“บ้าน” ในความหมายที่คุณเคยรู้จัก อาจหมายถึงสิ่งปลูกสร้างหลังหนึ่งที่มีพื้น ประตู ผนัง หลังคา แต่เมื่อคุณเปิดประตูของ Trendy Gallery แล้วพบกับ Art Exhibition เดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทยของ KENZ ความหมายของคำว่า “บ้าน” ของคุณ...อาจเปลี่ยนไป
“TIME TO GO HOME” นิทรรศการศิลปะเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทยของ KENZ หรือ กฤษณ์พันธ์ สุวรรณวัฒนาสุข ศิลปินผู้มองว่าศิลปะ คือตัวกลางที่ช่วยให้ก้าวข้ามผ่านความเป็นจริง โดยจะสะท้อนผ่านผลงานที่ละเอียด ปรานีต พลิ้วไหวและมีชีวิตชีวา ซึ่งงานที่เขาจัดแสดงนี้ มาในสไตล์ที่นิยามว่า “Kinetic Figurative Art” นำเสนอทั้งงาน Painting, Sculpture และ Product ที่เป็น Collaboration กับ Carnival โดยงานนิทรรศกาลครั้งนี้ได้จัดแสดงอยู่ที่ River City Bangkok
ต้องบอกว่า หลังจากที่เราเดินผ่านประตูของ Trendy Gallery เข้ามาแล้ว ก็จะได้พบกับความตระการตาของโลกอีกใบที่สดใสกว่าโลกข้างนอก ความประทับใจแรกที่เห็นคือ ผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยสีสันมากมายเรียงรายอยู่ โดยศิลปะเหล่านี้ จะทำหน้าที่พาคุณกลับไปยังบ้านที่คิดถึง และพาชมเรื่องราวความหมายของคำว่า “บ้าน” ในหลากหลายมิติ
บ้าน...ที่ไม่ได้หมายถึงแค่สิ่งปลูกสร้าง แต่หมายถึงผู้คน สถานที่ สิ่งของ หรืออะไรก็ตามที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น สบายใจ ทำให้เรารู้สึกมีตัวตน และรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของตัวเองอย่างกระจ่างชัด ดังนั้น ในงานนี้ เราจะได้เห็นงานศิลปะหลายรูป หลายเรื่องราว ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมหรือสิ่งของ ที่อาจทำให้เราหวนนึกถึงความอุ่นใจเหมือนได้อยู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นเป็ดยางของเล่นในความทรงจำ ห้องน้ำที่บ้านของใครหลายคน ไอศกรีมรสโปรด หรือกีฬาที่รักอย่างฟุตบอล
ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า บ้านในความหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะช่วงวัยและวันเวลาที่ผ่านไป ทำให้เราได้สร้างบ้านหลังใหม่เพิ่มขึ้นระหว่างทางทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจนั่นเอง
ไม่ว่าวันนี้ คุณจะอยู่ห่างจากสิ่งปลูกสร้างที่เรียกว่าบ้านไปไกลแค่ไหน แต่ถ้าคุณมีสิ่งที่อุ่นใจ สบายใจ บ้านในความหมายใหม่นี้ก็จะอยู่ใกล้กับเราเสมอ เพราะอย่างน้อย...แค่ได้คิดถึงให้ใกล้ชิดทางความคิด ก็ได้ชุบชีวิตและจิตใจให้สดใสขึ้น เหมือนได้กลับไปยังบ้านที่คุ้นเคยแล้ว
หากใครอยากกลับบ้าน หรือตามหาบ้านในความหมายของตัวเอง มาเยี่ยมชมนิทรรศกาล TIME TO GO HOME ได้ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. – 30 พ.ย. ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ที่ Trendy Gallery ชั้น 2 River City Bangkok
แต่ระหว่างที่คุณจะไปชมนิทรรศกาลงานอาร์ตในครั้งนี้ เราอยากชวนคุณมาหาหนังสือน่าอ่าน เกี่ยวกับเรื่องบ้านในอุดมคติจากร้านหนังสือใกล้บ้าน เพื่อมอบมุมมองเกี่ยวกับคำว่า “บ้าน” ที่อาจจะทำให้คุณเดินชมงานอาร์ตครั้งนี้ได้อินขึ้น มีหนังสือเล่มไหนที่ B2S CLUB อยากแนะนำ ไปดูกันเลย!
