ลอย ~ จับเอาเธอนั้นไปลอยทะเล ~ หน้าร้อนแบบนี้ ที่ที่หลายคนอยากพาตัวเองหนีร้อนไปทิ้งตัวคงไม่พ้นทะเล และแน่นอนว่า ทริปเที่ยวทะเลของชาว B2S Club หนอนหนังสืออย่างเรา ๆ ถ้าจะให้เพอร์เฟกต์สุด ๆ ก็ต้องมีหนังสือดี ๆ พกติดกระเป๋าไว้สักเล่มไปนั่งอ่านริมทะเลรับ Vibe ดี ๆ กันอะเนอะ ยิ่งถ้าได้นั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ รับลมริมหาด และฟังเสียงคลื่นซัดสาดไปพร้อม ๆ กับซึมซับเรื่องราวดี ๆ จากหนังสือในมือนี่มันคงฟินสุด ๆ ไปเลย
วันนี้ B2S CLUB รวม 7 หนังสือที่อ่านแล้วได้ฟีลซัมเมอร์ สดชื่น ผ่อนคลายรับหน้าร้อนมาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้ว เตรียมทิ้งตัวให้สายลม หาดทราย เกลียวคลื่น และหน้าหนังสือ ฮีลใจเรากันค่ะ
ดูเหมือนจะขัดกับหน้าร้อนที่ต้องดื่มน้ำเย็น ๆ ให้ชื่นใจ แต่ขอพามาจิบชาอุ่น ๆ รับพลังดี ๆ จากหนังสือเล่มแรกที่อยากแนะนำกันก่อน "คาเฟ่ชาอุ่น ๆ สำหรับคุณที่กำลังหลงทาง" เล่มนี้เป็นนิยายที่เล่าเรื่องราวของ "คิซารากิ ทัมโปโปะ" หญิงสาวที่เดินทางไปทั่วญี่ปุ่นพร้อมกับ "ซึสึมิ" แมวคู่ใจ เพื่อเปิดคาเฟ่นอกสถานที่ชื่อว่า "แมวหลง"
ความพิเศษของคาเฟ่นี้คือ ไม่ได้เสิร์ฟแต่ชาและขนมท้องถิ่นแค่ให้ลูกค้าอิ่มท้อง แต่ยังใช้ชาเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงกับผู้คนที่พบเจอระหว่างทาง และมีบริการพยากรณ์ด้วยไพ่ทาโรต์ พร้อมทั้งเล่าเกร็ดตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับชาให้ผู้มาเยือนรู้สึกอิ่มใจด้วย นอกจากเรื่องราวอบอุ่นในเล่ม เราจะได้สัมผัสบรรยากาศและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นผ่านชา ผ่านขนม ผ่านเรื่องเล่าที่ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเราได้รับการเยียวยาใจไปด้วยเลยค่ะ แล้วก็เชื่อว่าตัวหญิงสาวที่เป็นเจ้าของร้านชาเอง ก็คงค้นพบอะไรบางอย่างด้วยเหมือนกัน
จากชาอุ่น ๆ แสนอร่อย ขอพาเพื่อน ๆ มาจิบเครื่องดื่มเย็นชื่นใจที่ "บาร์หนังสือจากดวงจันทร์" นวนิยายแฟนตาซีที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบาร์ลึกลับที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นในตรอกธรรมดา ๆ ใคร ๆ อาจคิดว่าเป็นบาร์ทั่ว ๆ ไป แต่เมื่อได้ก้าวเท้าเข้าไป จะพบกับบรรยากาศร้านที่อบอวลไปด้วยแสงไฟสีเหลืองนวลอบอุ่น มีขวดเครื่องดื่มหลากขนาด หลายรูปทรง สีสันฉูดฉาดเรียงรายอยู่ และหลังเคาน์เตอร์ก็คือบาร์เทนเดอร์ผมสีครามและพนักงานเสิร์ฟสาวหูกระต่าย นี่ราวกับหลุดมาในโลกแห่งความฝัน แต่ที่นี่ดันมีอยู่จริง ๆ ความบังเอิญกลายเป็นโชคชะตา และเพียงแค่ลองจิบเครื่องดื่มที่เป็นชะตาลิขิตของลูกค้า เรื่องน่าอัศจรรย์ที่ก้าวข้ามข้อจำกัดของห้วงมิติเวลาก็บังเกิดขึ้น
ชอบที่เล่มนี้ แม้จะเปิดโลกความเป็นแฟนตาซี แต่ที่จริงมันพาทั้งตัวละครและนักอ่านเปิดประตูบานหนึ่งเข้าไปสำรวจความฝัน และเส้นทางที่อาจเคยถูกละทิ้งหรือเคยพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย ในขณะที่ประตูบางบาน ก็ทำให้ใครบางคนได้พบเจอใครบางคน หรือเหตุการณ์บางอย่างที่คาดไม่ถึงได้
