จดยังไง ให้เรียนเก่งขึ้น ? ต้องเทคนิคโน้ตแบบ Cornell !

จดยังไง ให้เรียนเก่งขึ้น ? อยากอัปเกรด อัปคะแนนสอบ อยากท่องหนังสือแล้วจำได้ มา! B2S CLUB ขอแนะนำวิธีนี้!

มาฝึกจดโน้ตด้วยเทคนิคแบบ Cornell ที่จะทำให้ back to school นี้ เพื่อนๆ กลายเป็นคนใหม่ เรียนเก่งแบบไฉไลกว่าเดิม! มาเริ่มกันในช่วงปิดเทอมว่างๆ แบบนี้แหละ เปิดเทอมไป เพื่อนๆ จะได้อึ้ง! ว่าแต่ การจดแบบ cornell มันคืออะไร เดี๋ยวจะพามารู้จักกัน ซึ่งบอกคร่าวๆ ก็คือ การจดแบบนี้ มีมาแล้วกว่า 80 ปี! ฟังไม่ผิดนะ 80 ปี! ถือเป็นตัวช่วยที่จะทำให้การจดของเพื่อนๆ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป และยังมีผลวิจัยรอบรับด้วยว่า การจดด้วยวิธีการนี้ จะทำให้เด็กๆ มีผลการเรียนที่ดีขึ้น

ฟังแค่นี้ก็น่าสนใจแล้วสิ งั้นไปดูกันเลยว่าการจดแบบ Cornell มันจะจึ้ง จะทำถึงแค่ไหน! 

ทำความรู้จักการจดแบบ Cornell 

การจดแบบ Cornell เป็นวิธีการจดที่มามานานกว่า 80 ปี (นานมาก) เป็นการจดแบบรุ่นคุณทวดที่ยังใช้ได้ดีจนถึงทุกวันนี้ ด้วยการแบ่งพื้นที่กระดาษออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 

ส่วนที่ 1: คือ ส่วนเนื้อหา 

ส่วนที่ 2: คือส่วน Key Word (คำสำคัญของเนื้อหา ที่จะช่วยให้เวลากลับมาค้นหาเนื้อหาย้อนหลัง เป็นไปได้ง่ายขึ้น) รวมถึงข้อสงสัยที่มีต่อเนื้อหาในส่วนที่ 1 ด้วย 

ส่วนสุดท้าย: คือ ส่วนสรุปประเด็น ทำให้เนื้อหาทั้งหมดรวมอยู่ในหน้ากระดาษแผ่นเดียว ซึ่งหากจดแบบนี้ครบทุกส่วน จะทำให้ชีวิตการเรียนง่ายขึ้นแบบ  4 ง่าย ทั้งจดง่าย อ่านง่าย จำง่าย และหาง่าย!

การจดแบบ Cornell ดีกว่าการจดแบบอื่นยังไง ? 

นอกจากการจดแบบ cornell จะช่วยให้เราได้ทบทวนเนื้อหาที่เรียนมาทั้งหมดแล้วนั้น การจดด้วยวิธีนี้ จะช่วยให้เนื้อหาทั้งหมดของบทเรียนนั้นๆ ถูกสรุปไว้ในหน้าเดียว ง่ายต่อการทบทวน เพราะเรามีการจดคีย์เวิร์ดสำคัญเอาไว้ให้เห็นอย่างชัดเจน ช่วยให้เราประหยัดเวลาไปได้มากเมื่อถึงเวลาใกล้สอบ  ใครที่เป็นสาย One night miracle หรือชอบอ่านก่อนวันสอบ 1 วัน เหมาะมากเลยนะกับวิธีนี้ จำง่าย หาง่าย คว้าเอาคะแนนดีๆ มาง่ายๆ!

How to การจดแบบ Cornell 

วิธีการจด Cornell ทำได้ง่ายๆ ด้วยการแบ่งสัดส่วนหน้ากระดาษออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 

    1. 50% ส่วนตรงกลาง: 

เป็นส่วนที่มีพื้นที่มากที่สุด โดยเป็นการรวบรวมเนื้อหาทั้งหมดไว้ในส่วนนี้ แต่ควรเป็นเนื้อหาที่ผ่านการทำความเข้าใจมาแล้วในระดับหนึ่ง ในส่วนนี้สามารถใช้ไฮท์ไลท์ หรือการทำเครื่องหมายในจุดที่สำคัญเพิ่มเติมได้

