ชาวคลับคนไหนได้ไปร่วมงาน booktalk B2S Club x ARTHIT Time ในรอบที่ผ่านมาแล้วบ้างน้า ยกมือขึ้นสูงๆ หน่อย ขอบอกว่าบรรยากาศภายในงาน booktalk ครั้งนี้ทั้งสนุก อบอุ่น และเป็นกันเองมากๆ ถ้าชาวหนอนคนไหนที่ยังไม่เคยมีโอกาสไปร่วมวงคุยเรื่องหนังสือ ขอแนะนำเลยค่ะว่าห้ามพลาด เราจะได้เปิดประสบการณ์ของเราไปอีกขั้นนึงเลย รวมถึงยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้คนที่ชอบอะไรเหมือน ๆ กัน บอกได้คำเดียวเลยว่าฟินมาก
แต่ใครที่พลาดไปก็ไม่ต้องเสียใจนะคะ เรายังมีกิจกรรมในรอบต่อๆ ไปให้ทุกคนได้มาจอยกันแน่นอน ติดตามรายละเอียดการจัดกิจกรรมได้ทั้งทางเว็บไซต์ B2S club และ facebook B2S Thailand เลย แล้วมาเจอกันน้า
ในบทความนี้ เราเลยตั้งใจจะมารีวิวหนังสือแนวสืบสวนสอบสวน ลึกลับ สยองขวัญ ที่ถูกพูดถึงใน bookclub ครั้งนี้มาให้ชาวคลับได้อ่านกัน เผื่อว่าจะได้นำไปพิจารณา (และยอมโดนป้ายยาซะดี ๆ) โดยเราขอเลือกเป็นเล่มที่คิดว่าเด็ดว่าดี มารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย
เป็นอีกเล่มที่ขึ้นชื่อว่าโหด มัน แต่ฮาไม่ออกเพราะความโรคจิตของฆาตกรในเรื่องนามว่า ลูเชียน เล่มนี้เป็นหนึ่งในเล่มขึ้นชื่อจากซีรีส์ Robert Hunter เขียนโดย Chris Carter ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์น้ำพุนั่นเองค่า เนื้อเรื่องคือ ลูเชียนแหกคุกออกมาเพื่อสานต่อการฆาตกรรมของตัวเอง โดยมีเป้าหมายเป็นการท้าทายคุณตำรวจโรเบิร์ตนั่นเอง เพราะว่าทั้งคู่เคยเป็นรูมเมทกันมาก่อนสมัยมหาลัย แต่เวลาผ่านไป คนนึงกลายเป็นตำรวจ ส่วนอีกคนกลายเป็นฆาตกรตัวเป้งที่มีความอันตรายระดับชาติ สำหรับเรื่องนี้ ส่วนตัวเราเป็นติ่งหนังสือชุดนี้อยู่แล้ว เลยอยากป้ายยาอย่างหนักว่า ถ้าใครชอบหนังสือสืบสวนที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกว่าคุ้มค่าเวลาอ่าน ก็ต้องเป็นเล่มนี้เลยค่ะ อย่างนึงที่เราชอบมาก ๆ คือสำนวนการแปลที่อ่านแล้วเห็นภาพ ชวนลุ้นตามจนเกร็ง อินไปกับเรื่องสุด ๆ แล้วถ้าเพื่อน ๆ สงสัยว่า ถ้าไม่เคยอ่านเล่มอื่นในซีรีส์นี้มาก่อน จะสามารถอ่านแยกเล่มได้ไหม บอกเลยว่าได้แน่นอนค่ะ แค่ต้องระวังว่าจะติดใจแล้วไปหาเล่มอื่น ๆ มาอ่านเพิ่มแค่นั่นเอง คิคิ
เล่มนี้เป็นการรวม 5 เรื่องสั้นสุดหลอน จาก 5 นักเขียนที่การันตีด้วยรางวัลระดับประเทศ ไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยจะเป็นเรื่องสั้นที่สะท้อนความเชื่อ เรื่องเล่า และตำนานอันลี้ลับของตะเกียบได้อย่างน่าสะพรึงกลัวและเหนือจินตนาการ สำหรับเรา คิดว่าเหมาะมากสำหรับใครที่ชอบเรื่องขนหัวลุกหรือตำนานพื้นบ้านอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เพราะเค้าสามารถนำเสนอความเชื่อของชาวเอเชียที่มีวิถีชีวิต ความผูกพันธ์กับตะเกียบอย่างยาวนานออกมาได้อย่างน่าทึ่ง อ่านก่อนนอนต้องมีหลอนกันบ้างล่ะ และถึงแม้ว่าเล่มนี้จะหนา แต่ขอการันตีเลยว่า อ่านเพลินจนรู้ตัวอีกทีก็พลิกถึงหน้าสุดท้ายของเล่มเลย ขอแอบกระซิบว่า เป็นหนึ่งในเล่มขายดีของสำนักพิมพ์ bibli’ ในงานหนังสือรอบที่ผ่านมาด้วยนะ
ศาสตราจารย์โคโช และลูกศิษย์ ได้เดินทางมาที่เกาะเอจิมะเพื่อศึกษาวิจัยตํานานเรื่องยักษ์สีน้ำเงินเมื่อ 100 ปีก่อน ที่เล่ากันว่า ออกมาอาละวาดฆ่าผู้คนในหมู่บ้านไปเกือบทั้งหมด สร้างความหวาดผวาให้กับคนบนเกาะ ชาวบ้านเลยทำพิธีกรรม “ถอดกระดูก” เมื่อมีคนตายเกิดขึ้น ซึ่งผู้รับหน้าที่นี้ต้องเป็นเด็กสาวอายุไม่เกิน 18 ปีเท่านั้น
