ของสะสมของใครหลายคน สำหรับเพื่อน ๆ ชาว B2S Club คงหนีไม่พ้นหนังสือ ที่เราทั้งดองและอ่านไปด้วยพร้อม ๆ กัน แต่อีกสิ่งที่ใคร ๆ ต่างก็สะสมไม่ว่าจะในวัยเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็คือของที่มาจากตัวการ์ตูนหรือคาแรกเตอร์น่ารัก ๆ ที่เราชื่นชอบ ซึ่งแน่นอนว่า ตัวละครที่เรารัก มันไม่ได้มีดีแค่ความน่ารักอย่างเดียวหรอก จริง ๆ แล้วลึก ๆ มันอาจเป็น “ตัวเรา” ในเวอร์ชันคู่ขนานก็ได้ ทั้งนิสัยและความรู้สึกนึกคิด อาจเหมือนหรือเชื่อมโยงตัวตนของกันและกันโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ วันนี้ขอชวนเพื่อน ๆ มาเล่น Pick a Character reading! ลองจุ่มเลือกคาแรกเตอร์กันแบบสนุก ๆ แล้วลุ้นหนังสือที่ใช่ไปพร้อม ๆ กัน ดูซิว่าตัวละครสุดโปรด จะพาไปแมตช์กับหนังสือเล่มไหนที่บ่งบอกตัวตนลึก ๆ ของเรา
ชาว B2S Club เอ๋ย หายใจเข้าลึก ๆ แล้วเลือกคาแรกเตอร์ในลิสต์ต่อไปนี้ที่คิดว่าชอบที่สุดมาหนึ่งตัวเลือก ถ้าพร้อมแล้ว ก็จิ้ม แล้วไปอ่านเฉลยกัน
น้องหมีเนย มาสคอตสุดน่ารักชวนใจละลายที่ดังไกลไปถึงต่างแดน ด้วยคาแรกเตอร์สดใส ขี้เล่น ทะเล้น แถมยังนุ่มฟูน่ากอด เป็นยัยหนูที่น่าเอ็นดูเป็นที่สุด สร้างรอยยิ้มฮีลใจให้กับคนที่พบเห็นเสมอ ใครที่เอ็นดูน้องเนย ก็เหมาะเลยที่จะอ่านเล่มนี้ "อย่าลืมหยอดรอยยิ้มใส่กระปุก แล้วพกความสุขใส่กระเป๋า" หนังสือที่อ่านแล้วจะคลี่ยิ้ม เหมือนมีน้องหมีเนยมานั่งอยู่ข้าง ๆ คอยส่งกำลังใจ ส่งพลังบวกให้ยิ้มรับความสุขเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในทุกวัน
เนื้อหาในเล่มจะจัดเป็น A-Z happiness journey เริ่มจาก A ไปจนถึง Z แบบค่อย ๆ พาเราเดินไปซึมซับความสุขทีละก้าว ผ่านประโยคสั้น ๆ ในแต่ละหน้าที่อ่านแล้วชวนอมยิ้ม บางประโยคก็ปลอบใจเหมือนได้รับอ้อมกอด บางประโยคก็เหมือนมีเพื่อนตบบ่าเบา ๆ แล้วบอกกับเราว่า “แกเก่งแล้วนะ” มันเหมือนแหล่งฮีลใจ เหมือนกระปุกสะสมความสุขที่เราสามารถหยิบยื่นให้ตัวเองได้แม้ในวันที่โลกไม่น่ารัก ใครกำลังต้องการแหล่งพลังงานทางใจเหมือนกับที่ได้เสพพลังความน่ารักล้น ๆ จากน้องหมีเนย ต้องได้ลองอ่านแล้วค่ะ
ถ้านึกถึงคาแรกเตอร์ขี้แงขี้แพ้มาสักหนึ่งชื่อ โนบิตะมักจะติดหนึ่งในนั้น แต่รู้ไหมว่า โนบิตะนี่แหละ คือตัวละครที่สะท้อนความเป็นจริงมากที่สุด นั่นคือ ความธรรมดาสามัญ เราไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่ง เราเผชิญกับความผิดพลาดได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราขอความช่วยเหลือได้ถ้าต้องการ เราร้องไห้ได้เพราะการร้องไห้ไม่ได้แปลว่าเราอ่อนแอ แต่มันแปลว่าเราเป็นมนุษย์
