ถึงวันเด็กทีไร หลายคนอาจนึกถึงเพลงท่อนนี้ที่คุ้นเคยในความทรงจำ “เด็กเอ๋ย เด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน ~” เพราะเป็นเพลงที่วนกลับมาเปิดทุกปีในวันเด็ก เพื่อเป็นการย้ำเตือน ปลูกฝังให้เด็ก ๆ รู้จักหน้าที่ตัวเอง วันข้างหน้าจะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ แต่แน่ล่ะว่าในสิบข้อนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอะไรอื่นอีกที่เด็ก ๆ สามารถทำเพื่อพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่เก่งขึ้นดีขึ้นต่อไปได้
ถ้าให้เราแนะนำชาว B2S Club ที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ หรือแม้กระทั่งเด็ก ๆ เยาวชนเอง หน้าที่หนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ 10 ข้อในเพลงเด็กเอ๋ยเด็กดีที่ควรจะบ่มเพาะให้เกิดเป็นนิสัย คงหนีไม่พ้น “การอ่านหนังสือ” และเป็นการอ่านหนังสือในแบบที่คนอ่านมีอิสระที่จะเลือกได้ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหนังสือเรียนหรือหนังสือที่เน้นให้ความรู้จริงจังเท่านั้น
วรรณกรรม โดยเฉพาะวรรณกรรมเด็กหรือนิทาน เป็นหนังสือประเภทที่นอกจากจะให้ความบันเทิง ให้ความสนุกกับนักอ่าน ยังช่วยกระตุ้นจินตนาการ บูสต์ความฉลาด เปิดเอเนอร์จี้ให้คิดอย่างสร้างสรรค์ แถมยังช่วยปลูกฝังความคิดให้ตื่นธรรมได้ด้วยตัวเองอีกด้วยนะ เอาละ วันเด็กปีนี้ นอกจากจะปล่อยฟรีให้ลูก ๆ ได้ซื้อของเล่นที่อยากได้ วันนี้ เราอยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาเลือกของเล่นพัฒนาความฉลาดที่จะไม่หมดอายุขัยไปตามกาลเวลาอย่างหนังสือวรรณกรรมเด็กให้กับน้อง ๆ หนู ๆ กันค่ะ
เล่มแรกก็พาน้อง ๆ หนู ๆ มาช่วยกันลุ้นไปกับตัวละครในเรื่อง "แม่มดน้อย" กันเลย มันน่าตื่นเต้นตรงที่เล่มนี้เป็นเรื่องราวของเศรษฐีหมื่นล้านที่ทิ้งพินัยกรรมไว้ให้หลานชาย แต่มันค่อนข้างจะแปลกตรงที่ในนั้นระบุไว้ว่าหลานชายของเขาต้องแต่งงานกับแม่มดภายในหนึ่งปีกับอีกหนึ่งเดือนถึงจะได้สมบัติทั้งหมดของปู่ แต่แม่มดมีอยู่จริงที่ไหนกัน? แล้วจะไปตามหาแม่มดได้ที่ไหน
เรียกได้ว่าแทบจะเป็นตลกร้าย แต่ในที่สุดชายหนุ่มก็เจอกับแม่มดตัวจริงจนได้ แม่มดที่ขี่ไม้กวาดเหาะได้เหมือนอย่างในนิทาน แถมยังมีนกแก้วกับแมวน้อยผู้พิทักษ์ด้วย จะติดก็ตรงที่แม่มดนางนี้ เธออายุไม่ถึงขวบน่ะสิ แน่นอนว่ายังไงก็แต่งงานด้วยไม่ได้ แต่มรดกล่ะ! มรดกชวนฝันจะตกเป็นของใคร ระหว่างทางจะฮาจะปั่นป่วนขนาดไหน บทสรุปจะลงเอยยังไง ต้องไปติดตามกันในเล่มค่ะ
บอกได้เลยว่าเล่มนี้ไม่ธรรมดา เพราะไม่ใช่แค่นิทานสำหรับเด็กเท่านั้น แต่เนื้อหายังแตะไปถึงใจของผู้ใหญ่ได้ลึกซึ้งมาก ๆ ด้วย “แมวน้อย 100 หมื่นชาติ” เป็นเรื่องราวของแมวน้อยตัวหนึ่งที่เกิดเป็นแมวมาแล้วร้อยหมื่นชาติ ทุกชาติมันมีเจ้าของที่รักมัน และเจ้าของทุกคนร้องไห้ฟูมฟายเมื่อมันตาย แต่ตัวมันเองไม่เคยร้องไห้เลย ไม่เคยมีความรู้สึกที่เรียกว่ารักกับใครเลย จนกระทั่งมาเกิดในชาตินี้ ชาติที่มันเป็นแมวข้างถนนไร้เจ้าของ มันรักตัวเองมาก แต่เมื่อได้อยู่กับแมวน้อย มันกลับรักแมวขาวและลูก ๆ มากกว่าตัวเอง จนเมื่อแมวขาวตาย มันร้องไห้เป็นครั้งแรก แล้วก็ไม่กลับมาเกิดอีกเลย
