‘ไม่เห็นสวยเลย’ ‘ร้องไม่เพราะ’ ‘หน้าตลก’ คำแสดงความเกลียดชังเหล่านี้ ไม่ว่าใคร..ก็ไม่สมควรที่จะได้รับมัน ยิ่งสมัยนี้ ทุกคนอยู่หลังแป้นพิมพ์กันซะส่วนใหญ่ จะพิมพ์ จะแสดงความคิดเห็นอะไร ก็ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย แถมยังสามารถปกปิดโปรไฟล์ ทำให้มีความกล้ามากขึ้นที่จะพ่นคำแรงๆ ใส่คนที่ไม่รู้จัก จนทำให้เกิดปัญหา Cyber bullying ขึ้นมาแบบไม่มีพัก
ในวันต่อต้าน Cyber Bullying แบบนี้ B2S CLUB อยากออกมาส่งเสียงอีกครั้งว่า การบูลลี่บนโลกออนไลน์หรือบนโลกอินเทอร์เน็ต ที่เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม แต่การบูลลี่เหล่านั้น ล้วนแล้วแต่สร้างบาดแผลในจิตใจมากมายให้กับใครหลายๆ คน แบบที่ไม่สามารถลบออกได้ง่ายๆ หากลองเอาใจเขามาใส่ใจเราสักนิด จะรู้ว่าสิ่งที่ได้บูลลี่คนอื่นไป ไม่ใช่เรื่องตลกสำหรับคนที่โดนเลย
โดยวันต่อต้านการกลั่นแกล้งทางออนไลน์ หรือ Stop Cyberbullying Day เกิดขึ้นโดยองค์กรไม่แสวงผลกำไรชื่อ Cybersmile Foundation ที่ได้กำหนดให้ทุกวันศุกร์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายน เป็นวันต่อต้านการกลั่นแกล้งทางออนไลน์สากล (ที่มา : กรมกิจการเด็กและเยาวชน, 2566) เพื่อให้ผู้คนในสังคม ได้หันมาให้ความสำคัญกับการบูลลี่ที่ส่งผลกระทบมากมายทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ
กิจกรรมในวันนี้ ผู้คนทั่วโลกล้วนออกมาติด #StopCyberbullyingDay บนโซเชียลมีเดีย ทั้งการให้ความรู้ การรณรงค์ และการสร้างความตระหนักรู้ ว่า “Cyberbullying” หรือ การกลั่นแกล้งผู้อื่นโดยใช้เทคโนโลยี ทั้งบนโซเชียลมีเดีย การเล่นเกม หรือการส่งข้อความ เพื่อสร้างความหวาดกลัว ยั่วโมโห หรือสร้างความอับอายนี้ เป็นผลร้ายแรง และบนโลกใบนี้ไม่ควรมีใครที่สมควรถูกบูลลี่!