ความธรรมด๊าธรรมดาของโนบิตะ จึงแมตช์กับเล่ม “เป็นคนธรรมดาแต่ว่าสุขมาก แบบเจ้านากโบโนโบโน” หนังสือที่พาเราเดินทางไปกับเจ้านากน้อยตัวฟูอย่าง โบโนโบโน และเหล่าผองเพื่อนสัตว์ ที่เจอกับเรื่องราววุ่นวายต่าง ๆ คล้ายกับโนบิตะและโดราเอมอนที่วัน ๆ ไม่ได้มีแต่เรื่องของวิเศษและการใช้ชีวิตสนุก ๆ แต่มันยังคละเคล้าไปด้วยความน้อยใจ ความกังวล ความอิจฉา ความผิดหวัง ความฝันที่ไม่เป็นจริง ความรู้สึกโดดเดี่ยว และอีกหลากหลายความรู้สึกที่ไม่ต่างอะไรกับชีวิตเรา
เป็นเล่มที่ชวนเรามานั่งทบทวนตัวเองเงียบ ๆ แบบค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ หายใจ แล้วค่อย ๆ ใช้มุมมองใหม่ ๆ แก้ปัญหาไปทีละจุด บางบทก็มีการ์ตูนช่องน่ารัก ๆ แทรกให้อ่านง่ายขึ้นด้วย ใครที่กำลังกังวลกับเรื่องต่าง ๆ ในชีวิต รู้สึกว่าตัวเองไม่เคยดีพอ ลองอ่านให้จบ อาจจะพบว่า เราเป็นโนบิตะที่เจอของวิเศษที่ช่วยให้มีความสุขกับชีวิตมากขึ้นเข้าให้แล้ว
ด้วยคาแรกเตอร์แบบหญิงแกร่งที่ดูเป็นเพอร์เฟ็กชันนิสต์ ทุกอย่างต้องเป๊ะตามระเบียบ ยึดถือตามความถูกต้อง วางตัวสง่างาม ดูคูล ๆ ไม่สะทกสะท้านกับอะไรที่ผ่านเข้ามา เหมือนน้ำแข็งระยิบระยับแวววาวดั่งเพชร แต่ความเป็นจริง ใครจะรู้ว่าข้างในช่างหนาวเหน็บ มีความเจ็บปวดหนักหนาอยู่ภายใน ซ่อนรอยแตกร้าวไว้มากมายรอวันพังทลาย
"เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยคิดนะ วันนี้ขอนอนก่อนแล้วกัน" เป็นหนังสือที่โคตรจะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบและอาจมีบุคลิกคล้ายเอลซ่า เพราะจะช่วยให้เราได้ค่อย ๆ ทลายกำแพงความคาดหวังลงทีละนิด วางภาระหนาหนักที่อยู่บนบ่าลงทีละก้อน ราวกับมีใครสักคน จับมือแล้วบอกกับเราว่า “ไม่ต้องแบกไว้หมดก็ได้นะ” ผ่านเนื้อหาที่สอนให้เราได้ลองถอยออกมาหนึ่งก้าว มองชีวิตจากมุมที่สบายกว่า สอนให้วางสิ่งที่หนักลง ยอมรับว่าสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ก็ปล่อยไปบ้าง สอนให้เว้นระยะห่าง เราไม่จำเป็นต้องเข้าใจทุกคน ไม่ต้องเอาใจใครตลอดเวลา หันมามองและดูแลหัวใจของตัวเราก่อน นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด
เราเป็นเอลซ่ากันทุกคนนั่นแหละ เราคือคนเก่ง คนแกร่งคนหนึ่งเลย แต่คนเก่งคนแกร่งคนนั้น ก็ต้องการการพักเหมือนกันนะ ถ้าวันไหนเหนื่อยก็พักเถอะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยลุยต่อ นั่นแหละคือสิ่งที่หนังสือเล่มนี้ต้องการจะบอกกับเอลซ่าทุกคน
