เพื่อน ๆ เชื่อไหมคะว่าหนังสือบางเล่มเนี่ยมันสามารถเปลี่ยนชีวิตเราได้จริง ๆ นะ มันอาจจะมีเนื้อหาในบางหน้า มีประโยคในบางบรรทัด มีถ้อยคำดี ๆ ในบางวรรค ที่คอยซ่อนอยู่ รอให้เราได้ค้นพบ เพื่อใช้เติมแรงใจ ให้ข้อคิด รวมถึงให้ยึดเป็นคติประจำชีวิตของเรา เพื่อเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงในวันที่รู้สึกอ่อนล้า เหมือนว่าทั้งโลกไม่มีแม้ใครสักคนจะมาเข้าใจ ถ้อยคำเหล่านั้นก็จะยังคอยอยู่ข้าง ๆ รอให้เราได้เปิดอ่านซ้ำเสมอ
ในบทความนี้ เราเลยได้รวบรวม Quote เด็ด ๆ จากหนังสือโดน ๆ ที่เลือกมาแล้วว่าจอสระอึ้งจึ้ง!! มาให้เพื่อน ๆ ที่กำลังต้องการหนังสือที่ฮีลใจ ให้กำลังใจ มาไว้ข้างกายในวันที่ต้องการชาร์จพลังเพื่อไปใช้ชีวิตในวันพรุ่งนี้กันต่ออย่างเต็มที่ energy ไม่มีดรอปกันค่า
ถ้าพร้อมแล้ว ก็อย่ารอช้า ไปอ่านรีวิวกันเล้ยย
1.Quote : “บางครั้งก็ต้องปล่อยให้ตัวเองมีน้ำตา ไม่ว่าจะมาจากความสุข ความทุกข์ หรือความผิดหวัง เพราะทุกหยดน้ำตาจะพาให้เธอเติบโต”
“แม้บางทีโลกก็ใจร้ายมาก ๆ เลย แต่คนเดียวที่ใจดีกับเธอได้ คือ ตัวเธอเอง”
หนังสือ : อยากให้เธอสดใสเหมือนดอกทานตะวัน
หนังสือภาพฮีลใจที่ให้อารมณ์สดใสน่ารัก ไม่ต่างอะไรกับดอกทานตะวันดอกใหญ่ ๆ ที่คอยมอบความสบายตา สบายใจให้กับทุกสถานที่ที่เมล็ดพันธุ์ของมันงอกงามขึ้นมา ผลงานการเขียนและลายเส้นรูปวาดเด็กผู้หญิงหน้ากลมผมหยิกที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ NANPED เนื้อหาในเล่มเน้นที่การให้กำลังใจผู้อ่านโดยการแทน “เมล็ดพันธุ์” เป็น “ความฝัน” บางคนอาจจะยังไม่เจอเมล็ดที่ถูกใจ บางคนมีเมล็ดอยู่แล้วแต่ยังไม่กล้าปลูก หนังสือเล่มนี้จะช่วยเพิ่มแรงใจและปลอบประโลมใจผู้อ่านให้เชื่อมั่นในเมล็ดพันธุ์ของตัวเอง ผ่านทั้งข้อความและรูปวาดน้องผมหยิกสุดจิ้มลิ้ม เป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่อ่านแล้วเพิ่มพลังใจได้อย่างเต็มเปี่ยมเลยค่ะ
2. Quote : “การใช้ชีวิตเหมือนเมื่อวานแต่คาดหวังให้อนาคตเปลี่ยนไป ถือเป็นโรคทางจิตระยะเริ่มต้น”
“ฉันคิดว่าการรักษาความสัมพันธ์กับคนที่ไม่สนใจเราเลยเอาไว้ สุดท้ายแล้วก็จะกลายเป็นการกัดกร่อนตัวเราเอง”
“หากคิดมากจนเกินไป ก็จะกลัวแม้แต่กับการเริ่มต้น การลงมือทำโดยไม่คิดอะไรเลยถือเป็นความกล้าหาญอย่างหนึ่ง”
หนังสือ : ถ้านี่ไม่ใช่ความฝันได้โปรดทำให้ฉันสลบไปเถอะ