Cyber Bullying ถูกแบ่งประเภทออกมาเป็น 7 รูปแบบ คือ
โดยในบทความนี้ นอกจากที่ B2S CLUB จะออกมาชวนให้ Stop Cyber Bullying กันแล้ว ก็อยากจะมาแนะแนวทาง ว่าหากเราเป็นคนหนึ่งที่กำลังเผชิญกับการถูก Cyber Bully เหล่านี้ ควรมีวิธีการจัดการอย่างไร ให้หัวใจยังสตรองอยู่
1.บอกให้หยุด
บางครั้ง การบูลลี่ก็เกิดจากความไม่ตั้งใจ หรือคิดน้อยเกินไปของเพื่อนๆ อาจคิดว่าการพูดหรือทำสิ่งนี้ลงไปไม่ใช่การบูลลี่และไม่ได้ทำให้ใครเกิดบาดแผลทางใจ ดังนั้น วิธีแรกในการรับมือเมื่อถูกเพื่อนๆ บูลลี่คือ การบอกอย่างจริงจังว่าคำพูด หรือการกระทำในลักษณะนี้ เรารู้สึกไม่โอเค รู้สึกเสียใจ และคุยอย่างจริงจังว่าคำพูดหรือการกระทำแบบนี้ มันสร้างบาดแผลให้กับคนอื่นมากมาย ควรที่จะหยุดพูดแล้วทำความเข้าใจความรู้สึกของผู้โดนกระทำใหม่
2.ไม่อ่าน
การพาตัวเองออกจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัด ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่คือการเลี่ยงที่จะทำให้เกิดการปะทะ และลดการเกิดบาดแผลทางจิตใจที่อาจจะตามมา การไม่อ่าน จึงเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจมากขึ้น เพราะ เมื่อเราไม่อ่าน ก็เท่ากับเราไม่เห็นคำบูลลี่เหล่านั้น ไม่สามารถรับรู้ถึงคำพูดทิ่มแทงใจทั้งหลายนั้นได้ และคนที่ชอบบูลลี่ ก็จะรู้สึกว่าไม่ได้รับความสนใจ และหายไปเอง
3.บอกผู้ใหญ่ หรือแจ้งความ
ทางออกที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ คือการบอกให้ผู้ใหญ่รับรู้ หรือการแจ้งความ ให้รับทราบถึงปัญหาการบูลลี่ที่เรากำลังเจออยู่ ให้ทุกคนได้เข้าใจถึงสถานการณณ์ที่เราต้องเจอ ความรู้สึกจากการที่เราถูกบูลลี่ เพื่อหาทางออกและเพื่อเป็นหลักฐานว่า เรากำลังถูกบูลลี่ ข่มขู่ หรือคุกคามจากคนบนโลกออนไลน์ และให้กฎหมายจัดการอย่างเด็ดขาด
4.เก็บหลักฐาน
ข้อนี้สำคัญมากๆ หากเรากำลังเผชิญกับการถูกบูลลี่ เราต้องเก็บหลักฐานไม่ว่าจะเป็น ภาพถ่ายหน้าจอ คลิปเสียง คลิปวิดีโอ เพื่อยืนยันว่าเราถูกบูลลี่จริิง จับคนกระทำผิดให้ได้คาหนัง และนำหลักฐานเหล่านั้นไปใช้ในดำเนินการทางกฎหมายเลย
5.ดูแลสุขภาพจิตของตัวเอง
แน่นอนว่าการบูลลี่ ย่อมส่งผลต่อสุขภาพจิตของคนที่ถูกกระทำแน่นอน โดยทำให้เกิดบาดแผลและความทรงจำอันเลวร้าย จนอาจกลายเป็นปมในอนาคต หรือบางคนอาจจะกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้เลย ดังนั้น หากเพื่อนๆ เป็นหนึ่งคนที่กำลังถูกบูลลี่ อยากให้ทุกคนมีสติรู้เท่าทันความคิด และความรู้สึกของตัวเอง หมั่นดูแลสุขภาพจิตใจของตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะด้วยการฝึกสมาธิ การหากิจกรรมที่ผ่อนคลาย การเล่นสนุก การทำกิจกรรมที่ชอบอย่างดูซีรีส์ หรือการอ่านนิยาย แต่หากรู้สึกว่ากิจกรรมเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น การปรึกษาจิตแพทย์ก็เป็นทางเลือกที่ดีมากๆ เพราะจิตแพทย์มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาที่ดีสุดๆ และช่วยเราหาทางออกได้อย่างแน่นอน
6. คุยกับเพื่อนที่รู้ใจ
การมีเพื่อนที่รู้ใจ หรือกลุ่มเพื่อนที่มีความเข้าอกเข้าใจกัน ช่วยกันรับฟังเรื่องราวต่างๆ จะช่วยเป็นที่ระบายให้เราได้ดีมากๆ ในวันที่เราถูกบูลลี่ การได้ระบายพลังลบ และเติมพลังบวกดีๆ จากคนรอบข้าง จะทำให้เราสามารถผ่านพ้นวันที่รู้สึกเลวร้ายมากๆ ไปได้อย่างแน่นอน หรือลองหันไปหาเซฟโซนอย่างครอบครัวที่รักเราที่สุด จะได้เห็นว่า ยังมีคนหลายคนที่พร้อมซัพพอร์ต และจับมือพาเราก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้
ใครที่ตอนนี้กำลังบูลลี่คนอื่นอยู่ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว อยากขอให้ทุกคนหยุดพฤติกรรมเหล่านั้น เพราะคุณกำลังเป็นคนหนึ่งที่สร้างบาดแผลและปมในจิตใจให้กับอีกคน ไม่น่ารักเลย!