ทุกคนคงมีคำถามในใจตั้งแต่อ่านชื่อเรื่องและเรื่องย่อแล้วละว่า ทำไมแมวตัวนี้ต้องมาเกิดร้อยหมื่นชาติ แถมทุกชาติก็ยังเกิดเป็นแมวเท่านั้น แล้วทำไมชาตินี้ถึงตายแล้วไม่กลับมาเกิดอีก มีเพียงนักอ่านเท่านั้นที่จะรู้คำตอบนั้น โดยเฉพาะนักอ่านที่เป็นผู้ใหญ่ค่ะ
เล่มนี้เป็นเล่มฮิตตลอดกาลที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ควรได้อ่าน “โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง”เป็นวรรณกรรมที่เล่าถึงเรื่องราวของเด็กหญิงโต๊ะโตจังที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนตอนอยู่ชั้นประถมฯ หนึ่ง เพียงเพราะโต๊ะโตะจังซุกซนตามประสา ทำให้ถูกลงโทษอยู่บ่อยครั้ง จนในที่สุดก็ถูกไล่ออก แม่ของโต๊ะโตะจังจึงพาเธอไปโรงเรียนใหม่ ซึ่งเธอตื่นเต้นมากเป็นพิเศษเพราะโรงเรียนใหม่แห่งนี้เป็นตู้รถไฟที่ไม่ได้ใช้แล้ว โต๊ะโตะจังคิดว่าโรงเรียนนี้แปลกดี แต่ก็สัญญาว่าจะไม่ยอมขาดเรียนอย่างเด็ดขาด เรื่องราวจะพลิกผันและอบอุ่นหัวใจยังไงบ้าง ต้องลองอ่านในเล่มค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าทุกคนจะตระหนักรู้ได้อย่างแน่นอนก็คือ จินตนาการสำคัญพอ ๆ กับความรู้ และความเมตตาไม่ว่าจะกับเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน
เด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านเพลินเลยค่ะเล่มนี้ “ป้าอะมีเลีย คุณป้าไม่ธรรมดา” กับเรื่องราวของพ่อแม่สุดเนี้ยบคู่หนึ่งที่เป๊ะมากเรื่องการจัดสรรกิจกรรมพัฒนาการต่าง ๆ ให้ลูก วันหนึ่งจำเป็นต้องหาพี่เลี้ยงมาดูแลเด็ก ๆ (แต่เด็ก ๆ ไม่อยากได้พี่เลี้ยง) เลยได้ป้าอะมีเลียนี่แหละมาช่วยเลี้ยงเด็กให้ชั่วคราว แต่ใครจะรู้ว่าเธอไม่ใช่ป้าธรรมดา ๆ
กฎระเบียบทุกข้อที่พ่อแม่วางไว้ คุณป้าคนนี้ปฏิบัติตามครบเป๊ะ แต่แน่นอนว่าวิธีการต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ถึงขนาดที่ว่าเด็ก ๆ สนุกและติดใจเอามากๆ ทำงานบ้านก็สนุก กินก็สนุก จะทำอะไรก็สนุก มันเป็นอย่างนั้นได้ยังไงกันนะ
เรื่องนี้เรียกได้ว่าปลุกความกล้าหาญที่ซ่อนอยู่ในใจนักอ่านให้ตื่นขึ้นได้ไม่มากก็น้อยเลยค่ะ เพิ่มเติมคือถ้าคุณโตมากแล้ว ตอนที่อ่านอาจได้ย้อนเวลากลับไปแตะความทรงจำเมื่อครั้งยังเด็กอีกหนด้วย กับเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่เล่าย้อนรำลึกไปถึงการผจญภัยในฤดูร้อนกับเพื่อนรักเมื่อครั้งอยู่ชั้นประถม สามเกลอที่รวมตัวกันแล้วก็เป็นกลุ่มเด็กธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่ครั้งหนึ่งกลับได้พลิกบทบาทมาเป็นอัศวิน ช่วยตามหาคนร้ายตัวจริงที่ก่อคดีฆาตกรรมเด็กผู้หญิงในย่าน ๆ หนึ่ง
