ปี 1 ฟังทางนี้! ขอต้อนรับเฟรชชี่ที่พึ่งก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัยฯ แบบเต็มตัว งานนี้บอกเลยว่า การปรับตัวไม่ง่าย ทั้งการเรียน กิจกรรม และความรับผิดชอบที่สูงขึ้น แต่ถึงยากแค่ไหน เราก็เชื่อว่าทุกคนทำได้ B2S CLUB ชวนมาปลดล็อกสกินทองคำ กับเคล็ดลับที่จะทำให้เปิดเทอมใหม่นี้้ เฟรชชี่ใช้ชีวิตได้แบบอีซี่และแฮปปี้!
แต่เอ๊ะ! ก่อนที่จะไปดูเคล็ดลับนั้น เรามาดูกันก่อนดีกว่า ว่าการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย แตกต่างจากวัยมัธยมยังไง เพื่อที่น้องๆ จะได้เตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ให้เกิด culture shock และถอดใจไปซะก่อน
น้องๆ ต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม กับการเรียนในแต่ละรายวิชาที่แสนยาวนาน เพราะโดยปกติในช่วงมัธยม เราจะเรียนคาบละเพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ในรั้วมหาวิทยาลัย เราจะใช้เวลาในการเรียนหนึ่งคาบต่อหนึ่งรายวิชายาวนานถึง 3-4 ชั่วโมงเลย ดังนั้น ต้องมีสติ และสมาธิมากๆ ไม่อย่างนั้นอาจจะหลุดโฟกัสเนื้อหาที่สำคัญได้เลย
ข้อนี้สำคัญมากๆ กับการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะว่าเราต้องลงเรียน และจัดสรรตารางเรียน ตางรางชีวิตของตัวเองให้ดี ซึ่งจะมีทั้งวิชากลางของมหาวิทยาลัย วิชาเฉพาะสาขา วิชาเลือก และอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องจัดสรรให้ดี ให้เราเรียนจบภายในระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด บอกเลยว่า ถ้าพลาดแค่นิดเดียว อาจจะทำให้ต้องเสียเวลาลงเรียนอีกเทอมนึงเลยก็ได้
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น จะไม่มีคุณครูมาช่วยติดตามให้ส่งงานอีกแล้ว ดังนั้น ถ้ามีงานที่ต้องส่ง อย่าลืมวางแผนการทำงาน และเคลียร์งานให้เรียบร้อย เพราะมีผลต่อการให้คะแนนและเกรดเฉลี่ยของเราอย่างแน่นอน
นอกจากการเรียนที่แสนยาวนานแล้วนั้น บอกเลยว่า ต้องเตรียมตัวกับการสอบให้ดี โดยแต่ละรายวิชาจะใช้ระยะเวลาการสอบประมาณ 2-3 ชั่วโมง ส่วนใหญ่เป็นการสอบแบบข้อเขียน ดังนั้น เนื้อหาต้องแม่น ทฤษฎีต้องเป๊ะ ควรเตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าไม่อยากโดนข้อสอบ Kill ในห้องสอบ
การตัดเกรดการเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ การตัดเกรดอิงกลุ่ม โดยจะนำคะแนนของทั้งคลาส (ห้องเรียน) มาทำค่าเฉลี่ย และตัดเกรดออกมา ซึ่งการตัดเกรดแบบนี้ ทำให้เราต้องสู้ทั้งกับตัวเอง และสู้กับเพื่อนๆ ร่วมคลาส ส่วนอีกแบบ เป็นการตัดแบบอิงเกณฑ์ ซึ่งอาจารย์ผู้สอน จะมีเกณฑ์การตัดเกรดมาให้ เป็นการให้เราสู้กับตัวเองว่าจะทำได้เท่าที่อาจารย์ตั้งไว้ไหม ถือว่ามีความยากคนละแบบ แต่ยังไงก็อย่าลืมเตรียมตัวให้ดีทุกการสอบเลยนะ
จะเห็นว่า การเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยนั้น นอกจากจะต้องตั้งใจเรียน ตั้งใจทำคะแนนแล้ว ส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การจัดสรรเวลา หรือการบริหารจัดการตารางชีวิตของตัวองให้ดีด้วยตัวเอง ดังนั้น B2S CLUB จึงอยากจะชวนชาวคลับมาทำ “bullet journal” (BUJO) หรือเคล็ดลับจัดสรรชีวิต ที่จะทำให้เฟรชชี่หน้าใสเอาตัวรอดในมหาวิทยาลัยยได้นั่นเอง
Bullet Journal หรือ BUJO เป็นวิธีการจดบันทึกที่ใช้สัญลักษณ์ “bullet point” หรือสัญลักษณ์ง่ายๆ อื่นๆ เข้ามาช่วยทำให้ทุกคนสามารถเห็นตารางงาน สิ่งที่ต้องทำ งานที่ต้องติดตามในแต่ละวัน ให้น้องๆ สามารถถวางแผนการใช้เวลาในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่พลาดที่จะทำสิ่งสำคัญ หรือส่งงานได้ตาม deadline
สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำ Bullet Journal ประกอบด้วย
ใช้สมุดที่เราสามารถบันทึกสิ่งที่ต้องทำลงไปได้ อาจจะมีวันที่กำกับ หรือไม่มีวันที่กำกับก็ได้ เลือกแบบที่ชอบได้เลย ซึ่งสมุดเล่มนี้ เปรียบเสมือนตัวช่วยเตือนความจำ ให้เราได้คอยเช็คว่าต้องทำอะไร และสามารถเปิดอ่านเมื่อไหร่ก็ได้
เป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กับสมุดโน้ต เราสามารถใช้ปากกาสีๆ เพื่อช่วยให้การจดจำดีขึ้นได้ อาจกำหนดสีตามรายวิชา หรือกำหนดสีตามความสำคัญของเรื่องนั้นๆ ก็จะทำให้ Bullet Journal ของเราน่าอ่านและดูง่ายขึ้นด้วย
ตัวช่วยที่ช่วยเน้นย้ำความสำคัญของข้อความ หรือสิ่งที่ต้องทำ ทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของสิ่งนั้นๆ และเลือกที่จะจัดการเป็นอันดับแรก ทำให้จัดสรรตารางชีวิตได้ดีมากขึ้น
ขยายความสิ่งที่ต้องทำด้วย Post it เราสามารถใช้มันจดโน้ตและขยายเนื้อหาในสิ่งที่ต้องทำได้ หรือการเลือกใช้สี post it ของแต่ละรายวิชา ก็จะทำให้ช่วยจำแนกรายละเอียดงานของแต่ละวิชาได้ดีขึ้นด้วย
และนี่ก็คือข้อมูลและวิธีดีๆ ที่เรานำมาให้ในวันนี้ เพื่อเตรียมตัวกับการเป็นเฟรชี่น้องใหม่ที่จะมาถึง ทั้งการเรียนที่ต้องปรับตัว กิจกรรมแน่นๆ และการต้องจัดสรรเวลาชีวิตให้ดี ได้ทริคดีๆ แบบนี้แล้ว เชื่อว่าน้องๆ ทุกคน ต้องรอดพ้นปีแรกไปได้อย่างราบรื่นแน่นอน B2S CLUB เป็นกำลังใจให้นะ