ศาสตรจารย์พยายามสืบค้นข้อมูลจนเจอเรื่องประหลาดของเด็กสาวที่ทําหน้าที่ "ถอดกระดูก" ทําให้เขามุ่งมั่นที่จะเปิดโปงเรื่องประหลาดนี้ เราชอบเล่มนี้ที่แม้จะเป็นเรื่องสยองขวัญ แต่ยังคงตั้งอยู่บนความจริงอิงวิทยาศาสตร์ จะมีความแฟนตาซีนิดๆ ผสมไปกับการสืบสวน ถือว่าแปลกใหม่และน่าสนใจมากๆ ถ้าใครอยากรู้ว่าการถอดกระดูกคืออะไร ก็ต้องไปตำเล่มนี้มาอ่านด่วน
เรื่องราวในเล่มเกิดขึ้นเมื่อปี 1999 ที่ร้านเช่าวิดีโอในเมืองเล็กๆ ของรัฐนิวเจอร์ซีย์ มีคนร้ายคลั่ง ใช้มีดบุกเข้าทำร้ายพนักงานสี่คนตอน 4 ทุ่ม และมีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวคือ เอลลา จากนั้น 15 ปีต่อมา เหตุการณ์ซ้ำรอยที่ร้านไอศกรีมในเมืองเดิม พนักงาน 4 คนโดนทำร้ายจมกองเลือดตอนเที่ยงคืน เจสซี เป็นเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต พวกเธอต่างเข้าใจว่าตัวเองแค่โชคร้ายจนกระทั่งทั้งคู่ได้มาเจอกัน ถึงรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ได้บังเอิญเลย เพราะคำที่คนร้ายกระซิบข้างหูของทั้งคู่นั้นเป็นคำเดียวกัน
เล่มนี้ก็เป็นหนังสือสืบสวนอีกเล่มที่ขายดีจากสำนักพิมพ์น้ำพุในงานหนังสือเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา sold out ไปหลายรอบมาก (เราเองก็เป็นหนึ่งในคนที่พลาด เพิ่งจะได้มีโอกาสอ่าน ฮ่า ๆ) ส่วนตัวเราอ่านแล้วก็ไม่ผิดหวังเลย เนื้อเรื่องมันชวนให้ติดตามอ่านต่อ มือใหม่หัดอ่านหนังสือแนวนี้ก็อ่านได้สบายๆ ค่ะ เป็นอีกเล่มที่อยากป้ายยาว่าห้ามพลาดเลย
สำหรับเล่มนี้เราโดนตกเพราะปกเลยค่ะ สำนักพิมพ์เลือกทำปกมาได้สวยจึ้งมาก เนื้อเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวผู้เห็นเพื่อนรักเสียชีวิตในสภาพลูกตาระเบิดต่อหน้าต่อตา กับพี่สาวซึ่งสูญเสียน้องชายไปอย่างน่าสยดสยองในแบบเดียวกัน ตัดสินใจร่วมมือกันสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายอันแปลกประหลาดนี้ เล่มนี้เป็นผลงานของนักเขียนคนโปรดเราอีกคนเลยค่ะ นั่นก็คือคุณ โอตสึ อิจิ (ไหน ๆ มีใครเป็นแฟนคลับนักเขียนคนนี้เหมือนเราบ้าง) เป็นเรื่องที่ผสมผสานระหว่างตำนานเมืองกับเรื่องลึกลับในชนบท โดยตัวละครในเรื่องเชื่อว่า การตายในสภาพผิดปกติและน่าสยดสยองมีต้นตอมาจากเรื่องเล่าพิศวงเกี่ยวกับ ‘ชิไรซัง’ หญิงผมดำยาวปรกหน้าผู้มีดวงตาโตผิดธรรมชาติ แต่เรื่องน่าสะพรึงกลัวคือ คนที่รู้จักชื่อของชิไรซังจะต้องตาย สุดท้ายแล้วชิไรซังคือใคร มาร่วมหาคำตอบกันได้ในเล่มเลย
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับหนังสือแนวสืบสวนสอบสวน ลึกลับ สยองขวัญที่เราเลือกมาป้ายยา ถูกใจใครที่กำลังหารีวิวเล่มเหล่านี้อ่านกันอยู่มั้ยน้า สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านหนังสือแนวนี้ ขอบอกเลยว่าต้องลองนะคะ เพราะว่าแต่ละเรื่อง รวมไปถึงลีลาการเขียนของนักเขียนแต่ละท่านก็จะแตกต่างกันไป หากได้ลองสลับอ่านหลาย ๆ เล่มก็จะได้ลองเปิดประสบการณ์การอ่านของเราไปอีกขั้น เผลอ ๆ อาจจะได้กลายมาเป็นสาวกหนังสือสืบสวนเหมือนเราก็ได้
เรื่องเล่าพิสดารของเหล่าเด็กสาวผู้ถอดกระดูก เล่มนี้เห็นรีวิวหลายที่น่าอ่านมาก
0