คุโรมิ คู่ปรับตัวแสบของมายเมโลดี้ที่ภายนอกดูแกร่ง ดูก๋ากั่นกล้าลุย ปากเก่ง ดื้อเงียบ ยืนเด่นอยู่ในมุมของตัวเองแบบไม่ง้อใคร แต่จริง ๆ ในใจก็อ่อนไหว แอบน้อยใจ แอบคิดว่า “ทำไมไม่มีใครมองเห็นความพยายามหรือมุมดี ๆ ของฉันบ้างนะ”
เหมาะมากที่จะอ่านเล่มนี้ “แด่เธอผู้พยายามอยู่ในที่ที่ไม่มีใครเห็น” ซึ่งสะท้อนและนำไปปรับใช้ได้หลายมุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องการเรียน หรือเรื่องความสัมพันธ์ โดยเนื้อหาจะช่วยปรับมุมมองให้เราเห็นคุณค่าของตัวเองจากทุกมุมที่เราเป็นอยู่ ทั้งตอนที่เราไม่เคยเห็นคุณค่าในตัวเองเลย สายตาของคนอื่นที่ทำให้เรารู้สึกด้อยลง แผลใจจากคำพูดหรือการกระทำของคนอื่น ความจริงใจที่เราลืมให้ตัวเอง และในวันที่เราอดทนจนเหนื่อยล้า หนังสือจะค่อย ๆ แงะให้เราได้เรียนรู้ว่า คำว่า “พอดี” ก็เพียงพอแล้ว เราจะลุกขึ้นได้อีกครั้งแบบไม่โทษตัวเอง
คล้ายกับเป็นข้อความในไดอารี ที่จะช่วยเตือนใจคุโรมิทุกคนว่า ต่อให้ไม่มีใครมองเห็น ความพยายามของเราก็ไม่ได้หายไปไหน มันมีค่าเสมอ และเป็นเช่นนั้นตลอดไป
กระต่ายหมวกชมพูสุดน่ารักอย่างมายเมโลดี้ ภาพแทนของสาวหวานสายอ่อนโยนที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็อยากเข้าหา พูดอะไรคนก็ฟัง มีความเป็นมิตร น่าทะนุถนอม และเป็นพื้นที่สบายใจให้คนอื่นได้เสมอ จนหลายคนอาจรู้สึกว่า เออ อยากเป็นได้แบบมายเมโลดี้บ้างจัง
“คนที่ใครๆ รักก็มักเป็นแบบนี้แหละ” เป็นหนังสือที่รวม 43 เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับใครที่อยากเป็นคนน่ารักในแบบที่ใครอยู่ใกล้ก็สบายใจและอยากอยู่ด้วยไปนานๆ เขียนโดยทันตแพทย์และนักเขียนชาวญี่ปุ่น ที่เจอกับผู้คนมากมายและสังเกตจนพบว่าคนที่ใครๆ รัก ที่จริงแล้วเขาคนนั้นไม่ได้เกิดมาเพอร์เฟกต์หรอก แต่เขามีนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ที่สะสมจนกลายเป็นเสน่ห์ต่างหาก เช่น คนที่ไม่ตัดสิน ไม่ทำให้กดดัน, คนที่สร้างความเชื่อใจได้ รักษาคำพูด ซื่อสัตย์, คนที่หมั่นเพิ่มคุณค่าให้ตัวเองทั้งบุคลิก ความคิด และทักษะ, คนที่ให้ก่อนเสมอ ไม่คาดหวังจะได้รับทันที, คนที่มองเห็นข้อดีของคนอื่น คอยชม คอยสนับสนุน เป็นต้น
อ่านแล้วจะรู้สึกเลยว่า ความน่ารักแบบนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหน้าตาหรือการวางตัวอย่างเดียว แต่มันเกิดจากพลังเล็กๆ ของความใส่ใจที่เรามอบให้คนรอบข้าง และที่สำคัญคือการมอบความใส่ใจนั้นให้ตัวเองด้วย เหมือนอย่างมายเมโลดี้ที่ใคร ๆ ก็รัก เราว่าเป็นเล่มที่เอามาปรับใช้แล้วชีวิตจะดีขึ้นทุกด้านมาก ๆ เลยค่ะ เป็นคัมภีร์เมตตามหานิยมที่ทุกคนต้องมีติดตัวไว้เลย
มีหลายคนเลยที่ชื่นชอบน้อง แบดแบดส์มารุ ด้วยคาแรกเตอร์เพนกวินมาดกวน ขี้หงุดหงิด งอแงง่าย ชอบทำหน้าบึ้ง แสบ ๆ แก่น ๆ แต่ก็แอบมีมุมน่ารัก ขอจับแมตช์ให้เลยกับหนังสือที่เป็นเหมือนคู่มือที่ค่อย ๆ ฝึกให้เราเป็นแบดมารุเวอร์ชันอารมณ์ดีได้ไม่ยาก
“100 นิสัยไม่เป็นคนหัวร้อน” เหมาะมากทั้งสำหรับคนที่อยากฝึกให้ตัวเองใจเย็นเมื่อต้องเจอกับคนหัวร้อน และกับคนที่ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนหัวร้อน แต่ก็อยากเป็นคนเย็นลงกว่านี้บ้างเหมือนกัน เนื้อหาเขาย่อยออกมาเป็น 100 ข้อเล็ก ๆ ให้อ่านได้ง่าย ๆ ไม่ชวนหงุดหงิดแน่นอน 555 แถมยังมีทริกเด็ด ๆ หลายอย่างที่รับรองว่า เอามาใช้แล้วจะกลายเป็นคนใจเย็นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เช่น วิธีเบรกตัวเอง วิธีไม่ระเบิดลงใส่คนอื่น วิธีสงบใจแบบเร็ว ๆ ไปจนถึงวิธีพูด วิธีฟัง วิธีจัดการความโกรธกับคนอื่นแบบไม่ทำร้ายกัน
ถ้าเคยวีนแล้วรู้สึกว่าทำไมมันสูบพลังเยอะจัง หรือชอบเผลอทำตัวไม่น่ารักแล้วมารู้สึกผิดทีหลังทุกที เทคนิคง่าย ๆ ในเล่มนี้ จะช่วยหยุดบั่นทอนความรู้สึกแย่ ๆ ทั้งกับตัวเองและกับคนอื่น แล้วช่วยให้เรากลายเป็นคนอารมณ์ดีขึ้นได้ในทุก ๆ วันค่ะ
สามสาวพาวเวอร์พัฟฟ์ ตัวละครในดวงใจใครหลายคน ด้วยบุคลิกที่เป็นเด็กแต่ใจใหญ่ มีทั้งความกล้าหาญ ความอ่อนโยน และความแก่นในตัวเอง แถมยังมีพลังวิเศษที่แตกต่างกันไป ด้วยคาแรกเตอร์ความเป็นผู้นำแต่ก็อ่อนโยนอย่างบลอสซัม ความอ่อนนุ่มแต่ไม่อ่อนแอของบับเบิ้ล และความห้าวหาญเด็ดเดี่ยวของบัตเตอร์คัป ทำให้แม้ตัวละครจะเป็นเด็ก แต่ก็เป็นฮีโร่ที่ใคร ๆ ก็ชื่นชอบ
“เราต่างเป็นเด็ก ในโลกใบไม่เล็กไม่ใหญ่นี้เสมอนะ” จึงเป็นหนังสือที่พูดแทนใจว่า เราทุกคนไม่ได้แค่ “เคยเป็นเด็ก” แต่จริง ๆ แล้ว หัวใจเราไม่เคยเลิกเป็นเด็กเลย เนื้อหาจะพาเราไปสำรวจมุมมองของเด็กและผู้ใหญ่ พร้อมทั้งเตือนให้เรารักษาความเป็นเด็กในตัวเองเอาไว้เสมอ ผ่านข้อคิดที่อ่านแล้วทั้งสะอึก ทั้งยิ้ม ทั้งตั้งคำถามอยู่ในใจ ไม่ว่าจะเป็น “แค่เราเคยผ่านวัยเด็กมา ไม่ได้แปลว่าเราจะเข้าใจหัวใจเด็ก ๆ ได้เสมอไป” “การที่เด็ก ๆ พยายามเป็นเด็กดีเพื่อไม่ให้พ่อแม่ผิดหวัง บางทีก็เป็นบาดแผลลึก ๆ ที่พวกเขาไม่เคยพูด” “ยิ่งเราเข้าใจและเดินไปพร้อมกับเด็ก ๆ โลกของเราก็จะยิ่งกว้างขึ้น”
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่แค่หนังสือที่จะทำให้เราเข้าใจเด็กมากขึ้น แต่มันยังฉายภาพให้เราได้หันกลับไปมองตัวเองในวัยเด็ก ว่าเด็กคนนั้นยังอยู่กับเราตลอดเวลา ความฝัน ความหวัง และความเชื่อมั่นในตัวเองยังอยู่ตรงนี้เสมอ