นวนิยายฟีลกู้ด ที่เปรียบบ้านข้ามเวลาหลังนี้เสมือน Comfort Zone นำเสนอเรื่องราวของเด็กๆ ที่ถูกคัดเลือกทั้ง 4 คน ซึ่งก็มีความต้องการพื้นที่ที่จะสามารถพักใจให้สงบและรู้สึกปลอดภัยในพื้นที่นั้นได้ หนังสือเล่มนี้ เป็นแนวสบายๆ ที่อ่านได้เรื่อยๆ แต่ก็สามารถช่วยปลุกพลังใจ เสริมแรงใจชีวิตให้กับบรรดาหนุ่มสาว มอบความหวัง ความฝัน แรงบันดาลใจ รอยยิ้ม และหยาดน้ำตา หลอมรวมทุกความรู้สึกอย่างกลมกล่อมอยู่ในบ้านมหัศจรรย์หลังนี้แล้ว
วรรณกรรมคลาสสิกสมัยใหม่ของ Chicano การันตีคุณภาพด้วยยอดขายมากกว่า 6 ล้านเล่ม และได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ มากกว่า 20 ภาษา และเป็นเล่มที่จำเป็นต้องอ่านในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วอเมริกา โดยในเล่มนี้ จะเล่าเรื่องราวการเติบโตตลอดช่วงเวลา 1 ปี ของ Esperanza Cordero เด็กหญิงชาวชิคาน่าวัย 12 ปี ที่เมื่อเธอต้องเข้าสู่วัยรุ่น และได้เริ่มเผชิญกับความเป็นจริงของชีวิตในฐานะหญิงสาวในชุมชนยากจน เธอจะรับมืออย่างไร และต้องเจอความลำบากอะไรบ้าง เล่มนี้จะทำให้ได้มองคำว่าบ้านในอีกมิติ ที่อาจไม่ได้มีแค่ความอุ่นใจ แต่เป็นอะไรที่เราจำเป็นต้องเผชิญ
บ้านหลังใหญ่ของหนูตัวเล็ก เป็นนิทานเสริมสร้างทักษะทางสังคม ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่ใช้การเปรียบเปรยที่น่าสนใจ ทำให้เด็กเข้าใจมิติของสังคมและบ้านหลังที่ใหญ่มากขึ้น ซึ่งเนื้อหาของนิทานเล่มนี้ ยังแฝงประเด็นเรื่องของการยอมรับผู้อื่น การไม่แบ่งแยกหรือตัดสินผู้อื่นเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก เหมาะสำหรับเด็กวัยอนุบาลที่ต้องเจอสังคมใหม่ ต้องพบปะผู้คนที่หลากหลายมากขึ้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหานิทานดีๆ สักเล่ม แนะนำเล่มนี้เลย
หนึ่งในหนังสือชุด บ้านเล็ก วรรณกรรมอิงชีวิตจริงของลอร่า อิงกัลล์ส ไวล์เดอร์ นักเขียนหญิงชาวอเมริกันที่อยากบอกเล่าถึงเรื่องราวชีวิตของผู้คนยุคสมัยบุกเบิกของอเมริกา ผ่านสายตาของเด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่อาศัยกับครอบครัวที่อบอุ่น โดยในเรื่อง เราจะได้เห็นความอบอุ่นของครอบครัวลอร่า และได้เห็นความหมายของคำว่าบ้านที่แท้ทรู ที่ถึงแม้พวกเขาจะอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก แต่ก็มีความสุขกับการได้อยู่กันพร้อมหน้า เป็นเรื่องราวที่ทำให้อบอุ่นใจได้ไม่น้อยเลย
“คนที่เก็บกวาดห้องให้เรียบร้อยไม่ได้ คือคนที่มีปัญหาทางใจ” ด้วยความเชื่อเช่นนี้ งานหลักของโทมาริ โอบะ นักจัดบ้านหญิงวัย 54 ปี จึงไม่ใช่การช่วยทำความสะอาดบ้านให้เหล่าลูกค้า แต่เป็นการแนะแนววิธีจัด “เก็บ” หรือเลือก “ทิ้ง” ข้าวของรอบตัว ซึ่งจะส่งผลต่อการเปลี่ยนมุมมองความคิดในการใช้ชีวิตของผู้คนเหล่านั้น เรียกได้ว่าหนังสือเล่มนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณลุกขึ้นมาเก็บกวาดบ้านให้สะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น เพื่อจุดประกาย Passion และไฟบางอย่างในตัวของคุณขึ้นมาอีกครั้ง
หนังสือเล่มนี้ จะมาแนะนำเคล็ดลับการจัดบ้านที่เรียบง่าย ทรงพลัง และมีหลักจิตวิทยารองรับ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้บ้านของคุณหายรกแบบถาวรหลังจากลงมือจัดบ้านแค่ครั้งเดียว แต่ยังช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้นในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่เรื่องการเงิน การเรียน ความสัมพันธ์ ไปจนถึงสุขภาพ แล้วคุณจะพบว่า แค่จัดวางข้าวของในบ้านให้เข้าที่ สิ่งดีๆ ก็จะวิ่งเข้ามาหาคุณอย่างแน่นอน
หนังสือจากปลายปากกา “หนุ่มเมืองจันท์” ที่ทุกเรื่องในเล่มนี้ล้วนเป็น "เรื่องธรรมดา" เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็พบเจอในชีวิตประจำวัน และแทบจะไม่มีเรื่องใดที่น่าจดจำ เพราะมันไม่ใช่ "ความสำเร็จ" ที่ยิ่งใหญ่ หรือ "ความล้มเหลว" ที่เป็นบทเรียนที่จำไม่ลืม แต่ "เรื่องธรรมดา" เหล่านี้ กลับเป็นเรื่องที่เราใช้ "เวลา" ในชีวิตมากที่สุด ถ้าปล่อยให้ผ่านไปก็คงไร้ค่า "หนุ่มเมืองจันท์" ลองปรับมุมมองใหม่ ทำ "เรื่องธรรมดา" ให้มีคุณค่าผสม "กัญชา" ลงไปนิดให้อารมณ์ดี จนกลายเป็น "เรื่องธรรมดาสามัญประจำบ้าน" เล่มนี้ เป็นเล่มที่ต้องมีติดบ้านเลย