“วัยรุ่น” เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาในชีวิตที่หลายๆ คนชอบมากที่สุด เพราะโตพอจะได้มีอิสระ ทำอะไรด้วยตัวเอง ได้แสดงความเป็นตัวเอง ไม่ต้องคอยฟังคำสั่งพ่อแม่เหมือนตอนยังเป็นเด็ก แต่การเป็นวัยรุ่นที่เพิ่งหัดเผชิญโลกก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีหลายเรื่องต้องเรียนรู้ มีอุปสรรคหลายอย่างต้องผ่าฟัน เพื่อก้าวข้ามผ่านไปสู่การเป็นผู้ใหญ่ในอีกไม่กี่ปี
ในทางวิทยาศาสตร์ การเป็นวัยรุ่นหมายถึงการเจริญเติบโตในทุกด้าน ทั้งร่างกายและจิตใจ ในช่วงเวลานี้ อาจมีวัยรุ่นและพ่อแม่ของพวกเขาจำนวนไม่น้อย ที่ต้องเดือดร้อนวุ่นวายใจจากความไม่เข้าใจกัน บ้านที่มีแต่เสียงหัวเราะก็อาจเปลี่ยนเป็นเสียงทะเลาะเบาะแว้งแทน เพราะนอกจากวัยรุ่นต้องเผชิญกับความคาดหวังจากคนรอบข้างมากกว่าสมัยยังเป็นเด็กแล้ว พวกเขายังต้องควบคุมอารมณ์ การแสดงออกทางสังคม พร้อมๆ กับความพยายามในการสร้างตัวตน พ่อแม่ อาจไม่ใช่คนที่พวกเขาต้องการ แต่ “เพื่อน” กลับกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ
การเรียนในระดับมัธยมจะเข้มข้นขึ้น แต่วัยรุ่นกลับเริ่มเบนความสนใจให้กับเรื่องอื่นๆ ที่ตัวเองชื่นชอบมากกว่า เช่น กีฬา เพื่อน ความรัก หรือเกมส์ ทำให้ผลการเรียนแย่ลง ไม่อยากไปโรงเรียน หรือไม่อยากทำการบ้าน บวกกับยังวางแผนอนาคตไม่เป็น อาจส่งผลต่อการเรียนในอนาคตได้
ทางแก้ไขง่ายๆ คือ พ่อแม่หรือวัยรุ่นเอง ต้องพยายามปลูกฝังและบอกตัวเองว่า การเรียนนั้นสำคัญ การเรียนจะทำให้เรามีความรู้มากพออันเป็นพื้นฐานในการต่อยอดทำอาชีพในอนาคต ต่อด้วยการวางแผนการเรียน หาแรงกระตุ้นในการตั้งใจเรียน และค้นหาเป้าหมายของตัวเองให้เจอ ก็จะช่วยให้วัยว้าวุ่นสนใจการเรียนมากขึ้น
2 เรื่องนี้ใกล้เคียงกันมากสำหรับวัยรุ่นที่เพิ่งหัดมีความรัก หลายคนตกหลุมพราง คิดว่าการมีเพศสัมพันธ์จะนำมาซึ่งความรักยั่งยืนแบบเจ้าหญิง เจ้าชาย วัยรุ่นจึงอาจเผชิญปัญหาปวดหัวใจอย่างการอกหัก รักข้างเดียว หรือโดนแย่งความรัก หรือปัญหาใหญ่ๆ อย่างปัญหาคุณแม่วัยใส
การมีความรักในวัยรุ่นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องลำดับเรื่องสำคัญในชีวิตว่า ความรักไม่ใช่เรื่องเดียวที่ต้องทุ่มเท แต่ยังมีการเรียน เป้าหมายในชีวิต รวมถึงความรักจากครอบครัวที่ต้องใส่ใจด้วย ขณะเดียวกัน หากพบปัญหาเรื่องความรัก การหันไปพูดคุยกับพ่อแม่ที่มีประสบการณ์มากกว่า น่าจะช่วยให้ปัญหานั้นเบาลงได้
ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติที่วัยรุ่นชอบแต่งตัว หรือใช้ gadget ต่างๆ จะด้วยความชอบหรือต้องการเป็นที่ยอมรับในหมู่เพื่อนก็ตาม ซึ่งอาจทำให้เผลอใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินตัว เงินประจำที่ได้รับจากพ่อแม่จึงอาจไม่เพียงพอ ทำให้วัยรุ่นเสี่ยงต่อการโดนล่อลวงให้ทำสิ่งผิดกฎหมายได้ง่าย เช่น ยาเสพติด การพนัน เป็นต้น
ทางที่ดีที่สุดคือ การรู้จักบริหารการเงินส่วนตัวให้ดี รู้จักทำรายรับ-รายจ่าย และเตือนตัวเองเสมอว่า ยังหารายได้เองไม่ได้ หรือหาได้น้อยก็ไม่ควรฟุ่มเฟือย ขณะเดียวกัน ลองหางานอดิเรกที่ชอบ ที่ไม่ทำให้เสียการเรียนมาสร้างรายได้ เช่น ร้อยสร้อย หรือวาดรูปขาย รายได้เล็กๆ น้อยๆ ให้นำมาเก็บออม วิธีนี้ น่าจะช่วยเติมเงินในกระเป๋าได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การเป็นวัยรุ่นยังมีหลายอย่างให้เรียนรู้ และต้องการเวลาในการปรับตัว พัฒนาตัวเอง เพื่อให้ผ่านพ้นบทเรียนต่างๆ ในชีวิตไปได้ B2S CLUB ขอแนะนำหนังสือฮาวทูสำหรับวัยว้าวุ่นโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นแนวทางการใช้ชีวิตให้กับวัยรุ่น พ่อๆ แม่ๆ ก็สามารถอ่านได้ เพื่อจะได้เข้าใจความเปลี่ยนแปลงของลูกมากขึ้น จะมีเล่มไหนบ้าง ตามมาดูกันค่ะ
เล่มแรกที่อยากแนะนำ คือหนังสือฮาวทูสำหรับวัยรุ่นที่เขียนโดยจิตแพทย์ชื่อดัง โดยคุณหมอได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพฤติกรรมของวัยรุ่นไว้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่ที่มาที่ไปของพฤติกรรมเหล่านั้นในทางวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้วัยรุ่นและครอบครัวเข้าใจต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งสภาพสังคมและเทคโนโลยี รับรองว่าอ่านสนุก ได้ความรู้ ได้เข้าใจตัวเองและการเป็นวัยรุ่นอย่างง่ายๆ แน่นอนค่ะ
ต่อกันด้วยหนังสือเล่มนี้ ที่เข้าใจวัยโก๋สุดๆ “เป็นวัยรุ่นมันยาก” โดยหนังสือจะเล่าถึงประสบการณ์ของ "เอวาน แฮนเซน" ที่เขียนถึงตัวเองและคำแนะนำของนักบำบัดที่ช่วยให้เขาหลุดพ้นจากความรู้สึกโดดเดี่ยว และรู้จักตัวตนที่แท้จริง เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวการเติบโตของวัยรุ่นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ในยุคสมัยแห่งเทคโนโลยีที่ช่วยเชื่อมโยงผู้คนถึงกัน แต่กลับไม่อาจเติมเต็มความรู้สึกโดดเดี่ยว แปลกแยกของเขาได้ บอกเลยว่า นักเขียนนำสนอเรื่องราวได้อย่างสมจริง อ่านแล้วเข้าใจทั้งผู้เขียน และหันกลับมาเข้าใจตัวเองได้มากขึ้นด้วย
หนังสือแบบฝึกหัดง่าย ๆ ที่ทำตามได้จริง ช่วยปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมจากปัญหาความวิตกกังวลต่างๆ ที่จะทำลายชีวิตวัยรุ่น เขียนโดย ดร.เรจีน กาลันตี นำวิธีบำบัดความคิดและพฤติกรรม (CBT) กับการการฝึกสติ (mindfulness) มาบอกเล่า ไม่ว่าจะเป็นการ“กลัวว่าจะไม่เก่งเท่าเพื่อน” “กังวลเมื่ออยู่กับคนที่ไม่สนิท” “ไม่สบายใจเมื่อต้องทำอะไรตามลำพัง” หรือ “กังวลมักหายใจไม่ออก วิงเวียน ตัวสั่น “ เป็นต้น เหมาะสำหรับหลายคนที่ต้องเผชิญกับความเครียด ทำให้สามารถรับมือกับความวิตกกังวล รวมถึงเข้าใจโรคย้ำคิดย้ำทำ โรคตื่นตระหนก โรคซึมเศร้า โรคกลัวได้ดีขึ้นด้วย
หนังสือฮาวทูที่ฮิตติดชาร์ต สมกับการเป็นที่กล่าวขานมาก โดยเล่มนี้ จะช่วยปลอบประโลมและชี้แนะแนวทางการใช้ชีวิตให้กับวัยรุ่นที่กำลังหลงทางในโลกของการเป็นผู้ใหญ่ฉบับเริ่มต้น เขียนโดย คิมรันโด ที่ปรึกษาวัยรุ่นแห่งเกาหลีใต้ เขาจะค่อยๆ เล่าเหตุการณ์ที่ได้พบเจอกับลูกศิษย์หลากหลายประเภทในมหาวิทยาลัย และได้ช่วยชี้แนวทางวัยรุ่นเกี่ยวกับเรื่องการเรียน การเก็บเงิน การหางานทำที่มีความสุข ซึ่งส่วนใหญ่ เมื่อเด็กอยู่ในช่วงวัยใกล้เรียนจบและกำลังจะเข้าสู่วัยทำงาน มักจะมีความกังวลเรื่องเหล่านี้มากเป็นพิเศษ คำแนะนำแต่ละอย่าง สามารถนำไปใช้ได้จริง เข้าถึงและเข้าใจคนเป็นวัยรุ่นจริงๆ
อย่างไรก็ตาม การเป็นวัยรุ่นก็อาจไม่ได้น่ากลัวกว่าที่คิด ถือเป็นวัยที่ครบรส หลากหลาบอารมณ์ มาใช้ช่วงเวลานี้อย่างคุ้มค่า ทดลองทำสิ่งที่ชอบ ตามหาความฝันของตัวเอง และใช้พลังสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับคนรอบข้างและสังคม น่าจะช่วยเติมเต็มความเป็นวัยรุ่นที่น่าจดจำได้ไม่น้อย