นอกจากจะชวนลุ้นว่าเด็ก ๆ เข้าไปเกี่ยวพันกับคดีฆาตกรรมได้ยังไง บทสรุป ณ ตอนนั้นจบลงแบบไหน เราชอบที่หนังสือเล่มนี้สื่อสารกับคนอ่านอย่างตรงไปตรงมาเหมือนอย่างประโยคในคำโปรยปกที่บอกว่า “ทุกคนต่างมีเมล็ดพันธุ์แห่งความกล้าหาญอยู่ และคนที่จะดูแลเมล็ดพันธุ์นั้นให้เติบโตขึ้นได้ก็คือตัวเราเอง” ซึ่งหนังสือเล่มนี้เอง ก็ช่วยชี้ให้เราเห็นเมล็ดพันธุ์แห่งความกล้าหาญนั้น ในตัวเราด้วยเช่นกัน เห็นแค่ชื่อเรื่องกับปก บอกเลยว่าอย่ามองข้ามไปเด็ดขาด ต้องลองอ่านจริง ๆ ค่ะ
“มหัศจรรย์สวนเวทมนตร์” เรื่องราวของจาเรตต์ เด็กน้อยที่ต้องเดินทางตามพ่อแม่ไปแสดงดนตรีทั่วโลก จู่ ๆ เธอก็ได้รับจดหมายที่จ่าหน้าถึงเธอโดยเฉพาะ โดยในจดหมายสุดพิเศษฉบับนั้นระบุว่า เธอมีสิทธิ์ได้รับมรดกจากบรรพบุรุษของเธอ นั่นคือคฤหาสน์โทแพซ ซึ่งเป็นบ้านที่แม่มดสมุนไพรโทแพซเคยอาศัยอยู่เมื่อนานมาแล้ว
แต่ก่อนที่จาเรตต์จะได้ครอบครองคฤหาสน์ เธอต้องทำภารกิจให้สำเร็จสองข้อ หนึ่งคืออาศัยอยู่ที่คฤหาสน์โทแพซให้ครบ 1 สัปดาห์ และสอง เธอต้องทำให้คฤหาสน์โทแพซถูกใจเธอ จะเป็นไปได้ยังไงกันนะที่จะทำให้คฤหาสน์ที่ไม่มีชีวิตมาถูกใจเธอได้ หรือว่าที่นั่นจะมีมนตร์วิเศษบางอย่างซ่อนอยู่ ตามไปไขปริศนาลึกลับที่ซุกซ่อนอยู่ในคฤหาสน์โทแพซกันได้ในเล่มเลยค่ะ บอกเลยว่าสนุก ชวนลุ้นทุกหน้า ตอนนี้มีออกมาให้ตามอ่านกัน 3 เล่มแล้วนะคะ
เห็นแค่ภาพปกกับชื่อเรื่องก็ทำเอาจ๋อยหน่อย ๆ แต่เชื่อว่าเล่มนี้จะสอนอะไรกับเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ได้แน่นอน “แค่ลืมไว้” เล่าเรื่องราวของมินะจัง เด็กหญิงที่ไปเที่ยวเล่นในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งกับพ่อแม่ เธอไม่ลืมที่จะพาตุ๊กตาแกะตัวโปรดไปด้วย แต่จังหวะหนึ่งที่เด็กหญิงวางเจ้าแกะลงบนม้านั่ง เธอละสายตาและผละไปเล่นจนเพลิน ในที่สุดเจ้าแกะก็ถูกลืมไว้ที่สวนสาธารณะ คนเดินผ่านไปผ่านมาก็มองและนึกฉงน ใครกันนะที่ลืมไว้
เวลาล่วงเลยผ่านไป แม้จะถูกอีการุมจิกและตกจากม้านั่ง เจ้าแกะก็ยังเชื่อว่าเด็กหญิงจะกลับมารับมัน แต่ท้องฟ้าก็มืดสนิทในที่สุด และฝนก็ตกลงมาในค่ำคืนนั้น เธอจะกลับมารับมันไหมนะ หรือมันจะถูกทิ้งไว้ตรงนั้นตลอดไป
7 วรรณกรรมเด็กที่แนะนำกันในวันนี้ เชื่อว่าหลายคนคงทั้งอยากอ่านเองและอยากให้เด็ก ๆ ได้อ่านด้วยแน่นอน เพราะนอกจากจะอ่านสนุก คนทุกช่วงวัยอ่านได้เพลิน เนื้อหายังสอดแทรกข้อคิดดี ๆ บางเล่มก็ชวนยิ้ม บางเล่มก็ทำให้รู้สึกซึม ๆ บางเล่มก็ชวนตกตะกอนอะไรบางอย่าง แต่นอกเหนือจากความรู้สึก แต่ละเล่มยังเปิดพื้นที่ให้นักอ่านได้ใช้จินตนาการอย่างเต็มที่ และฝึกการใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วย
ถ้ามองหาอะไรสักอย่างที่จะช่วยพัฒนาสมองและพัฒนาความคิดให้กับเด็ก ๆ ไม่ว่าจะด้าน IQ หรือ EQ หนังสือนี่แหละคือคำตอบ เพราะหนังสือเป็นเหมือนประตูไปที่ไหนก็ได้ ประตูวิเศษที่ช่วยให้เราได้ออกไปสำรวจโลกกว้าง แม้จะนั่งอยู่ที่บ้านหรือที่ไหน ๆ ก็ตาม วันเด็กปีนี้ มาเติมความทรงจำดี ๆ ให้เด็ก ๆ ได้เปิดใจกับการอ่าน เรียนรู้ด้วยความสนุก และพัฒนาตัวเองจากสิ่งที่ชอบกันที่ร้านหนังสือ B2S นะคะ