เมื่อโลกบังคับให้เราต้องปีนป่าย ต้องขวนขวาย ต้องพยายาม เพื่อที่จะเป็นคนเก่งบ้าง คนดีบ้าง คนสำเร็จบ้าง และคอยเปรียบเทียบเรากับคนอื่น ๆ อยู่เสมอ ย้ำเตือนว่าเรายังไม่ดีพอ ไม่เก่งพอ จนเราต่างคุ้นเคยและคุ้นชินกับสภาวะแบบนั้นเป็นปกติ
สภาพแวดล้อมเหล่านี้หล่อหลอมให้เราไม่เคยพอใจกับตัวเราเอง ไม่เคยมองความสำเร็จก้าวเล็ก ๆ ที่เราทำได้ในแต่ละวัน จนหลงลืมความสุขระหว่างทาง ปล่อยวางความคิดที่บีบบังคับตัวเราเองไม่ได้ และท้ายที่สุด เราก็จะมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง รักตัวเองไม่เป็น
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ Self-Love พร้อมทั้ง How to วิธีการอัพสกิลฮีลใจที่ช่วยให้คุณรักตัวเองแบบกำลังดี...เพราะ ‘การรักตัวเอง’ เป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
Self-love มีความหมายว่า การรักตัวเอง ซึ่งการรักตัวเองในที่นี้หมายถึงการปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความเคารพและอ่อนโยน ซึ่งเป็นพื้นฐานมาจากการยอมรับและเคารพความเป็นตัวเองด้วยจิตวิญญาณอย่างแท้จริง
และเมื่อคุณมีความรักตัวเองต่ำจนเกินไป จะทำให้คุณเกิดความรู้สึกไม่ชอบตนเอง ไม่ค่อยภูมิใจในตนเอง ขาดความเชื่อมั่น ไม่เห็นคุณค่าหรือเคารพตัวเอง ซึ่งสิ่งนี้เองเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณใช้ชีวิตอย่างไร้ความสุข เปรียบเสมือนต้นไม้ที่ขาดปุ๋ยไร้ชีวิตชีวา
เราจึงอยากชวนคุณหันกลับมาโอบกอดตัวเองด้วยความรัก เสริมภูมิต้านทานในชีวิตด้วยความอบอุ่นที่สามารถสร้างขึ้นได้ด้วยตัวเอง! ผ่าน 4 วิธี อัพสกิลฮีลใจ How to รักตัวเองแบบกำลังดี มีอะไรบ้างไปดูกัน
เป็นปกติของชีวิตที่ต้องเคยผิดพลาด แต่เมื่อผิดพลาดแล้วเราต้องยอมรับและหาทางแก้ไข พร้อมทั้งเก็บความผิดพลาดนั้นมาเป็นประสบการณ์เพื่อไม่ให้ทำผิดซ้ำสอง เมื่อเรายอมรับกับความผิดพลาดทั้งของตัวเราและของผู้อื่นได้ ชีวิตของเราก็จะโล่งสบายและรู้สึกมีความสุขขึ้น
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะร้องไห้เมื่อเจอเรื่องที่หนักหนา เพราะเราต่างเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกอยากร้องไห้ ไม่จำเป็นต้องอดกลั้นมันเอาไว้ ปลดปล่อยน้ำตาออกมา จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น และระลึกไว้เสมอว่า การร้องไห้ไม่ได้หมายถึงความอ่อนแอ
เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น อาจจะเป็นคำที่ฟังดูเหมือนง่ายแต่ช่างทำได้ยากเหลือเกิน โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ที่เราต่างมีโลกโซเชียลได้ติดตามชีวิตของใครหลายคน ทุกคนต่างแสดงแง่มุมที่งดงามของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน การแต่งตัว การงาน ความสำเร็จ กลายเป็นภาพลักษณ์ที่กระตุ้นให้ใครหลายคนอยากทำตาม พยายามไปคาเฟ่นั้น แต่งตัวแบรนด์นี้ เดินทางไปประเทศนู้น และทำให้เราต้องพยายามจะเป็นอย่างคนอื่นหรือดีกว่าคนอื่นเสมอ ความรู้สึกเหนื่อย
แต่หากเราเริ่มที่รักและพอใจในสิ่งที่เรามีหรือสิ่งที่เราเป็น เราจะแข็งแรงพอที่จะไม่สะทกสะท้านกับชีวิตของคนอื่น หรือคำพูดของใครก็ตาม ซ้ำยังสามารถสรรเสริญยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น และชื่นชมตัวเองได้เช่นกัน
หากจะถามว่ามีใครในโลกนี้ที่คุณควรให้ความสำคัญมากที่สุด บอกได้เลยว่านั่นคือตัวคุณเอง หลายต่อหลายครั้งที่เราทำตามความต้องการของคนอื่น เป็นอย่างที่คนอื่นอยากให้เป็น ทำอย่างที่คนอื่นอยากให้ทำ แต่เราไม่เคยถามตัวเองจริง ๆ ว่าเราต้องการอะไร
ดังนั้น หมั่นดูแลตัวเอง ชื่นชมและให้รางวัลกับตัวเอง แม้แต่เรื่องที่เล็กน้อยที่สุด ก็เป็นการสร้างกำลังใจรายวันและสะสมความสุขให้พอกพูนขึ้นในทุกวัน
หวังว่าคุณผู้อ่านจะได้วิธีการฝึกรักตัวเองทีละน้อยในทุกวัน และพักการโบยตีตัวเองให้เจ็บช้ำ มาฟังเรื่องราวและเคล็ดลับการรักตัวเองแบบพอดีจากสำนักพิมพ์ Springbooks ที่อยากมาแนะนำชาวคลับกัน แต่จะมีเล่มไหนบ้าง ไปดูกัน
หนังสือจาก ‘คิดมาก’ ที่แฟนคลับไม่ควรพลาด ด้วยกลวิธีการเขียนจดหมายจากเพื่อนคนหนึ่งที่เขียนถึงเพื่อน (ผู้อ่าน) ที่กำลังท้อหรือรู้สึกสับสน ให้หัดโอบรับความรู้สึกตัวเองและกอดตัวเองแน่น ๆ เลิกเอาตัวเองไปหมุนรอบใครคนหนึ่ง เลิกตั้งเงื่อนไขก่อนมีความสุข เรียนรู้การให้อภัยและมูฟออนจากทุก ๆ สถานการณ์ ทุกถ้อยคำที่ร้อยเรียงในแต่ละบรรทัดจะทำให้คุณค่อย ๆ ซึมซับกำลังใจดี ๆ
สั่งซื้อแค่โอบกอดตัวเองให้เป็น
หนังสือว่าด้วยการใช้ชีวิตในวัยผู้ใหญ่ให้มีความสุข ประกอบไปด้วยเนื้อหาทั้งหมด 30 บท แต่ละบทมีความยาวประมาณ 4 - 6 หน้า มีรูปภาพและสีสันที่น่าอ่าน ร้อยเรียงถึงเรื่องราวของชีวิตผู้ใหญ่ทั่วไป ทั้งเรื่องครอบครัว การงาน ความรัก และความสุขที่หล่นหายระหว่างเส้นทางการเติบโต
บนโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ เลยอยากชวนคุณมาตั้งคำถามว่าเราจะมีความสุขกับความไม่สมบูรณ์แบบอย่างไร หนังสือแนะนำแนวคิดและวิถีดำรงชีวิตจาก "อีซึงช็อก" ที่จะช่วยปลอบประโลมใจที่เหนื่อยล้าจากการทำ เพื่อ(สายตา)ของคนอื่นมากกว่าใจของตัวเอง
สั่งซื้อความสุขไม่ต้องสมบูรณ์แบบ