    2. 30% ส่วนด้านซ้าย: 

เป็นส่วนที่เอาไว้ระบุคีย์เวิร์ด และข้อสงสัยของเนื้อหา หรือจะทำเป็น Q&A ก็ได้ สำหรับกลับมาอ่านทบทวน หรือไขข้อสงสัยในเนื้อหาบทนั้นๆ 

    3. 20% ส่วนขวาล่าง: 

เป็นส่วนที่เอาไว้สรุปเนื้อหา สั้นๆ กระชับ ได้ใจความ เหมาะสำหรับเวลาเร่งรีบ และไม่มีเวลาอ่านเนื้อหาทั้งหมดก่อนเข้าห้องสอบ ซึ่งส่วนนี้ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนต้องชอบ และมันสำคัญมากๆ เลยล่ะ 

อุปกรณ์การเรียน ตัวช่วยให้การจด Cornell ปังขึ้น

มี How to การจดแล้ว มีอุปกรณ์การเรียนดีๆ หรือยัง ? ถ้ายัง B2S CLUB ขอพาเพื่อนๆ มาเตรียมตัวก่อนเปิดเทอม ต้อนรับ back to school เพราะเปิดเทอมนี้ ต้องปังทั้งการเรียน คะแนน และอุปกรณ์การเรียนด้วยนะ

ขอแนะนำอุปกรณ์เครื่องเขียนเหล่านี้ ให้พร้อมเอาไปจดแบบ Cornell ที่สำคัญตอนนี้ B2S มีโปรฯ 7 ฟรี 1 ด้วยนะ เพื่อนๆ สามารถมาช้อป เตรียมอุปกรณ์การเรียนคละแบบได้ตามใจ ในราคาเบาๆ เลย

1. ปากกาน้ำเงิน 

แนะนำปากกาน้ำเงินให้เลย เพราะปากกาดีๆ มีชัยไปกว่าครึ่งกับการจด หากได้ปากกาที่ลื่นไหล จะช่วยให้สมองลื่นปรื๊ด การจดไม่สะดุด แถมสนุกขึ้นหลายเท่า เพราะฉะนั้น มาเลือกช้อปปากกาที่ B2S การันตีคุณภาพในราคาปังๆ

สั่งซื้อปากกาน้ำเงินออนไลน์ คลิก:

2. ปากกาสีสัน 

ให้การจดโน้ตมีสีสันและไม่น่าเบื่อ มีวิจัยรองรับด้วยว่า หากใช้สีสันในการจด (แบบไม่รกเกินไป) จะช่วยทำให้จำเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น เพื่อนๆ อาจสลับใช้ปากกาน้ำเงิน และปากกาสีสัน เพื่อเน้นส่วนสำคัญก็ได้นะ รับรองว่าปัง!

สั่งซื้อปากกาสีสันออนไลน์ คลิก:

3. ไฮไลท์ 

สีไฮไลท์จึ้งๆ จะช่วยกระตุ้นความจำได้ดีที่สุด มีไว้หลายๆ สีน่ะดี เอาไว้เน้นย้ำข้อความสำคัญมากมายที่ต้องจำให้ได้ หากจะจดแบบ cornell บอกเลยว่า ไฮไลท์เป็นอีกตัวช่วยสำคัญ ที่ทำให้การจดมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สั่งซื้อปากกาไฮไลท์ออนไลน์ คลิก:

4. สมุดโน้ต 

สมุดโน้ตลายน่ารัก ทำให้ความอยากในการจดเพิ่มขึ้นเป็นกอง ลองเลือกแบบที่ถูกใจตัวเอง และที่สำคัญ ต้องเลือกเนื้อกระดาษดีๆ เรียบ ลื่น ไม่บาดมือ (ที่ B2S มีแต่สมุดโน้ตปังๆ เนื้อกระดาษนุ่มๆ รออยู่) จะช่วยให้เราจดได้ฟินมากขึ้น

สั่งซื้อสมุดโน้ตออนไลน์ คลิก:

และนี่ก็คือเทคนิคการจดยังไง ให้เรียนเก่งขึ้น ที่ B2S CLUB เอามาฝากกัน ใครอยากลองหาวิธีจดแบบใหม่ๆ ช่วยอัปเกรด อัปคะแนนให้ปัง ต้องลองวิธี Cornell นี้เลย ขอให้ back to school นี้ มีแต่ความสนุกนะเพื่อนๆ : )