จากความเปรี้ยวหวานซาบซ่าของเครื่องดื่มหลากสี เราจะพาเพื่อน ๆ กลับมาดำดิ่งความเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง กับวรรณกรรมคลาสสิก "ชายเฒ่ากลางทะเลลึก" หรือ "The Old Man and the Sea" ผลงานชิ้นเอกของเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ที่เล่าเรื่องราวของซานดิอาโก ชายชราชาวประมงผู้เผชิญกับความโชคร้ายในการหาปลา เขาออกทะเลมาแล้ว 84 วันโดยไม่ได้ปลาสักตัว แต่ด้วยจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ จึงตัดสินใจออกทะเลอีกครั้งเพียงลำพัง และได้พบกับปลามาร์ลินยักษ์ การต่อสู้ระหว่างชายชราและปลายักษ์กินเวลาหลายวัน ท้ายที่สุดความพยายามทั้งหมดจะทำให้ซานดิอาโกเอาชนะปลายักษ์ตัวนี้ได้ไหม ไปลุ้นคำตอบกันในเล่มค่ะ แต่มากกว่าเรื่องราวการผจญภัย คือการที่หนังสือเล่มนี้ช่วยย้ำเตือนถึงพลังของความอดทน การยืนหยัดต่อสู้กับโชคชะตา และความไม่ยอมแพ้ของมนุษย์ มาผจญภัยไปพร้อมๆ กับชายเฒ่ากลางทะเลกันนะคะ
เวลาเราแหงนมองท้องฟ้าอย่างใจลอย บางครั้งคำตอบของชีวิตก็ซ่อนอยู่บนนั้น อาจเป็นในก้อนเมฆที่ลอยผ่าน ภายใต้แสงจันทร์เหลืองนวล หรือบนผืนฟ้ากว้างไร้ดาว
เห็นปกน่ารัก ๆ แต่ "แค่แหงนมองฟ้า เทพยดาก็จะปรากฏ" เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องเรียบง่ายให้ลึกซึ้งได้อย่างที่คาดไม่ถึงเลยค่ะ น่าสนใจตรงที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการปรากฏตัวของเทพเจ้าในชีวิตประจำวันของมนุษย์ ซึ่งตามความเชื่อของญี่ปุ่น มีเทพเจ้าถึงแปดล้านองค์!!! ที่ไปปรากฏตัวในรูปแบบต่าง ๆ หรือแฝงตัวอยู่ที่ไหนสักที่โดยที่เราไม่มีทางรู้เลย เทพเจ้าอาจเป็นชายหนุ่มรูปหล่อในบาร์ อาจเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งของใช้ในบ้าน และบางทีปาฏิหาริย์ก็มาในรูปแบบที่เราเองก็คาดไม่ถึงเลย
เป็นเล่มที่นอกจากจะสนุกและเส้นเรื่องน่าสนใจ ทำให้ได้เห็นความงดงามของชีวิต ยังเป็นเล่มที่ส่งข้อความตรงมาถึงคนอ่านด้วยว่า ไม่ว่าตอนนี้ชีวิตจะเผชิญกับอะไรอยู่ เราจะผ่านพ้นมันไปได้เสมอ ขอให้ลองแหงนมองขึ้นไปบนฟ้า เทพเจ้าอาจอยู่บนนั้น หรืออยู่รอบ ๆ ตัวเรา คอยอำนวยอวยพรและมอบพลังให้เราไม่ว่าในวันที่สุขหรือทุกข์ก็ตาม
เล่มนี้เป็นเล่มที่ทำให้นึกถึงกลิ่นหอมของผ้าที่พึ่งซัก และตากแดดจัด ๆ เพราะเป็นเรื่องเล่าจากร้านซักผ้าที่แค่อ่านคำโปรยก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกแล้วค่ะ เขาบอกไว้ว่า หากคราบบนเสื้อผ้าชำระให้สะอาดเอี่ยมได้ด้วยการซักล้าง เรื่องราวที่ทับถมอยู่ในใจจนกลายเป็นคราบฝังแน่นก็อาจชำระออกได้ด้วยการระบายให้ใครสักคนฟัง
“ไดอารีของคนแปลกหน้าในร้านซักผ้าย่านย็อนนัม” เรื่องเล่าหลากชีวิตของผู้ที่มาใช้บริการ ร้านซักผ้า 'บิงกุลบิงกุล' ในย่านย็อนนัมดง กรุงโซล โดยมีจุดเชื่อมโยงคือไดอารีสีเขียวที่วางอยู่ในร้านซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนเขียนความในใจของตนเองลงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของคุณตาจาง ชายชราที่ถูกลูกชายรบเร้าให้ขายบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำ, มีรา หญิงสาวที่อ่อนล้าจากบทบาทภรรยาและแม่, ยอรึม ผู้ช่วยนักเขียนบทละครที่ยังไม่เคยได้รับโอกาสเป็นนักเขียนบทละครตัวจริง, ฮาจุน ศิลปินที่พยายามอย่างหนักเพื่อให้เป็นที่รู้จักในฐานะนักร้อง, ยอนอู ชายหนุ่มที่เพิ่งเลิกรากับคนรักกะทันหัน, แจยอล ผู้สูญเสียน้องชายเพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และจางแดจู ศัลยแพทย์ที่ดิ้นรนหาเงินเพื่อให้ลูกชายมีชีวิตที่ดี
พล็อตเล่มนี้แม้จะดูเป็นเรื่องราวธรรมดาแต่น่าสนใจมาก มันทำให้เราอยากติดตามไปจนจบว่าท้ายที่สุดแล้ว คราบสกปรกที่ฝังลึกในใจของคนทุกคน จะถูกขจัดออกไปได้สำเร็จไหมนะ
จากร้านซักผ้า พามาติดเกาะกันกับเรื่อง "เกาะซ่อมฝันแห่งวันพรุ่งนี้" เป็นนวนิยายที่เล่าเรื่องราวของ "คาวาชิมะ ยูโตะ" เด็กชายผู้มีความฝันอยากเป็นหมอเหมือนอา แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่โรงยิม ทำให้รู้สึกผิดและสูญเสียความมั่นใจไป ยูโตะจึงย้ายไปอยู่กับอาบนเกาะห่างไกลจากฮอกไกโด และที่นั่นเองที่เขาได้พบกับผู้คนและสถานที่ที่ช่วยเยียวยาจิตใจ ทำให้ได้ค้นพบความหมายของการให้อภัยตัวเองและก้าวเดินต่อไปอีกครั้ง
อ่านไปแล้วก็สะท้อนกับชีวิตความเป็นจริงได้ดีค่ะ “อดีตทั้งที่สมหวังและผิดพลาด เป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว” ใครที่กำลังรู้สึกผิดหรือคิดวนซ้ำ ๆ กับเรื่องในอดีต อยากจะมูฟออนให้ได้สักที เล่มนี้จะเป็นอีกแรงบันดาลใจที่ทำให้เราก้าวข้ามผ่านความยากลำบากนั้นไปได้ด้วยความหวัง
พามาปิดท้ายทริปซัมเมอร์กันที่อควาเรียม กับ "อควาเรียมสำหรับคน หมึก และสิ่งของ" นิยายอบอุ่นหัวใจ (อีกแล้ว) ที่สร้างความประทับใจจนกวาดยอดขายทั่วโลกไปแล้วกว่าหนึ่งล้านเล่ม ว่าด้วยเรื่องราวของโทวา ซุลลิแวน หญิงวัยเกษียณที่ทำงานทำความสะอาดในอควาเรียม หลังจากสูญเสียลูกชายไปในทะเลเมื่อ 30 ปีก่อน โทวาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและสันโดษ และการทำงานที่อควาเรียมแห่งนี้ทำให้เธอได้พบกับมาร์เซลลัส หมึกยักษ์แปซิฟิกที่มีความเฉลียวฉลาดและมีมุมมองต่อโลกที่แตกต่างไป
ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าคนจะเป็นเพื่อนกับปลาหมึกได้ และที่มากไปกว่านั้น มิตรภาพที่ไม่คาดคิดระหว่างมนุษย์และหมึกยักษ์นี้เอง จะนำพาไปสู่การค้นพบความจริงบางอย่างที่ซุลลิแวนตามหามานาน ความน่าสนใจของเล่มนี้คือการเล่าผ่านมุมมองของหมึกยักษ์ค่ะ แปลกใหม่และดูน่ารักดี เป็นหนังสือฮีลใจอีกเล่มที่คอนเฟิร์มว่าควรอ่านสุด ๆ
จบกันไปกับลิสต์หนังสือที่เหมาะสำหรับพกไปอ่านชิลล์ริมทะเล ตอนนี้เพื่อน ๆ ชาว B2S Club คงวางแพลนกันแล้วแน่ ๆ ว่าทริปทะเลครั้งหน้าจะแพ็กหนังสือเล่มไหนไปอ่านด้วยดี
การได้นั่งอ่านหนังสือ พร้อมกับฟังเสียงคลื่น รับลมและกลิ่นไอจากทะเลไปด้วย มันคือเดอะเบสต์จริง ๆ และคงจะเป็นลิสต์ทูดูอย่างนึงของชาวหนอนหนังสือที่ต้องเช็กลิสต์ให้ได้ หวังว่าทั้ง 7 เล่ม ที่ไม่ว่าจะเป็นนิยายอบอุ่นหัวใจที่ช่วยปลอบโยนเราในวันที่เหนื่อยล้า เรื่องราวแฟนตาซีที่พาเราหลุดไปในอีกโลก หรือวรรณกรรมคลาสสิกที่ชวนให้เราครุ่นคิดถึงความหมายของชีวิต เป็นเหมือนเพื่อนร่วมทริปที่พร้อมจะออกเดินทางไปด้วยกัน และช่วยเติมพลังใจให้ทริปนี้เป็นอีกทริปที่รีเฟรชและมีความหมายนะคะ
ไปทะเลพักใจเมื่อไหร่ ลองปล่อยใจไปกับเรื่องราวในหนังสือที่อยู่ในมือกันดูค่ะ