ใครที่ชอบความทะเล้นขี้แกล้ง หรือถ้าความสัมพันธ์ในชีวิตตอนนี้มันดูน่ารักแบบหยิกแกมหยอกอย่างทอมแอนด์เจอร์รี่ คู่กัดที่วิ่งไล่ล่าหาเรื่องกวนโอ๊ยกันตลอดเวลา และบางทีก็แอบแกล้งกันแรง ๆ จนนึกเกลียดขี้หน้าขนาดหนัก แต่สุดท้ายก็ยังอยู่ด้วยกัน และอยู่กันได้แบบที่ไม่มีใครอื่นมาแทนที่ได้ด้วย มีหนังสือเล่มนึงที่จะทำให้เข้าใจว่าทำไมความสัมพันธ์แบบนั้นถึงมีค่าและลึกซึ้งมากกว่าที่คิด
“จิตวิทยาความรัก (ไม่) ใคร่: เพราะโซลเมตไม่ใช่แค่…คนรัก” เป็นหนังสือที่หยิบเรื่องของความรักในอีกมิติหนึ่งมาคุย มันคือความรักแบบเพื่อนแท้ หรือที่เรียกว่า platonic love รักที่บริสุทธิ์และไม่มีเรื่องกายภาพหรือเรื่องเพศมาเกี่ยวข้องเลย เป็นความรักที่เราได้เป็นตัวเองจริง ๆ เมื่ออยู่กับอีกฝ่าย รักที่ไม่ต้องครอบครอง ไม่ต้องคาดหวัง แต่รู้สึกปลอดภัยและมั่นคง ซึ่งเราคิดว่าหลายคนก็มีความสัมพันธ์แบบนี้อยู่ในชีวิตกันทุกคนแหละ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน คนในครอบครัว คนรัก แม้กระทั่งกับคนแปลกหน้าก็ด้วย
ในเล่มจะค่อย ๆ คลายความเชื่อผิด ๆ บางอย่าง เช่นว่า ผู้หญิงกับผู้ชายเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรอก พร้อมกับพาเราไปสำรวจความสัมพันธ์ที่สวยงามแบบโซลเมตในคราบมิตรภาพ ผ่านมุมมองจิตวิทยา พร้อมตัวอย่างที่ชวนให้ใคร ๆ อยากกลับไปดูแฮร์รี่พอตเตอร์อีก เช่น แฮร์รี่กับเฮอร์ไมโอนี่ ตัวละครที่รักกันสุดหัวใจแต่ไม่มีวันเป็นแฟนกัน สรุปให้เข้าใจง่ายว่า หนังสือเล่มนี้ได้ให้คำตอบกับเราว่า ความรักที่ลึกซึ้งจริง ๆ ไม่จำเป็นต้อง “เป็นแฟน” เสมอไป เพราะบางครั้งการที่มีใครสักคนอยู่ข้าง ๆ เราแบบทอมแอนด์เจอร์รี่ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ชีวิตมีความสุขและมีสีสัน
ใครที่ชอบคาแรกเตอร์น่ารัก ๆ แบบคิตตี้ ที่ทั้งสดใส ใจดี มองโลกด้วยรอยยิ้ม และเชื่อว่าทุกวันมีเรื่องสนุกให้ค้นพบ จะบอกว่าคิตตี้ก็มีอีกหนึ่งคาแรกเตอร์ที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ “ความกล้า” ซึ่งไม่ใช่ความกล้าแบบบ้าบิ่น แต่คือความกล้าที่จะเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ หนังสือเล่มนี้เลยเหมาะกับคนที่อยู่ในโหมดคิตตี้แต่ก็อินดี้ อยากใช้ชีวิตให้คุ้มด้วย
“ชีวิตนี้ใช้ให้คุ้มได้อีก ได้อีก ได้อีก!” เป็นเรื่องจริงของ คุณย่าพัคมักเร วัย 71 ปี ที่ไม่ยอมปล่อยให้ชีวิตเหี่ยวเฉาอยู่แต่บ้าน แต่เลือกจะออกเดินทางไปพร้อมกับหลานสาวคู่หู คิมยูรา เพื่อเก็บเกี่ยวเรื่องราวใหม่ ๆ ใส่ชีวิต และแบ่งปันพลังบวกให้คนทั้งโลก จากเมืองยงอินในเกาหลีใต้ สู่อเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอีกหลายที่ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่ารักและน่าจดจำ พวกเธอสร้างช่องยูทูบ “Korea Grandma” จนมีคนติดตามเกือบสองล้านคน ซึ่งทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากความกล้าที่จะลอง และพร้อมจะหัวเราะกับสิ่งที่เจอ
ชื่อหนังสืออาจจะดูเหมือนเร่งรัดให้เราใช้ชีวิตให้คุ้ม ๆ ต้องกล้าออกไปทำอะไรเสี่ยง ๆ และต้องก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนซะเดี๋ยวนั้น จริง ๆ ก็ไม่ใช่แบบนั้นหรอก มันกำลังบอกเราว่า อย่าปิดใจให้กับโอกาสเล็ก ๆ รอบตัวต่างหาก แค่กล้าเปิดใจรับเรื่องใหม่ ๆ กล้าออกไปทำอะไรเพื่อตัวเอง และเชื่อว่ายังมีสิ่งดี ๆ รออยู่ นั่นก็เป็นความกล้าแบบหนึ่งแล้ว ขอแค่เปิดใจและมองโลกในแง่ดี ทุกวันก็สนุกได้อีก ได้อีก ได้อีก! แบบคิตตี้แล้ว
โลกใบนี้ มีหลากหลายคาแรกเตอร์ให้เราเลือกหยิบมาเป็นได้เสมอ บางคนอบอุ่นแต่แสบซนเหมือนหมีเนย บางคนซื่อ ๆ ขี้แง ต้องการใครสักคนให้พึ่งพิงใจเหมือนโนบิตะ บางคนกำลังเหนื่อยล้าแต่ต้องทำเป็นเข้มแข็งอย่างเอลซ่า ฯลฯ เราอาจจะเป็นแค่คาแรกเตอร์เล็ก ๆ ตัวหนึ่งบนโลกที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ใบนี้ แต่ทุกตัวตน ทุกความรู้สึก ทุกความพยายามของเรามีความหมาย ขณะเดียวกันก็ยังแอบเฝ้ารอให้ใครมาพบเจอและเข้าใจมันอย่างแท้จริง
หนังสือแต่ละเล่มเองต่างก็มีบุคลิกและพลังวิเศษในตัวมัน ที่รอใครสักคนมาค้นพบเช่นกัน มันกำลังรอให้ใครสักคนเปิดใจ แล้วก็รอให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน หวังว่าหนังสือที่แนะนำไปในวันนี้ จะเป็นเหมือนคาแรกเตอร์อันหลากหลายที่สามารถให้กำลังใจเวลาเหนื่อย ปลอบใจเวลาเศร้า ชวนหัวเราะเมื่อกำลังเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ และพร้อมจะชวนไปซ่ากับโลกใบไม่ใหญ่ไม่โตนี้ ในแบบที่มีความสุขได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองนะคะ ถ้าเลือกเล่มที่ใช่ได้แล้ว ก็ไปลุยกันเลยเถอะ!
ฝ่ายบริการสมาชิก The 1 หรือ The1 Call Center
ที่หมายเลข 02-660-1000 ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 22.00 น. เพื่อแจ้งความประสงค์ขอยกเลิกการรับข้อมูลข่าวสาร
จะมีผลให้ส่วนลด พลังสะสมหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับจะถูกยกเลิกในทันที และหากท่านกลับมาสมัครใหม่ในภายหลังจะถือเป็นสมาชิกใหม่
ของท่านจะถูกยกเลิกทันที หลังจากท่านกดยืนยัน