพ่อคุณแม่คือสายใยที่ยึดโยงให้ลูกกลับมาเป็นเด็กน่ารัก และเติบโตไปได้อย่างงดงาม