หนังสือเล่มนี้ได้มอบข้อคิดบางประการให้กับคนที่กำลังจมอยู่กับความผิดพลาด ด้วยความกลัวที่จะไม่สมบูรณ์แบบ ให้ก้าวข้ามเพื่อใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ด้วยภาษาแบบเพื่อน ๆ ที่ช่วยโอบกอดคุณและบอกว่า “เอาน่ะ เพราะเราเป็นคนธรรมดา” เพราะฉะนั้นผิดพลาดได้ ล้มเหลวได้ แต่ใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาแบบนี้ให้มีความสุขในโลกที่เต็มไปด้วยความใจร้ายเถอะนะ หากใครกำลังจมอยู่กับความทุกข์ขอแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้มาอยู่เป็นเพื่อนเลยล่ะ
สั่งซื้อเพราะไม่สมบูรณ์แบบจึงงดงาม
หนังสือที่ชวนเรามาใจดีกับตัวเอง ด้วยความตั้งใจของผู้เขียนที่อยากชวนมาทบทวนตัวเองให้วางใจใ ห้อิสระ ไม่ยึดติด ไม่ร้อนรน ให้ซอฟท์ใสกับหัวใจของตัวเอง เหมาะสำหรับวันที่ใจบาง ช่วยเติมกำลังใจในวันที่หลงทาง
สั่งซื้ออย่าเป็นคนดีกับใคร ถ้ายังไม่ดีพอกับตัวเอง
หลายคนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ในช่วงบทแรก ๆ คงงงว่าทำไมหนังสือเล่มนี้ถึงบอกให้เรา ‘ยอมแพ้’ ไปซะทุกเรื่อง ก็เพราะว่าใจความของหนังสือเล่มนี้มันคือ “ชีวิตเป็นเรื่องของทิศทาง ไม่ใช่ความเร็ว” ยังไงล่ะ ถ้าไปผิดทางต้องหยุดแล้วหาทางใหม่ ไม่ใช่ฝืนไปต่อ และให้คิดว่านี่คือโอกาสในการลองใช้ชีวิตให้แตกต่าง หนังสือเล่มนี้ทำให้เห็นอีกแง่มุมของการทำงานและการใช้ชีวิตว่าเราไม่จำเป็นต้องเร่งรีบหรือพยายามมากจนเกินไป หากรู้สึกเหนื่อยก็แค่หยุดพัก เรื่องราวของผู้เขียนช่วยให้คนอ่านหยุดตั้งคำถามในแทบทุกบทว่า เราใช้ชีวิตยากเกินไปหรือเปล่า ลองช้าลงบ้างไหมเผื่อจะไปได้ถูกทาง
สั่งซื้อนี่เราใช้ชีวิตยากเกินไปหรือเปล่านะ
หนังสือที่ตีหัวเข้าบ้านตั้งแต่ชื่อหนังสือที่เปิดมาได้อย่างน่าสนใจ และเนื้อหาภายในเล่มก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเพราะกว่าจะฟันฝ่ามาได้เราต้องผ่านอะไรมากมายมีทั้งสุขและทุกข์ เพียงแค่เราค่อย ๆ ก้าวเดินไปทีละก้าว อย่าเร่งรีบ และจะมีสิ่งดี ๆ รอคอยเราอยู่ข้างหน้าในสักวันหนึ่ง เพราะ ความเจ็บปวด และความโดดเดี่ยวที่เราได้พบเจอในบางจังหวะเป็นเพียงส่วนหนึ่งในชีวิตเท่านั้น แต่ทว่าความมุ่งมั่น ความฝัน และความรัก คือ แก่นแท้ของชีวิต เรียกได้ว่าเป็นหนังสือที่ช่วยให้ใจฟูขึ้นมาได้ตั้งแต่ต้นจนจบเลย
สั่งซื้อกว่าจะมาถึงวันนี้ต้องขอบคุณหัวใจของเธอนะ
ลองอ่านสัก 1 ใน 7 เล่มนี้ดู เผื่อว่าสักประโยคท่ามกลางหนังสือเหล่านี้จะสะกิดต่อมความคิดและความรู้สึกภายในตัวคุณ และท่ามกลางโลกที่เอาแต่จ้องจะโบยตีเรา หวังว่าคุณจะได้ ‘ฝึก’ โอบกอดตัวเองให้แน่นขึ้นอีกนิด เพื่อชีวิตที่มีความสุขขึ้นอีกหน่อยนะ