ความเรียงให้กำลังใจสุดกวน ชวนระเบิดอารมณ์ขัน ผลงานของศิลปินชาวเกาหลี ARTZZIL ที่ถ่ายทอดเรื่องราวตลกร้ายของมนุษย์ออฟฟิศ พร้อมกับการพานักอ่านไปสำรวจความรู้สึกในการทำงานอย่างลึกถึงก้นบึ้งของหัวใจ เล่าผ่านการ์ตูนเจ้าเป็ดสามสหายที่คอสเพลย์เป็นเพนกวินเนื่องจากมันขี้เกียจบิน หากเพื่อน ๆ คนไหน กำลังมีความรู้สึกเหล่านี้ ‘กำลังอดทนกับงานอย่างมหาศาล’ ‘งานที่บริษัทมันหนักไป’ หรือ ‘ฉันกำลังทรมานกับการหาเลี้ยงชีพสุด ๆ ไปเลย’ นี่คือหนังสือที่เพื่อน ๆ กำลังตามหาค่ะ ขอแอบกระซิบว่า อ่านแล้วฮาจนน้ำตาเล็ดแน่นอน
3. Quote : “สารอาหารหลักของความสุขก็คือ ความสราญใจ ความอิ่มเอมใจ และเป้าหมาย”
“ฉันไม่รู้ว่าวันนี้จะเป็นยังไงแต่ฉันจะรักคนอื่น ๆ และให้ตัวฉันได้เป็นที่รัก”
หนังสือ : ศาสตร์และศิลป์แห่งการสร้างชีวิตที่ปรารถนา
หนังสือพัฒนาตัวเองเล่มดังที่ได้รับรางวัล NEW YORK TIMES BEST SELLER เล่มนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการลงมือสร้างความสุขในแบบฉบับของตัวเอง โดยเริ่มตั้งแต่การทำความข้าใจกับตัวเองว่าความสุขในความหมายของเราคืออะไร ตามมาด้วยการจัดการอารมณ์ และการสร้างสิ่งที่สำคัญซึ่งจะสร้างความสุขให้กับชีวิตเราได้อย่างแท้จริง เนื้อหาค่อนข้างมีความวิชาการ มีการหยิบยกงานวิจัยมาเป็นตัวอย่าง แต่ระหว่างที่อ่านให้ความรู้สึกเหมือนเราได้นั่งจับเข่าคุยกับผู้เขียนไปด้วย เป็นเล่มที่ทำให้ได้กลับมาทบทวนใจตัวเองหลากหลายมิติมาก เหมาะกับใครที่กำลังรู้สึกว่าชีวิตยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน หรือกำลังค้นหาว่าความสุขของชีวิตคืออะไร อ่านเล่มนี้แล้วอาจจะทำให้คุณเห็นภาพทั้งสองสิ่งที่ว่ามาชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ
4. Quote : “ขอให้คุณค้นพบตัวเอง ได้ทำความรู้จักและยอมรับในตัวคุณเองมากขึ้นทุก ๆ วัน”
“โตขึ้นไม่ได้แปลว่าต้องเข้มแข็งหรือห้ามอ่อนแอเด็ดขาด เพราะคำว่า ‘เรื่องแค่นี้เอง’ ของแต่ละคนไม่เท่ากัน”
“ในวันที่ผู้คนมองข้ามความรู้สึก เรายิ่งต้องยืดหยัดอยู่เคียงข้างตัวเอง”
หนังสือ : ยินดีต้อนรับและขอบคุณที่กลับมา
หนังสือฮีลใจที่จะพาเราเดินทางกลับสู่ “บ้าน” ที่หมายถึงตัวเราเอง โดยคอนเซปต์ของเล่มจะเปรียบตัวเราที่เป็นเหมือนบ้านอันแสนอบอุ่นของตัวเองที่ไม่ว่าจะโดนความจริงที่โหดร้ายของโลกภายนอกโบยตีมากแค่ไหน แต่จะมีบ้านหลังนี้ที่คอยปลอบใจ และต้อนรับให้เราได้เราพักจากความวุ่นวายภายนอกเสมอ ผลงานการเขียนและลายเส้นของคุณ Sundayisbliss ที่เต็มไปด้วยสีสันสุดน่ารัก ภายในเล่มมีกิจกรรมให้นักอ่านได้ร่วมทำเพื่อบริหารหัวใจให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือโปสการ์ดสุด cute ที่แถมมาในเล่ม เป็นหนังสืออีกเล่มที่อ่านแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน
5. Quote : “เมื่อใดก็ตามที่หัวใจฉันสั่นไหวและแตกสลาย ความทรงจำแห่งความสุขจะคอยบอกว่า มาลองดูกันอีกสักตั้งเถอะ”
"ยิ่งเข้าใจตัวเองดีเท่าไร เรื่องที่เราจะทำเพื่อตัวเองได้ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น"
“อย่ามัวกอดเก็บความทุกข์ของเมื่อวานและวันพรุ่งนี้ จนลืมดื่มด่ำกับความสุขในวันนี้”
หนังสือ : สิ่งดี ๆ ในหัวใจจะกลายเป็นรอยยิ้มสดใสในทุกวัน
หนังสือที่อ่านแล้วเหมือนได้แชร์ประสบการณ์การใช้ชีวิตจากพี่สาวใจดี ที่เต็มไปด้วยประโยคเติมพลังสุดน่ารัก เรื่องราวของมาดามโลลิน่าผู้สะสมความโชคร้ายไว้กับตัวมานานหลายปี จนเริ่มรู้สึกว่ามันบั่นทอนความสุขในใจ เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตใหม่ เลือกเก็บสะสมแต่สิ่งที่ดี ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสุขให้กับเธอ และเปลี่ยนความสุขเหล่านั้นเป็นพลังบวกให้ชีวิตในวันข้างหน้าต่อไป
โดยนักเขียนจะหยิบยกเรื่องราวในชีวิตประจำวันมาเล่า อย่างเช่น การพักจากโลกความจริงด้วยการอ่านหนังสือหรือดูหนังแนวแฟนตาซี จะช่วยให้เราฮีลใจจากวันที่เหนื่อยล้าได้ดีขึ้น เป็นต้น พร้อมภาพประกอบแสนน่ารัก ที่ผสมความ magical เล็ก ๆ ให้ความรู้สึกชวนฝัน เป็นหนังสือเล่มโปรดที่เราอ่านซ้ำบ่อยมาก และอยากป้ายยาให้เพื่อน ๆ ได้มาอ่านด้วยกันค่ะ
6. Quote : “ยอมรับว่าไม่ใช่ทุกเรื่องจะมีคำตอบ และบางเรื่องไม่ได้เกี่ยวกับเราเลย การเข้าใจข้อนี้ช่วยให้ปล่อยวางได้”
“เมื่อคุณเลิกพยายามควบคุมสิ่งที่ไม่ได้อยู่ใต้อำนาจการควบคุมของคุณ ก็เท่ากับคุณเลิกสิ้นเปลืองพลังงาน”
หนังสือ : ทฤษฎีปล่อยเขา
หนังสือว่าที่ว่าด้วยการ “ปล่อยเขาแล้วเราจะสบายใจ” ในเล่มผู้เขียนจะพาเราไปทำความเข้าถึงการปล่อยวางเรื่องราวในชีวิตที่คอยฉุดรั้งไม่ให้เราสามารถมีความสุขและใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เช่น การเจ้ากี้เจ้าการกับการกระทำของคนที่เรารักจนทำให้ความสัมพันธ์มันมีแต่ความอึดอัด การแคร์สายตาของคนรอบข้างหรือเพื่อนร่วมงานมากเกินไปจนก่อให้เกิดความเครียด เป็นต้น โดยนักเขียนจะแชร์ประสบการณ์ที่เธอใช้ชีวิตจริง ให้เราได้เห็นถึงผลลัพธ์และข้อดีของการปล่อยวาง เพื่อให้เราได้กลับมาโฟกัสกับชีวิตตัวเองมากขึ้น ช่วยให้มีความสุขมากขึ้น ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างดีขึ้น เป็นอีกเล่มที่น่าสนใจสำหรับใครที่รู้สึกว่ากำลังแบกทุกอย่างอยู่มากเกินไปจนทำให้ใจไม่สงบค่ะ