B2S CLUB ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่จะส่งพลังบวกให้กับเพื่อนๆ ทุกคน ที่อาจจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังถูกบูลลี่ มากอดๆ กันนะ ขอให้ผ่านไปได้อย่างสตรอง แน่นอนว่าทุกคนจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน!
นอกจากวิธีดีๆ ในการรับมือ Cyber Bullying วันนี้ B2S CLUB ยังเอาหนังสือ 2 เล่ม ที่มีประเด็นเกี่ยวกับ Cyber Bully อ่านแล้วเปิดโลก ได้การตระหนักรู้ใหม่ๆ เพิ่มอีกขึ้น โดยจะเป็น 2 เล่มที่อ่านง่าย เด็กๆ ก็อ่านได้น้า ชวนเพื่อนๆ มาทำความเข้าใจ Cyber Bully ด้วยกันนะ
1. HARSHTAG #ให้ไซเบอร์บูลลี่จบที่รุ่นเรา
รวม 9 เรื่องสั้นเกี่ยวกับ‘ไซเบอร์บูลลี่’ ถ่ายทอดโดยนักเขียน 10 คน มีตั้งแต่เรื่องการโพสต์รูปน่าอายของคนในครอบครัว การนำรูปผู้อื่นไปใช้เพื่อปลอมตัว การแซว ตำหนิรูปร่างผู้อื่น รวมถึงการสร้างข่าวเท็จเพื่อว่าร้าย ในหนังสือ จะค่อยๆ ทำให้เราได้เห็นโทษของการไซเบอร์บูลลี่คนอื่น ว่าไม่มีอะไรดีเลย และได้สร้างผลเสียมากมายแค่ไหน อ่านจบจะตระหนักรู้ได้ว่า กิจกรรมบางอย่างที่เราไม่เคยคิดว่าเป็นการบูลลี่ แท้จริงแล้ว อาจจะเป็นการบูลลี่ก็ได้ ทำให้หันมาตกตะกอนและระแวดระวังการกระทำของตัวเองมากขึ้น
2. ซูเปอร์คิดส์ เด็กดี ไม่บูลลี่กัน : The Superkids Stop Bullying
เด็กธรรมดาผู้ไม่มีพลังวิเศษคนนี้ จะทำให้เห็นเองว่า แค่เป็นคนดี ไม่บูลลี่ใคร ก็เหมือนเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้ช่วยคนแล้วเพราะในยุคไหนๆ การไม่ไปสร้างบาดแผล ช่วยชุบชูดูแลจิตใจเพื่อนมนุษย์ เป็นสิ่งที่เด็กดีและคนทุกคนนั้นควรทำอย่างยิ่ง โดยในเล่ม เราจะได้เห็นเนื้อเรื่องสนุกๆ สไตล์นิทานเด็ก แต่แฝงข้อคิดให้ผู้ใหญ่แบบเรา มาตระหนักในการกระทำของตัวเองมากขึ้นเลยล่ะ ซึ่งในเล่มนี้ สามารถเปิดอ่านได้ 2 ด้าน ด้านหนึ่งเป็นภาษาไทย อีกด้านหนึ่งเป็นภาษาอังกฤษ สแกน QR Code ฟังเสียงได้ทุกหน้า ตอบโจทย์เด็กๆ ที่อยากฝึกภาษาด้วยนะ
สั่งซื้อหนังสือ ซูเปอร์คิดส์ เด็กดี ไม่บูลลี่กัน : The Superkids Stop Bullying คลิก: