‘การอ่าน’ และ ‘พัฒนาการเด็ก’ สองคำนี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร และคุณพ่อคุณแม่จะมีวิธีการอย่างไรที่จะสร้างนิสัยรักการอ่านให้กับเด็ก วันเด็กปี 2566 นี้ B2S CLUB มาพร้อมความรู้รอบตัวดี ๆ เป็นของขวัญสุดพิเศษที่อยากมอบให้เด็กไทยทุกคน
‘การอ่าน’ ไม่ว่าจะอ่านหนังสือเรียน วรรณกรรม นิยาย หรือการ์ตูน ล้วนแล้วแต่เป็นการเสริมสร้างทักษะการอ่าน คิด วิเคราะห์ และจินตนาการของเด็ก ซึ่งคนในครอบครัวสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ได้ เป็นการใช้เวลาคุณภาพกับคนในครอบครัว ส่งต่อความรัก ความอบอุ่น การดูแลเอาใจใส่ ผ่านกิจกรรมการอ่านง่าย ๆ เพียง 10-15 นาทีก็ช่วยเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขของทุกคนในครอบครัวได้
• การอ่านช่วยปูพื้นฐานการเรียนรู้
เด็กที่เริ่มอ่านหนังสือได้เร็วจะมีแนวโน้มของพัฒนาการที่ดี และมีความพร้อมในการเรียนรู้ที่ดีกว่าเด็กคนอื่น
• การอ่านช่วยให้เด็กคิดวิเคราะห์เป็น
ข้อมูลต่าง ๆ ที่เด็กได้เรียนรู้จากการอ่านหนังสือจะช่วยให้สามารถลำดับความคิด วิเคราะห์ และสังเคราะห์เรื่องราวรอบ ๆ ตัว ได้อย่างเป็นระบบ
• การอ่านช่วยเพิ่มจินตนาการ
เมื่อกรอบของความคิดไม่ได้หยุดที่เพียงตัวหนังสือเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เด็กโลดแล่นในโลกของจินตาการได้อย่างอิสระไร้ขอบเขตด้วย
นอกจากการเสริมสร้างพัฒนาการทั้ง 3 ด้านข้างต้นแล้วการอ่านยังช่วยฝึกทักษะทางภาษา การเข้าสังคม การจัดการอารมณ์ จริยธรรม รวมถึงการเคลื่อนไหวและสุขภาวะทางร่างกายด้วย เรียกว่าครอบคลุมทุกพัฒนาการของเด็ก ๆ เลยทีเดียว
เราจะส่งเสริมนิสัยรักการอ่านได้อย่างไร ?
• เป็นตัวอย่างนักอ่านที่ดีให้กับเด็ก ๆ โดยเฉพาะน้อง ๆ ในวัยที่กำลังเรียนรู้ และเลียนแบบพฤติกรรม หากพ่อ แม่ หรือผู้ปกครองสามารถอ่านหนังสือให้ฟัง ให้เห็นบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้เด็ก ๆ มีนิสัยรักการอ่านได้
• ทำให้การอ่านหนังสือเป็นเรื่องสนุก โดยเริ่มต้นจากหนังสือนิทาน หรือหนังสือนิยายก่อน เพื่อให้รู้สึกเพลิดเพลิน และสามารถมีสมาธิจดจ่ออยู่กับหนังสือ ในอนาคตน้อง ๆ ก็จะสามารถอ่านหนังสือได้หลากหลายแนว ในระยะเวลานานขึ้นได้
• ให้เด็กเลือกหนังสือที่ชอบด้วยตัวเอง เพราะคนเราชอบไม่เหมือนกัน ลูกน้อยเองก็เช่นกัน การที่ปล่อยให้เขามีอิสระในการเลือกสิ่งที่ชอบจะทำให้เขาสามารถโฟกัสกับสิ่งนั้นได้ดีกว่า
• พาไปอยู่ในบรรยากาศของการอ่าน เช่น ร้านหนังสือ หรือห้องสมุด ให้เขาได้ซึมซับบรรยากาศรอบ ๆ จนเกิดเป็นความชอบในที่สุด
เชื่อว่าเทคนิคง่าย ๆ เหล่านี้ คุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ปกครองสามารถทำได้อยู่แล้ว! เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566 ที่จะมาถึงนี้ ถือเป็นวาระประจำปีที่ทาง B2S CLUB จะแนะนำหนังสือดี ๆ ที่ต้องมีติดบ้านเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการ ทักษะชีวิต ความคิด รวมถึงนิสัยรักการอ่านให้กับน้อง ๆ ซึ่งนับเป็นการวางรากฐานทางความคิดที่มั่นคงให้กับเด็ก ๆ จากหนังสือหลากหลายหมวดหมู่ แต่จะมีเล่มไหนน่าสนใจที่ต้องหยิบลงตะกร้า ไปดูพร้อม ๆ กันเลย!
หมวดที่ 1 คำพื้นฐานในชีวิตประจำวัน
มาฝึกเด็ก ๆ ที่บ้านให้สามารถสื่อสารด้วยคำพูดง่าย ๆ สำหรับเด็กวัย 1 -3 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังหัดพูด ให้สามารถพูดคำเหล่านี้ได้อย่างคล่องปาก เสริมสร้างมารยาทพื้นฐานในการเข้าสังคมและสื่อสารกับผู้คน ให้เขากล้าคิด กล้าพูด กล้าแสดงออกกว่าที่เคย ผ่านนิทานภาพคำกลอนของเด็กหญิงปิงปิง นอกจากคำพูดพื้นฐานที่จะได้เรียนรู้แล้ว นิทานเซ็ตนี้ยังได้สอดแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้กับคุณพ่อ คุณแม่ มือใหม่ไว้อบรมบ่มเพาะหนูน้อยด้วย ซึ่งเราได้คัด 4 เล่มเด่นจากนิทานเซ็ตนี้มาให้คุณพ่อคุณแม่หยิบลงตะกร้าไปพร้อม ๆ กันเลย
หยิบลงตะกร้า คลิก
หยิบลงตะกร้า คลิก
หยิบลงตะกร้า คลิก
หยิบลงตะกร้า คลิก
หมวดที่ 2 นิทานอีสป
หนังสือนิทานสุดคลาสิกที่ได้รับความนิยมมาทุกยุคทุกสมัยด้วยเนื้อเรื่องที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย สนุก แถมยังให้ข้อคิดดี ๆ ในตอนท้ายให้เด็ก ๆ ได้ซึมซับแนวคิด ทัศนคติ และแนวทางในการใช้ชีวิตตามวิถีของสังคม ซึ่งส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้ผู้อ่านจดจำได้ง่าย คือ การใช้ตัวละครที่เป็นสัตว์มาเป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก พร้อมกับสอดแทรกนัยยะต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้อ่านได้คิด ทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เช่น ราชสีห์ เป็นตัวแทนของผู้ที่มีอำนาจ, หนูเป็นตัวแทนของชนชั้นล่างผู้ต่ำต้อย, ลา เป็นตัวแทนของผู้ที่ด้อยสติปัญญา เป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่ทำให้นิทานอีสปเป็นที่นิยมสำหรับเด็กมาโดยตลอด ซึ่งวันนี้เราก็ไม่พลาดที่จะแนะนำหนังสือนิทานอีสปที่เด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดี ดังต่อไปนี้
หยิบลงตะกร้า คลิก
หยิบลงตะกร้า คลิก
หยิบลงตะกร้า คลิก
หมวดที่ 3 นิทานปรัมปรา
นิทานปรัมปราเป็นนิทานที่เล่าขานสืบต่อกันมา ซึ่งมีที่มาจากหลายพื้นที่ทั่วโลก นอกจากความสนุกของตำนานในแต่ละท้องถิ่นแล้ว ยังมีการผสมผสานความเชื่อ ความศรัทธา และแนวคิดต่าง ๆ เอาไว้มากมาย เป็นความรู้รอบตัวที่ห้องเรียนไม่มีสอนโดยตรง แต่พ่อแม่สามารถถ่ายทอดให้เด็ก ๆ เรียนรู้ ผ่านหนังสือนิทานปรัมปราเหล่านี้ได้
หยิบลงตะกร้า คลิก
หยับลงตะกร้า คลิก
“รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” ความขวัญวันเด็กแห่งชาติที่มุ่งเน้นการปลูกฝังให้เยาวชนไทยรู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบภายใต้แนวคิดของความดี หวังว่าในปีนี้น้อง ๆ ทุกคนจะเอนจอยกับทุกช่วงเวลาของวัยเด็กเพื่อเติบโตขึ้นมาเป็นอนาคตและสร้างความสดใสให้กับโลกใบนี้ของเราให้น่าอยู่ขึ้นในทุก ๆ วันนะคะ