7. Quote : “คุณอาจะทำพลาดหลายต่อหลายครั้งจนรู้สึกท้อแท้ แต่ความจริงแล้วมันหมายความว่าคุณกำลังก้าวหน้าครั้งใหญ่”
“ทุกคนล้วนแปลกประหลาดและขี้กังวลกันทั้งนั้น แม้จะโด่งดังหรือยิ่งใหญ่แค่ไหน พวกเขาก็ยังคงแปลกประหลาดและขี้กังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ได้แสดงอาการใดๆ เลย”
หนังสือ : เมื่อผมใช้จิตวิทยาเอาตัวรอดและรุ่งเรื่องในสมรภูมิออฟฟิศ
หนังสือฮาวทูว่าด้วยการเอาชีวิตรอดในออฟฟิศ ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นน้องใหม่ไฟแรงหรือพนักงานที่อยู่มานานก็สามารถอ่านเพื่อพัฒนาทักษะการทำงาน และการอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ในที่ทำงานได้อย่างมืออาชีพ เพราะนอกจากความสามารถและความเก่งกาจ การทำงานร่วมกับผู้อื่นยังต้องอาศัยการวางตัวที่เหมาะสม หรือถ้าจะเรียกอีกอย่างก็คือการ “อยู่เป็น” เล่าผ่านสำนวนภาษาที่อ่านสนุกชวนขำแต่เต็มไปไปด้วยเคล็ดลับที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เหมาะกับมนุษย์ออฟฟิศที่กำลังคิดว่าตัวเองเก่งไม่พอหรืออยากพัฒนาตัวเองในด้านการเข้าสังคม รวมถึงการเอาตัวรอดแบบเนียน ๆ ให้สามารถผ่านสมรภูมิที่เป็นแหล่งหาเงินของคุณไปให้ได้ในทุก ๆ วันค่ะ
หวังว่า Quote และหนังสือที่ตั้งใจเลือกมาแชร์ในบทความนี้จะถูกใจเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่าน และกำลังต้องการพลังใจในการต่อสู้กับสิ่งที่ชีวิตเหวี่ยงมาให้กันนะคะ ขอทิ้งท้ายไว้ว่า ถึงแม้ในบางครั้ง ทั้งโลกและชีวิตอาจจะไม่ได้ใจดีกับเราเสมอไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือวิธีที่เราตอบสนองต่อสิ่งเหล่านั้นอย่างไร เรามีสติพอจะรับมือกับปัญหามัั้ย เราเข้มแข็งพอที่จะผ่านมันไปได้หรือเปล่า หรือแม้แต่ในวันที่เราสู้ไม่ไหว เราอนุญาตให้ตัวเองได้ร้องไห้อย่างเต็มที่แล้วหรือยัง ในวันยาก ๆ เหล่านั้น อย่าลืมที่จะโอบกอดตัวเองอย่างเข้าอกเข้าใจ เพราะเราก็เป็นเพียงมนุษย์ที่มีหัวใจคนหนึ่งซึ่งกำลังตั้งใจใช้ชีวิตบนโลกใบนี้อย่างเต็มที่สุดความสามารถแล้ว
ขอให้อ่านหนังสืออย่างสนุกและมีความสุขในทุกการพลิกหน้ากระดาษนะคะ
ฝ่ายบริการสมาชิก The 1 หรือ The1 Call Center
ที่หมายเลข 02-660-1000 ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 22.00 น. เพื่อแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสาร
จะมีผลให้ส่วนลด พลังสะสมหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับจะถูกยกเลิกในทันที และหากท่านกลับมาสมัครใหม่ในภายหลังจะถือเป็นสมาชิกใหม่
ของท่านจะถูกยกเลิกทันที หลังจากท่านกดยืนยัน