Back to the office กลับมาทำงานอย่างสมาร์ทด้วยทัศนคติแบบใหม่

Back to the office กลับมาทำงานอย่างสมาร์ทด้วยทัศนคติแบบใหม่

อยู่ในสภาวะทิ้งตัว นั่งทำงานที่บ้านมาตั้งนาน พอถึงเวลาต้องกลับมาทำงานที่ออฟฟิศก็ท้อห่อเหี่ยว ทั้งงานหนัก การเดินทาง สภาพแวดล้อม หัวหน้า หรือเพื่อนร่วมงาน ‘คนนั้น’ ที่ทำให้การทำงานในทุกวันกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อจนได้ แต่เราจะกลับมาทำงานอย่างสมาร์ทได้อย่างไร B2S CLUB วันนี้มีทางออก กับ 7 หนังสือเล่มโปรดที่ต้องมีติดโต๊ะทำงาน จะเหนื่อย จะท้อ ขอแค่เปิดอ่านก็เติมพลังได้ทุกวัน  

1. คำที่พูดมา เยียวยากว่าโซจู

หากหนึ่งวันของคุณต้องการกำลังใจดี ๆ จากใครสักคน รู้ไหมว่า “คำพูด” มีพลังมหาศาลในการเยียวยาจิตใจ ในขณะเดียวกันก็สามารถทำร้ายความรู้สึกได้ หนังสือ ‘คำที่พูดมา เยียวยากว่าโซจู’ จะเชื่อมสัมพันธ์ต่าง ๆ ของมนุษย์ด้วยคำพูด โดยบอกเล่าประสบการณ์ผ่านบทสนทนาของผู้เขียนและเรื่องที่ได้ยินมากับทุกความสัมพันธ์ที่ต้องเผชิญ เช่น ความเหงา การขังตัวเองให้อยู่ในกรอบของสังคม การทะเลาะกับคนอื่นเพราะความต่าง ให้เราได้ฉุกคิดและแก้ไขปรับเปลี่ยนตัวเอง สอดประสานทุกความสัมพันธ์ เชื่อว่าหลังจากได้คำพูดเหล่านี้ช่วยเยียวยาใจทุกความสัมพันธ์ของคุณก็จะราบรื่นและมีความสุขอย่างแน่นอน

ดื่มด่ำรสชาติโซจู สั่งซื้อได้ที่นี่ 

2. ฉันไม่ใช่ผู้ใหญ่ ฉันแค่อายุ 30

เมื่อวัยหนึ่ง เราเคยคิดว่าวัย 30 คือวัยแห่งความเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องประสบความสำเร็จในหลาย ๆ เรื่อง พออายุ 30 เข้าจริง ๆ เราอาจจะพบว่าชีวิตของเรายังเต็มไปด้วยข้อผิดพลาดหลายอย่างที่เรายังไม่เคยรู้  ในขณะที่มองดูเพื่อน ๆ รอบตัวต่างก้าวนำไปข้างหน้าหลายก้าว จนกลายเป็นความกดดัน และหลงลืมไปว่าทุกคนเคยอายุ 30 ปีเป็นครั้งแรก หากจะลองก้าวช้าลงสักหน่อย ค่อย ๆ ก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว ค่อย ๆ พินิจถึงประสบการณ์ในวัยสามสิบที่ได้มา บางทีเราอาจจะพบว่า ทักษะการแก้ปัญหาของเราเหมือนจะดีขึ้น คอแข็งขึ้น และรู้สึกว่าบางทีอายุ 30 ก็คงมีเสน่ห์ตามวัยของมันนั่นแหละ

หากคิดว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ใหญ่ สั่งซื้อได้ที่นี่

3. ที่จริงวันนี้ก็ดีนะ

เสริมกำลังใจให้พร้อมสตาร์ทไปกับแรงบันดาลใจจาก คูคย็องซอน นักวาดภาพผู้สูญเสียการได้ยินและกำลังสูญเสียการมองเห็น ผู้สร้าง ‘เบนนี่’ กระต่ายน้อยขนปุกปุยหูยาวใหญ่ ที่จะคอยรับฟังและบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ ในแต่ละวันแทนตัวเธอ ผ่านรูปวาดลายเส้นน่ารักสีสันสวยงาม ถ่ายทอดเหตุการณ์และความรู้สึกออกมาได้อย่างชัดเจน ทั้งความยากลำบากในชีวิตที่เงียบงัน ความฝันและกำลังใจ ความสุขและความทุกข์ของชีวิต ตลอดจนสิ่งที่อยากทำตอนนี้และสิ่งที่อยากทำก่อนตาย รวบรวมออกมาเป็นหนังสือภาพพร้อมบทความดี ๆ 

หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบลง เราอาจจะอยากบอกกับตัวเองว่า ถึงแม้จะเหนื่อยแค่ไหน แต่ “อย่ายอมแพ้นะ”

ดื่มด่ำวันดี ๆ  สั่งซื้อได้ที่นี่

4. Ichigo Ichie ละเลียดปัจจุบัน ดื่มด่ำชีวิต

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาความสุข พยายามไขว่คว้าความสุขที่อยู่ข้างหน้าจนหลงลืมเก็บเกี่ยวความสุขระหว่างทาง ‘แนวคิดอิชิโกะ อิชิเอะ’ ปรัชญาการดำเนินชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่เน้นย้ำให้เราเห็นคุณค่าและใช้ทุกช่วงเวลาอย่างมีความหมาย จะทำให้คุณค้นพบความสุขจากการอยู่กับปัจจุบัน เพราะทุกช่วงเวลาในชีวิตเราเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว หากปล่อยให้ผ่านไป เราก็จะสูญเสียมันไปตลอดกาล ดังนั้น จงดื่มด่ำกับความสุขตรงหน้าที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวให้มากที่สุดเถิด ค้นพบความสุขของปัจจุบัน สั่งซื้อได้ที่นี่

5. เป็นคนธรรมดาแต่ว่า ซึมเศร้านิดหน่อย

เคยตั้งคำถามไหมว่า เราลืมตาขึ้นมามีวันพรุ่งนี้ แล้วเราจะมีวันมะรืนไหม? ดังนั้นเราควรรักตัวเองให้มาก ๆ จนกว่าวันสุดท้ายจะมาถึง

บันทึกเรื่องราวของ ‘อีซูย็อน’ ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่ยังไม่กล้าพูดว่าตัวเองหายดี และเป็นนักดนตรีผู้เคยคิดฆ่าตัวตาย จนกระทั่งตัดสินใจเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาล ผู้เขียนกลั่นกรองประสบการณ์เผชิญหน้ากับโรคซึมเศร้ายาวนานมานับสิบปีออกมาเป็นตัวหนังสือ ถ่ายทอดเรื่องราวการดำเนินชีวิตที่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดในทุกวันได้อย่างละเอียดอ่อน ซื่อตรง และสะเทือนใจ แต่เชื่อว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่านวัยทำงานที่กำลังต้องเผชิญหน้ากับโรคซึมเศร้าได้อย่างแน่นอน

หนังสือของคนธรรมดา สั่งซื้อได้ที่นี่

6. พักให้ไหว ค่อยไปต่อ 

ทุกวันทำงานที่ต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้าจนไร้เรี่ยวแรงจะสู้ต่อในวันถัดไป ‘พักให้ไหวค่อยไปต่อ’ หนังสือภาพกึ่งความเรียงที่สะท้อนเรื่องราวของหนุ่มสาววัยทำงานที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งเรื่องราวของสุข ทุกข์ และภาพในความทรงจำก่อให้เกิดคำถามมากมายต่อชีวิต ประกอบกับภาพวาดสุดน่ารักที่จะช่วยปลอบประโลมเราในวันอันแสนเหนื่อยหน่าย เติมต่อกำลังใจให้ลุกขึ้นไปสู้กับชีวิต (ถึงแม้ชีวิตจะสู้กลับ) ในวันต่อๆ ไปอย่างแน่นอน

พักหน่อยนะ สั่งซื้อได้ที่นี่

7. โทษที วันนี้ชีวิตฉันสำคัญที่สุด

ในวันที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว เรื่องราวรอบตัวเกิดขึ้นมากมาย และถูกถ่ายทอดผ่านสื่อต่าง ๆ จนอาจทำให้เราลืมโฟกัสกับตัวเอง หนังสือ “โทษที วันนี้ชีวิตฉันสำคัญที่สุด” จะทำให้คุณฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า หากเรามีเวลาไปแคร์คนอื่นมาก ก็เอามาทุ่มเทกับตัวเองเถอะ เลิกแขวนชีวิตของตัวเองไว้กับผู้อื่นเสียที โดยผู้เขียนได้เล่าเรื่องผ่านภาพสีน้ำลายเส้นปลอบโยนจิตใจ พร้อมเนื้อหาดี ๆ ที่ทำให้เรา ‘ช่างมัน’ ในบางเรื่อง และหันมาดูแลใจตัวเองดีกว่า

พร้อมให้ความสำคัญกับชีวิตตัวเอง สั่งซื้อได้ที่นี่

รับประกันเลยว่าหลังจากอ่านหนังสือ 7 เล่มนี้จบ คุณจะมีพลังใจเพิ่มขึ้นอีก 100 เปอร์เซ็นต์ในการลืมตาตื่นแล้วลุกออกจากบ้านมาทำงานด้วยความสมาร์ทตั้งแต่ก้าวแรก